ถือเป็นรองเท้าอีกหนึ่งทรงที่ผู้ชายทุกคนควรหันมาให้ความสนใจสักนิด ต่อให้ใครๆ จะบอกว่ารองเท้าเจ้ากรรมกำลังจะหมดยุค แต่เรากลับคิดว่า Chelsea Boots นี่ไม่น่ามีวันตายนะครับ เพราะต่อให้ Fashion จะวิ่งวนไปทางไหนก็ตาม Chelsea Boots ก็คงยังอยู่ในวงการเสมือนเพื่อนสนิทที่ห่างหาย แต่พอได้เจอกันก็ต่อกันติดทุกทีไป และสิ่งที่คุณควรรู้มากที่สุดจากรองเท้าคู่นี้ก็คือประวัติที่แสนเก๋า แถมใส่ได้หลากหลาย “ในช่วงที่ใครๆ ก็ต่างหันไปหา Sneaker กันหมด MDs’ ว่า ลองหันมาดูรองเท้าเท่ๆ สไตล์ Classic ดูก็น่าจะดีนะครับ”
ประวัติแสนโหดของ Chelsea Boots
หนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของรองเท้าที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในยุค Victorian ก็คือรองเท้าคู่กรรมคู่นี้แหละครับ ซึ่งแต่เดิมเคยมีชื่อว่า Paddock หรือ Jodhpur boots ถูกออกแบบและผลิตโดย J. Sparkes-Hall (รองเท้าจะไม่มีเชือกเป็นตัวรัด และตัวรองเท้าสูงถึงข้อเท้า) โดยการออกแบบครั้งนี้เพื่อให้ Queen Victoria ได้สวมใส่ และถือเป็นรองเท้าคู่โปรดในที่สุด หากจะให้พูดถึงจุดเด่นของตัวรองเท้า คงต้องพูดถึงพื้นยางที่ถูกพัฒนาโดย Charles Goodyear ในปี 1839 และนำมาใส่ยางยืดด้านข้างของตัวรองเท้าในปี 1851
ต่อมาในช่วงปี 1950s เหล่าผู้สร้างภาพยนตร์ ศิลปิน นักแสดง ต่างย้ายตัวเองเข้ามาอยู่ในย้าย King’s Road และถูกขนานนามว่า “Chelsea Set” จากสื่อต่างๆ ในประเทศอังกฤษ ซึ่งชื่อ Chelsea ส่งต่อไปยังเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายที่กลุ่มคนกลุ่มนี้ใส่กัน และเชื่อกันว่า “คำว่า Chelsea Boots เกิดขึ้นจากกลุ่มคนกลุ่มนี้นี่เอง” เพราะนิยมใส่ Paddock Boots กันเกือบทั้งหมด
ต่อยอด Chelsea Boots เป็น The Beatles Boots
หากใครเป็นแฟน The Beatles คงทราบกันดีครับว่า วงดนตรีที่ยิ่งใหญ่วงนี้เคยพร้อมใจกันสั่งตัดรองเท้า Chelsea Boots เพื่อมาใส่คู่กับชุดสูทไร้ปกอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา โดยแรกเริ่มคนที่สั่งตัดคนแรกคือ John Lennon และ Paul McCartney โดยทั้ง 2 ได้ใส่เอกลักษณ์บางอย่างลงไปนั่นก็คือ ทรงที่เล็กลง หัวรองเท้าแหลมขึ้นเล็กน้อย และเพิ่มสไตล์ส้นรองเท้าเป็นแบบ Cuban สไตล์ พร้อมจุดเย็บต่อชิ้นหนังที่ส้นรองเท้า ผลิตโดยร้าน Anello & Davide ซึ่งเคยตั้งชื่อรองเท้าคู่นี้ว่า “Baba Boots” แต่เพราะความดังของวงดนตรี ทำให้ชื่อรองเท้าเปลี่ยนไปเป็น “The Beatles Boots”
นอกจากความดังจากวงดนตรีชื่อดังแล้ว เจ้ารองเท้า Chelsea Boots เคยได้รับเกียรติเข้าร่วมแสดงกับหนังจอเงินฟอร์มยักษ์อย่าง Star Wars ด้วยนะครับ ไม่ได้ถูกใส่โดยดาราดัง แต่ใส่โดยนักแสดงที่เยอะที่สุดในหนังเรื่องนี้ นั่นก็คือ Stromtropper นั่นเอง
ให้หลังจากปี 1960s ก็เริ่มมีแบรนด์หลากหลายแบรนด์เริ่มผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ไม่ว่าจะเป็น Ben Sherman / Burberry รวมไปถึง Saint Laurent โดยมีพื้นฐานการผลิตมาจากทรงดั่งเดิมแต่พัฒนารูปแบบให้ดีขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง แต่จุดที่ทำให้ Chelsea Boots เป็นที่สนใจของคนทั่วไปมากเป็นพิเศษก็คือเมื่อ Kanye West หันมาใส่รองเท้า Chelsea Boots จากแบรนด์ Bottega Veneta
ข้อดีอย่างหนึ่งของรองเท้า Chelsea Boots ก็คือ คุณสามารถแต่งตัวได้หลากหลาย ใส่คู่กับกางเกงยีนส์หรือสูทก็ได้ MDs’ แนะนำใส่คู่กับเสื้อยืด กางเกงยีนส์ผ้าฟอกขาดเข่าก็เท่ได้เช่นกัน ซึ่งสีรองเท้าสามารถซื้อได้ตั้งแต่สีดำ Classic ดั้งเดิม หรือจะเป็นหนังกลับสีน้ำตาล / เบจ ก้ได้ สุดท้ายคือเลือกทรงที่เล็ก ไม่หนาจนเกินไป เพราะเป้าหมายสำคัญของ Chelsea Boots คือต้องเป็นรองเท้าทรงเรียวเล็กนั่นเอง
ต่อให้ใครจะบอกว่า Chelsea Boots กำลังจะตกเทรนด์ แต่ MDs’ เชื่อว่ารองเท้าคู่นี้นอกจากจะใส่กับชุดได้หลากหลายแล้ว ยังช่วยส่งเสริมให้คุณดูดีมีสไตล์ เรียบๆ แต่ดูดี แถมในขณะที่ทุกคนกำลังหันไปหารองเท้าอย่าง Sneaker กันหมด ลองแหวกแนวมาใส่ Chelsea Boots ดูครับ รับรองแนวแน่ๆ เชื่อเรา