เราเคยคิดว่าการเกิดเป็นผู้ชายมันช่างโชคดี ไม่จำเป็นต้องดูแลตัวเองอะไรมาก จะแต่งตัวยังไงก็ได้ ตื่นเช้าขึ้นมาก็ไม่จำเป็นต้องหวีผม หน้าก็ไม่ต้องแต่ง อะไรก็ง่ายและแสนสบาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปทำให้เรารู้ว่า การเป็นผู้ชายก็ควรต้องดูแลตัวเอง รู้จักพัฒนาบุคลิกภาพของตัวเองให้ดูดี เพราะ “บุคลิกภาพ” คือสิ่งแรกที่คนที่เพิ่งรู้จักคุณนั้นจะมองเห็น ดังนั้นในชีวิตการทำงาน และการเข้าสังคมนั้น บุคลิกภาพที่ดีจะช่วยสร้างความประทับใจให้คนที่คุณพบปะด้วย และจะช่วยเหลือคุณได้มากทีเดียว
เมื่อคิดได้ดังนี้ ผู้ชายที่อยากจะพัฒนาตัวเอง ต้องเลิกคิดว่าฉันจะแต่งตัวยังไงก็ได้แบบตามใจฉันเสียที และควรหันมาเริ่มศึกษาในเรื่องสไตล์ให้มากขึ้น และ MenDetails ก็อยากจะขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ชายพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น วันนี้เราจึงรวบรวมกฎพื้นฐานหลักๆ 3 ข้อของการแต่งกายให้มีสไตล์ที่ผู้ชายทุกคนควรจะรู้ไว้ให้ผู้ชายที่ติดตาม MenDetails ได้อ่านกันครับ
photo : backettrobb.com
ความพอดีนั้นสำคัญที่สุด
ไม่สำคัญว่าคุณจะใส่เสื้อยืดหรือเสื้อเชิ้ตราคาหลักร้อย หรือราคาหลักหมื่น ถ้ามันไม่ฟิตพอดีกับตัวเราซะอย่าง ใส่ยังไงก็ออกมาดูไม่ดีครับ ผู้ชายส่วนใหญ่คิดเอาง่ายๆว่าใส่เสื้อผ้าที่มีขนาดใหญ่เข้าไว้หน่อย เพราะจะได้ใส่สบายๆ และไม่เห็นจำเป็นต้องแคร์เรื่องสตงสไตล์อะไรเลย ส่วนอีกจำนวนไม่น้อยก็มองว่าใส่เสื้อผ้าให้ตัวเล็กๆฟิตแน่นๆเข้าไว้ จะได้ดูผอมลง ทำให้หลายครั้งเราเห็นคนรูปร่างใหญ่แต่ใส่เสื้อผ้าตัวเล็กที่ฟิตจนรัดรูป ซึ่งทั้งสองแบบนั้นเป็นความคิดที่แย่ทั้งคู่ครับ
MenDetails จึงอยากแนะนำให้เปลี่ยนแนวคิดเสียใหม่ครับ ผู้ชายควรเลือกซื้อและเลือกใส่เสื้อผ้าที่กำลังพอดีกับตัวเราจะดีกว่าครับ เสื้อยืดควรจะใส่แบบพอดีตัวแบบที่เรียกว่า “อีกนิดเดียวก็จะคับแล้ว” มากกว่าใส่แบบตัวใหญ่ไหล่ตกครับ (เว้นแต่ว่าคุณจะเป็นสาวกการแต่งกายแนว Street-HipHop ตัวจริง) สูทควรจะเป็นแบบวัดตัวตัด ส่วนกางเกงยีนส์หรือ Chino ก็ควรมีขนาดที่พอดีตามทรงของมัน ไม่ต้องไปใส่ให้เล็กแบบ Super Skinny รัดรูปสุดๆหรอกนะครับ ดังนั้นกฎข้อแรกของสไตล์ผู้ชายก็คือ “ความพอดีนั้นสำคัญที่สุด” ครับ
ความแตกต่างระหว่างสูทที่มีขนาดไม่พอดีตัวด้านซ้าย กับที่มีขนาดพอดีตัวด้านขวา ทำให้คนๆเดียวกันนั้นดูดีขึ้นได้เยอะเลยทีเดียวครับ
อย่าละเลยรายละเอียดเล็กน้อยที่มีความสำคัญ
คำว่า “รายละเอียด” อาจเป็นคำที่แสลงหูอยู่สักหน่อยสำหรับผู้ชาย เพราะพวกเรามักจะไม่ค่อยชอบหรือรำคาญกับรายละเอียดเงื่อนไขเล็กๆน้อยๆรอบตัว แต่ถ้าคุณอยาก upgrade บุคลิกภาพและการแต่งกายของตัวเองแล้วล่ะก็ เรื่องรายละเอียดนี่แหละครับที่สำคัญ เพราะมันคือสิ่งที่สร้างความแตกต่างให้เห็นชัดเจนและแยกออกได้ว่าคนไหนใส่ใจในรายละเอียดของสไตล์ของตัวเองมากกว่า
ตัวอย่างเช่น ผู้ชายควรศึกษาการจับคู่สีของเสื้อผ้าและแอคเซสซอรี่อื่นๆอย่าง รองเท้า, กระเป๋าสตางค์, สายเข็มขัด และ สายนาฬิกา ในเรื่องสีของสายเข็มขัด และสายนาฬิกาก็ควรจะเป็นสีเดียวกับสีรองเท้าเพื่อความเข้ากัน และไม่ควรใส่กางเกงสีดำคู่กับรองเท้าสีน้ำตาล หรือเสื้อเชิ้ตแบบไหนควรจะใส่กับสูทแบบใด และ ปกของเสื้อเชิ้ตแต่ละปกมีลักษณะอย่างไรบ้าง เป็นต้น
photo : Askmen.com
สไตล์ที่ดีเริ่มตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า
ข้อสุดท้ายที่ผู้ชายทุกคนควรรู้ไว้ก็คือ สไตล์ที่ดีของผู้ชายไม่ใช่แค่เรื่องการแต่งกายเท่านั้น แต่คือการดูแลรักษาร่างกายของตัวเองให้สะอาดเรียบร้อยดูดีตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเล็บเท้า การจัดแต่งทรงผมให้เรียบร้อยเป็นสิ่งผู้ชายทุกคนควรทำ หากขี้เกียจนักก็ควรจะตัดผมให้สั้นเข้าไว้เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาจัดแต่ง ร่างกายก็ต้องสะอาดไม่มีกลิ่นตัว เลือกใช้น้ำหอมกลิ่นที่ไม่ฉุนมากเพื่อจะได้ไม่ทำร้ายจมูกคนอื่น เล็บมือเล็บเท้าก็ควรตัดแต่งให้เรียบร้อย เรื่องเหล่านี้คือสิ่งที่ช่วยส่งเสริมสไตล์ของคุณได้
ในเรื่องการแต่งกายที่มีสไตล์ที่ดีนั้นเครื่องแต่งกายแต่ละชิ้นควรจะต้องกลมกลืนกันไปตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นกัน ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งกระโดดออกมาแปลกแยกแตกต่างจนขัดสายตา ยกตัวอย่างหากคุณเลือกใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ denim สีน้ำเงินเข้ม ก็ไม่ควรใส่ รองเท้าหนัง Oxford ให้มันขัดกันเสียเปล่าๆ แต่ควรจะจัดรองเท้า Sneaker สวยๆให้กลมกลืนกับเสื้อผ้าของคุณแบบนี้เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผู้ชายที่คิดจะดูแลบุคลิกภาพของตัวเองให้ดีนั้นควรที่จะใส่ใจ และศึกษาเอาไว้ปรับเป็นสไตล์เฉพาะตัวของตัวเอง
photo : fashionbeans.com
photo : fashionbeans.com
อาจจะเรียกได้ว่าทั้ง 3 ข้อนี้คือกฎกติกาพื้นฐานที่สุดที่ผู้ชายทุกคนควรจะจดจำไว้เพื่อพัฒนาบุคลิกภาพและการแต่งกายของตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น แน่นอนว่าผู้ชายหลายคนอาจจะอ่านแล้วรู้สึกขำ หรือมองว่าไร้สาระ และไม่คิดจะใส่ใจ เพราะคิดว่าจะแต่งตัวยังไงแบบไหนก็ได้ แล้วแต่ที่ตัวเองพอใจ แต่ในเมื่อเราเป็นผู้ชายที่อยู่ในสังคม เราไม่สามารถที่จะละเลยสิ่งที่เรียกว่า “กาลเทศะ” ที่เกิดจากความคาดหวังของคนในสังคมได้ ดังนั้นผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษจะเข้าใจ และพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
MenDetails หวังว่าโพสต์นี้จะเป็นประโยชน์ให้ผู้ชายทุกคนนะครับ