เสื้อผ้า Classic Menswear ส่วนมาก มักได้รับอิทธิพลมา จากเสื้อผ้าของ เหล่าทหาร ไม่ว่าจะเป็นทหารบก ทหารเรือ หรือทหารอากาศ ยกตัวอย่างเช่น กระเป๋า Helmet Bag ของทหารอากาศ ที่มีไว้ใส่หมวกประจำกาย ทุกวันนี้ กระเป๋าทรงดังกล่าว กลายเป็นที่ต้องการในตลาด และมีแบรนด์อย่าง Head Porter หยิบมาขายจนโด่งดัง หรือแม้แต่เสื้อผ้าของกองทัพบกในสมัยสงครามโลก (เช่น M65 เป็นต้น) ต่างก็เป็นที่สนใจของเหล่าสุภาพบุรุษที่หลงใหลเสื้อผ้าแนว Vintage Wear แทบทั้งสิ้น วันนี้ MenDetails จึงอยากหยิบ ทรงเสื้อชนิดหนึ่ง ที่หลายท่านอาจรู้จักชื่อ แต่ไม่รู้จักที่มาที่ไปอย่าง เสื้อเชิ้ต CPO อันเป็นที่รักของเหล่าทหารตั้งแต่ยุค 1930s ไล่ไปจนถึงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยทีเดียว
เสื้อเชิ้ต CPO ย่อมาจาก…
เสื้อที่ถูกบรรจุในกรมกองต่าง ๆ นั้น มักมีที่มาจาก ชื่อปี หรือชื่อสี ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาใช้ แต่สำหรับ CPO นั้น เป็นชื่อที่ใช้เรียก เสื้อเชิ้ตของทหารเรืออเมริกัน เนื่องจากผลิตให้แก่ หัวหน้าผู้ช่วยผู้บังคับการเรือ (Navy Chef Petty Officers) โดยเริ่มต้นผลิต และส่งมอบให้กับทหารเรืออเมริกัน ในช่วงปี 1930s ลักษณะเด่นคือ ผลิตจากผ้าขนสัตว์ที่หนาและแข็งแรงเป็นพิเศษ เพื่อต่อสู้กับอากาศที่หนาวเย็นในทะเล ผลิตในทรงที่ใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย เพื่อการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว รวมไปถึงกระเป๋าหน้าแบบ Flap Pocket 1 ใบที่อกซ้าย และมาใส่สีน้ำเงินเข้ม (Navy)
-Richard Widmark ใส่เสื้อ CPO Shirt ในภาพยนตร์เรื่อง Down to the Sea in Ships-
เสื้อ CPO นั้น ตั้งใจออกแบบมา เพื่อเป็นเสื้อตัวนอก สวมทับ Base Layer ผ้าถักหนา ๆ จึงต้องตัดทรงให้ใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย มาพร้อมกระดุมลายสมอเรือ เฉกเช่นเดียวกับเสื้อ Pea Coat ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผ้าที่นุ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากผ่าน การใช้งานได้สักระยะหนึ่ง แต่ให้ความอบอุ่นได้เป็นอย่างดี กระเป๋า Utility Pocket ถูกใช้งานได้หลากหลาย จนถูกปรับเปลี่ยนให้เพิ่มเป็นกระเป๋า 2 ใบ ในเวลาต่อมา
ถึงปลดประจำการแล้ว ก็ยังใส่อยู่ดี
-เสื้อเชิ้ต CPO จากแบรนด์ Freewheelers-
ถือเป็นหนึ่งในเสื้อทหารไม่กี่รุ่นนะครับ ที่เหล่าทหารชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง ขนาดที่ว่า ปลดประจำการแล้ว ก็ยังหยิบเอาเสื้อเชิ้ต CPO ตัวเดิมที่ใช้งานต่อรับใช้ชาติ ออกมาใส่อยู่ดี ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสไตล์เสื้อ CPO ที่ถูกนำมาใช้งานในโลกของพลเรือนเป็นครั้งแรก ยิ่งเวลาผ่านไป เราก็ได้เห็นเสื้อเชิ้ต CPO ผ่านตาเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งจากทหารเรือ จนไปถึงทหารบกที่กลับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้สไตล์ดังกล่าว ถูกซึมเข้าสู่กระแสแฟชั่น Classic Menswear ในที่สุด
เสื้อเชิ้ต CPO สู่ CPO Overshirt
-Steve McQueen ในเสื้อเชิ้ต CPO-
เนื่องจากการใช้ชีวิตในเมือง ของพลเรือนทั่วไปนั้น ไม่จำเป็นต้อง เผชิญกับสภาพอากาศ อันเลวร้าย ตัวเสื้อจึงถูกปรับเปลี่ยน ให้กลายเป็นเสื้อ Overshirt ที่สวมทับเสื้อยืด หรือเสื้อเชิ้ตผ้าปกติอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งหลากหลายแบรนด์ ที่เลือกหยิบเอาเสื้อ CPO มาผลิตวางขาย ต่างเลือก Pattern ที่มีกระเป๋าหน้า 2 ใบ มากกว่าทรงต้นตำรับ ที่มีกระเป๋าเพียงใบเดียวที่หน้าอกซ้าย บ้างก็ปรับเปลี่ยนจากผ้าขนสัตว์ชนิดหนา ให้บางลง หรือทดแทนด้วยผ้าแบบอื่นเช่น ผ้า Cotton เคลือบด้วย Wax เป็นต้น
สำหรับเสื้อเชิ้ต CPO นั้น เราคิดว่าเหมาะอย่างยิ่ง ที่จะเป็นเสื้อ Overshirt หรือเสื้อ Mid-Layer ชั้น Insulated ไว้ใส่ไปเที่ยว หรือเดินทางไปยังที่ที่หนาวเย็น เช่น เดินห้างสรรพสินค้า หรือในโรงภาพยนตร์เป็นต้น ซึ่งถ้าใครยังไม่เคยได้ยินชื่อเสื้อเชิ้ต CPO มาก่อนเลย ถือเป็น โอกาสดี ที่จะได้ลองทำความรู้จัก และหากมีโอกาส เราขอแนะนำให้ทุกท่าน เลือกซื้อมาใช้งาน สักตัวหนึ่ง รับรองว่าไม่ตกเทรนด์แน่นอนครับ เพราะเสื้อตัวนี้ เรียกว่าขึ้นแท่น Classic ตลอดกาลเลยก็ว่าได้