การซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ กำลังกลายเป็น “เรื่องปกติ” จากที่เมื่อก่อนเราต้องไปลองสวมใส่ตัวจริงก่อนตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าสัก 1 ชิ้น แต่ด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตและการขายของผ่านเว็บไซต์ที่มีข้อมูลครบถ้วน จะทำให้การเลือกซื้อเสื้อผ้าทางออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาในที่สุด อย่างไรก็ดีสิ่งหนึ่งที่เราจำเป็นต้องแน่ใจก่อนการสั่งซื้อนั่นก็คือเรื่องของ “ขนาดเสื้อผ้าที่ต้องพอดีตัว” MenDetails ได้เคยพูดถึงวิธีการเลือกซื้อเสื้อสูทออนไลน์กันไปแล้ว และวันนี้เราจะมาพูดถึงการซื้อกางเกงออนไลน์ รวมถึงการวัดขนาด “กางเกง” เพื่อให้ผู้ชาย ซื้อกางเกงออนไลน์ ให้ใส่ได้พอดีตัวกันทุกคนครับ
เตรียมตัววัดขนาดของกางเกง
เมื่อผู้ขายกางเกงออนไลน์ไม่ได้มีโอกาสมานั่งวัดขนาดร่างกายของเราโดยตรง สิ่งที่ผู้ขายทำได้ก็คือการวัดขนาดในแต่ละส่วนของกางเกงที่เขามีอยู่อย่างละเอียด และระบุไว้ในเว็บไซต์ของเขา ส่วนเราในฐานะผู้ซื้อที่ไม่ได้มีโอกาสเดินทางไปลองสวมใส่กางเกงด้วยตัวเอง ก็ต้องอาศัยวิธีการวัดขนาดจากกางเกงตัวโปรดที่เราชอบใส่และคิดว่าใส่ได้พอดีที่สุด จากนั้นจึงนำตัวเลขขนาดเหล่านั้นไปเปรียบเทียบกับตัวเลขที่ผู้ขายสินค้าระบุไว้ ยิ่งวัดละเอียดและเป๊ะมากเท่าไหร่ โอกาสที่กางเกงจะถูกใจและใส่ได้พอดีตัวก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น การเตรียมตัววัดทำได้โดยหาพื้นที่สะอาด ๆ ที่กว้างพอสมควร จากนั้นนำกางเกงตัวโปรดของเรามานอนราบลงกับพื้น จากนั้นหยิบสายวัดแล้วมาวัดส่วนต่าง ๆ ของกางเกงไปพร้อมกับเราได้เลยครับ
เอว (Waist)
วิธีการวัดเอวมี 2 แบบใหญ่ ๆ คือการวัดแบบ “รอบเอว” กับการวัดแบบ “ครึ่งเอว” ซี่งส่วนใหญ่แล้วเราจะเจอตัวเลขที่ผู้ขายวัดมาแบบครึ่งเอวมากกว่า วิธีการวัดแบบครึ่งเอวก็คือ นำกางเกงของเราวางราบกับพื้นโดยหันด้านหน้าขึ้น จากนั้นจับระดับของขอบกางเกงด้านบนสุดให้เสมอกันเป็นเส้นตรง แล้วจึงวัดความกว้างจากซ้ายไปขวา (หรือจะขวาไปซ้ายก็ได้ แล้วแต่ถนัดครับ) โดยพยายามวัดให้ได้จุดที่กว้างที่สุดแบบพอดี ๆ และอย่าดึงผ้าให้ยืดออก จากนั้นจดบันทึกตัวเลขครึ่งเอวนี้ไว้ทั้งแบบนิ้วและแบบเซ็นติเมตร หากเจอผู้ขายที่ระบุตัวเลขแบบ “รอบเอว” เราสามารถนำตัวเลขครึ่งเอวที่วัดได้ไปคูณสอง เพื่อเป็นตัวเลขรอบเอวได้ครับ
ความสูงของเป้า (Rise)
ความสูงของเป้าคือสิ่งสำคัญที่บ่งบอกถึงความสูงของ “ระดับเอว” ว่ากางเกงตัวดังกล่าวจะเป็นแบบเอวสูง, เอวปกติ หรือว่าเอวต่ำ ซึ่งจะมีผลต่อขนาดความกว้างของเอว (Waist) ในเวลาที่สวมใส่อีกด้วย โดยความสูงของเป้าจะมี 2 ส่วน ได้แก่ “เป้าหน้า” (Front Rise) กับ “เป้าหลัง” (Back Rise) ซึ่งโดยส่วนใหญ่การ ซื้อกางเกงออนไลน์ จะให้ความสำคัญกับตัวเลข “เป้าหน้า” มากกว่า แต่ MenDetails ขอแนะนำให้วัดเป้าหลังเผื่อไว้ด้วยเลยนะครับ วิธีการคือหลังจากที่วัดความกว้างของ “ครึ่งเอว” เสร็จแล้ว ให้วัดความสูงเป็นแนวตั้งลงมาจากขอบบนสุดของกางเกง โดยวัดผ่านเป้ากางเกงมาจนถึงตะเข็บเป้าด้านล่างสุด ตรงนี้คือ “เป้าหน้า” (Front Rise) จากนั้นพลิกด้านแล้ววัดจากขอบกางเกงด้านหลังจนถึงตะเข็บเป้าด้านล่างเช่นกัน ก็จะได้เป็นตัวเลข “เป้าหลัง” (Back Rise) เช่นเคยคือจดบันทึกตัวเลขไว้ทั้งแบบนิ้วและแบบเซ็นติเมตรครับ
ฝั่งซ้ายเป็นการวัด Front Rise ฝั่งขวาเป็นการกลับด้านหลังเพื่อวัด Back Rise
สะโพก (Hip)
เพราะขนาดสะโพกและ “ก้น” ของผู้ชายแต่ละคนไม่เท่ากัน ตัวเลขนี้จึงสำคัญมากโดยเฉพาะกับผู้ชายที่รู้ตัวว่ามีสะโพกใหญ่ วิธีการวัดจะวัดจากด้านหน้าหรือด้านหลังก็ได้ โดยวางกางเกงนอนราบกับพื้น จับให้ขากางเกงกางออกในระดับปกติธรรมชาติของขามนุษย์ อย่าให้กางเกินไปหรือหุบเกินไป จากนั้นวัดความกว้างจากซ้ายไปขวาตรงบริเวณประมาณครึ่งหนึ่งของเป้ากางเกง ซึ่งจะเป็นบริเวณที่กว้างที่สุดที่เรายัดสะโพกลงไปได้ โดยพยายามวัดให้ได้จุดที่กว้างที่สุดแบบพอดี ๆ และอย่าดึงผ้าให้ยืดออก จดตัวเลขดังกล่าวทั้งแบบนิ้วและแบบเซ็นติเมตร
ต้นขา (Thigh)
เช่นเดียวกับสะโพก ก็คือต้นขาของคนเราย่อมไม่เท่ากัน วิธีการวัดต้นขา (Thigh) ของกางเกง ให้เลือกขากางเกงที่เป็นขาข้างที่เราถนัด จากนั้นวัดความกว้างจากตะเข็บเป้าไปยังขอบนอกสุดของขากางเกง โดยพยายามวัดให้ได้จุดที่กว้างที่สุดแบบพอดี ๆ และอย่าดึงผ้าให้ยืดออก จดตัวเลขดังกล่าวทั้งแบบนิ้วและแบบเซ็นติเมตรเช่นเคย
ปลายขา (Leg Opening)
ความกว้างของปลายขา คือจุดสำคัญที่จะบอกได้ทันทีว่ากางเกงตัวนี้มีทรงของขากางเกงแบบใด ลีบเล็กหรือกว้างใหญ่แค่ไหน โดยวิธีการวัดจะมีสองแบบคือแบบ “รอบปลายขา” กับแบบ “ครึ่งปลายขา” ซึ่งเรามักจะเจอตัวเลขแบบครึ่งปลายขามากกว่า ขั้นแรกคือจับให้ปลายขากางเกงของเราอยู่ในระดับที่เสมอกันเป็นเส้นตรงที่สุด แล้วจึงวัดความกว้างจากซ้ายไปขวา (หรือจะขวาไปซ้ายก็ได้ แล้วแต่ถนัดครับ) โดยพยายามวัดให้ได้จุดที่กว้างที่สุดแบบพอดี ๆ และอย่าดึงผ้าให้ยืดออก จากนั้นจดบันทึกตัวเลขครึ่งปลายขานี้ไว้ทั้งแบบนิ้วและแบบเซ็นติเมตร
ความยาวขาใน (Inseam)
เป็นอีกหนึ่งตัวเลขที่สำคัญมาก ๆ ในการเลือก ซื้อกางเกงออนไลน์ เพราะเป็นตัวเลขที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนที่สุดว่า “ขากางเกงยาวแค่ไหน” วิธีการวัดคือให้จับเอากางเกง “นอนตะแคงข้างราบลงกับพื้น” จากนั้นยกขากางเกงข้างที่อยู่ด้านบนให้เปิดขึ้นไป จากนั้นให้วัดจาก “จัดที่ต่ำที่สุดของเป้ากางเกง” ลงมาตรง ๆ จนถึงปลายขากางเกงด้านล่าง จดบันทึกตัวเลข Inseam นี้ไว้ทั้งแบบนิ้วและแบบเซ็นติเมตร ข้อควรระวังคือ อย่ายึดการวัดจาก “รอยเย็บของขากางเกง” นั่นเพราะการออกแบบกางเกงแต่ละตัวของแต่ละแบรนด์มีความแตกต่างกัน รอยเย็บตรงนี้อาจเฉียงออกและมีความยาวที่ไม่เท่ากัน เราจึงควรวัดตรง ๆ ลงมาจากจุดที่ต่ำที่สุดของเป้ากางเกง เพราะจะบอกความยาวของขากางเกงได้แม่นยำกว่าครับ
ความยาวขานอก (Outseam)
ความยาวขานอก (Outseam) หรือความยาวรวม ความจริงไม่ได้มีประโยชน์อะไรนักในการเลือก ซื้อกางเกงออนไลน์ เพราะความยาวขานอกสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระตามความสูงของเป้ากางเกง (Rise) ดังนั้นกางเกงที่มีความยาวขานอกเท่ากัน แต่ถ้าความสูงของเป้าไม่เท่ากัน ก็อาจจะสั้นไปหรือยาวไปสำหรับเราก็เป็นได้ แต่ก็น่าแปลกที่ร้านออนไลน์ส่วนใหญ่มักจะวัดความยาวรวม (Outseam) แบบนี้มาให้ ทั้ง ๆ ที่ความจริงนั้น ความยาวขาใน หรือ Inseam มีความสำคัญกว่ามาก อย่างไรก็ดีเราจะวัดเผื่อไว้ก็ไม่ได้เสียหายแต่อย่างใด วิธีการก็คือวัดตรงตะเข็บด้านนอกของขากางเกง โดยวัดตั้งแต่ขอบเอวด้านบนสุดมาจนถึงปลายขา เช่นเคยคืออย่าดึงเนื้อผ้าให้ยืดออก และจดบันทึกตัวเลขนี้ไว้ทั้งแบบนิ้วและแบบเซ็นติเมตร
ถ้าจะให้รอบคอบ ควรวัดขนาดของกางเกงประมาณ 3 ตัว
กางเกงแต่ละตัว แต่ละแบบ จากแต่ละยี่ห้อ ย่อมมีการออกแบบ และรายละเอียดการตัดเย็บ (Pattern) ที่แตกต่างกัน อีกทั้งเนื้อผ้าที่ต่างกันอย่างผ้ายีนส์, ผ้าวูล หรือ ผ้าลินิน ก็อาจทำให้ขนาดของกางเกงต่างกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ด้วย ดังนั้นหากต้องการความรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่ากางเกงที่เราอยากจะซื้อนั้นมันจะพอดีกับเราจริง ๆ ขอให้เลือกเอากางเกงตัวที่เราชอบออกมาวัดสัก 3 ตัว โดยเลือกตัวที่มีทรงและเนื้อผ้าที่แตกต่างกันออกไป เท่านี้ก็จะเป็นข้อมูลตัวเลขที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการนำไปเปรียบเทียบกับขนาดของกางเกงในร้านออนไลน์ เพื่อความพอดีในการสวมใส่ครับ
ซื้อกางเกงออนไลน์ จากร้านที่แจ้งขนาดอย่างครบถ้วนเท่านั้น!
ตัวเลขขนาดกางเกงที่เราเพียรพยายามวัดมา จะไม่มีประโยชน์อะไรเลยหากผู้ขายกางเกงออนไลน์นั้น ไม่ได้ระบุตัวเลขขนาดเอาไว้บนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่เขาใช้จำหน่ายกางเกงของเขา การซื้อจากร้านที่ไม่ได้แจ้งขนาดเหล่านี้อย่างครบถ้วนจึงเป็นความเสี่ยงที่ผู้ซื้อพึงระวัง บางเจ้าอาจมีความตั้งใจที่ดีและระบุว่าสามารถเปลี่ยนคืนได้หากใส่ไม่พอดี แต่เราในฐานะผู้ซื้อก็ไม่ได้อยากทำเช่นนั้นบ่อย ๆ เพราะทั้งเสียเวลาและเสียความรู้สึกที่จะต้องห่อกลับ ส่งคืน และรอรับเงินคืนอีกทอดหนึ่ง
Drop93.com ของฮ่องกง เป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลขนาดที่จำเป็นอย่างครบถ้วนแบบเข้าใจคนสั่งซื้อจริง ๆ
ทางที่ดีกว่าก็คือพยายามหาซื้อกางเกงจากร้านค้าออนไลน์ที่แจ้งขนาดเหล่านี้อย่างชัดเจนแม่นยำและเป็นมาตรฐานตั้งแต่ต้น ตัวอย่างที่ดีที่สุดคงจะหนีไม่พ้นร้านขวัญใจมหาชนอย่าง UNIQLO ที่ระบุขนาดกางเกงได้อย่างละเอียดและมีมาตรฐาน เรียกได้ว่าถ้าคุณวัดกางเกงของตัวเองอย่างถูกต้องจริง ๆ แล้วนำไปเทียบกับ UNIQLO ได้ตรงกัน มั่นใจได้เลยว่าเราจะได้กางเกงที่ขนาดเป๊ะแน่นอน นอกเหนือจาก UNIQLO แล้วก็ยังมีเว็บไซต์อย่าง MrPorter.com, Drop93.com, Lastandlapel.com กับบรรดาพ่อค้าอิสระของไทยบางรายที่วัดได้ละเอียดเช่นกัน อย่าง Hazy Inquiry, Rugged Supply หรือ บางเจ้าก็ให้เท่าที่จำเป็น อย่าง Raccoon Easy Wear เป็นต้น อย่างไรก็ดีส่วนใหญ่เรามักพบว่าร้านขายกางเกงผู้ชายออนไลน์ในไทยมักจะขาดการให้ข้อมูลในส่วน ความยาวของเป้ากางเกง (Front Rise) และ ความยาวขาด้านใน (Inseam) ซึ่งอันที่จริงสำคัญมากเป็นอันดับต้น ๆ ของการซื้อกางเกงออนไลน์ด้วยซ้ำไป ดังนั้นหากร้านไหนได้อ่านบทความนี้และเห็นด้วยกับเรา ก็ฝากเติมข้อมูลตรงนี้เพิ่มไปด้วยจะเป็นการดีเยี่ยมสำหรับผู้สนใจสั่งซื้อแน่นอนครับ
บทสรุป
หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ การ ซื้อกางเกงออนไลน์ ก็เหมือนคนตาบอด 2 คนมาเจอกัน ผู้ขายไม่ได้เห็นผู้ซื้อ ส่วนผู้ซื้อก็ไม่ได้เห็นตัวสินค้าจริง สิ่งที่จะทดแทนได้ก็คือ “ข้อมูล” ที่ละเอียดแม่นยำจากทั้ง 2 ฝ่าย ดังนั้นขอให้เลือกซื้อจากผู้ขายที่บอกขนาดอย่างละเอียดครบถ้วน และเราเองในฐานะผู้ซื้อที่ดีก็ควรจะเตรียมข้อมูลขนาดของกางเกงที่เราต้องการให้ครบถ้วนเช่นกัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราจะได้กางเกงที่ถูกใจและใส่ได้พอดีตัวจริง ๆ MenDetails ขอให้ทุกคนสนุกสนานกับการซื้อกางเกงออนไลน์นะครับ