ถ้าพูดถึงแบรนด์นาฬิกาที่มีความเกี่ยวข้องกับโลกศิลปะ หลายคนน่าจะนึกถึง Swatch แบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิส เพราะแบรนด์มีการคอลแลปกับจิตรกร และศิลปิน รวมถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปินเพื่อสร้างนาฬิกา Collection พิเศษ ที่นำภาพวาดมาอยู่บนนาฬิกา ไปจนถึงการสนับสนุนโลกศิลปะด้วยวิธีต่าง ๆ นั่นเพราะสำหรับ Swatch เชื่อว่าศิลปะทำให้โลกนี้สวยงามขึ้น ซึ่งเรื่องราวของ Swatch กับโลกศิลปะนั้น สามารถย้อนกลับไปถึงปี 1985 เลยทีเดียว และในบทความนี้ MenDetails จะพาผู้อ่านทุกท่านไปย้อนรอย Swatch art journey การเดินทางของงานศิลป์บนนาฬิกา จากจุดเริ่มต้นถึง Collection ล่าสุดในปี 2023 นี้ ว่ามีหมุดหมายอะไรที่น่าจดจำบ้าง พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยครับ
Swatch art journey การเดินทางเริ่มจากการเจอกันของ Swatch กับ Kiki Picasso
Swatch กับโลกศิลปะเรียกได้ว่าอยู่คู่กันมาแทบจะตั้งแต่ก้าวแรก เพราะหลังจากการก่อตั้งในปี 1983 แค่สองปี Swatch ก็มุ่งหน้าเข้าหาโลกศิลปะด้วยการปล่อยแคมเปญ Swatch Art Special ที่จะร่วมมือกับศิลปินและจิตรกรมาสร้างสรรค์งานศิลปะบนนาฬิกาของตน เพื่อให้นาฬิกาของแบรนด์เป็น “ผืนผ้าใบสำหรับงานศิลปะขนาดเล็กที่สุดในโลก” และยังเป็นการแสดงให้เห็นว่านาฬิกา งานศิลป์ และแฟชั่น ไม่มีเส้นแบ่งที่ชัดเจนและสามารถผสมผสานไปด้วยกันได้
โดยศิลปินคนแรกที่ Swatch ร่วมงานด้วยในปี 1985 คือ Kiki Picasso ศิลปินชาวฝรั่งเศส ในการสร้างสรรค์นาฬิกาเรือนพิเศษ 140 เรือน ที่ทุกเรือนแม้จะมีภาพเหมือนกัน แต่การลงสีนั้นแตกต่างกันทำให้ใน 140 เรือน ไม่มีเรือนไหนที่เหมือนกันเลย ด้วยกระแสตอบรับที่ดีทำให้นี่เป็นจุดเริ่มต้นของ Swatch กับโลกศิลปะนับจากนั้น
หลังจากนั้นในปี 1986 มีความร่วมมือกับ Keith Haring ศิลปิน pop art ชาวอเมริกันที่โดดเด่นในเรื่องการสร้างภาพสไตล์กราฟฟิตี ในการสร้างนาฬิกาเรือนพิเศษด้วยลวดลายแบบการ์ตูน และมันเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชื่นชอบงานศิลปะ และผู้หลงใหลในนาฬิกาอย่างมาก ตามมาด้วยนาฬิกาสไตล์มินิมอลเรือนพิเศษ 140 เรือนจาก Mimmo Paladino ศิลปินชาวอิตาเลี่ยนในปี 1989 และมาถึงในปี 1991 ด้วยผลงานความร่วมมือกับ Alfred Hofkunst ที่ Swatch ทำการตลาดที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการออกแบบนาฬิกาให้เหมือนสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างแตงกวา เบคอน พริก วางขายในร้านขายผักในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย และอิตาลี ทำให้ถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง และเป็นการประกาศให้โลกรู้ว่า นาฬิกา กับงานศิลปะนั้น อยู่คู่กันได้อย่างกลมกลืน
นับตั้งแต่นั้น Swatch ก็มีผลงานกับศิลปินมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Alessandro Mendini, Sam Francis, Yoko Ono, José Carlos Casado หรือแม้แต่หมูที่มีหัวใจรักงานศิลป์อย่าง Pigcasso ก็เคยร่วมงานกันมาแล้วในปี 2019 ส่วนศิลปินไทยก็เคยร่วมงานกับคุณนาวิน ลาวัลย์ชัยกุล ออกนาฬิกาเรือนพิเศษบันทึกการเดินทางของเขาไปถึงเมืองเวนิสในปี 2022
เรียกได้ว่า Swatch ออกนาฬิกาเรือนพิเศษ และเรือนแบบ Limited ออกมาให้คนที่ชื่นชอบในนาฬิกาและงานศิลปะได้ชื่นชมและสะสมกันอยู่เสมอ จึงไม่แปลกที่ภาพจำของ Swatch กับโลกศิลปะเป็นของคู่กัน
การสนับสนุนศิลปินและงานศิลป์ทั่วโลกด้วยแคมเปญต่าง ๆ
นอกจากการออกนาฬิกาเรือนพิเศษร่วมกับศิลปิน Swatch ยังอยากทำเพื่อโลกศิลปะมากกว่านั้น ทำให้แบรนด์มีแคมเปญสนับสนุนศิลปิน ไปจนถึงสนับสนุนงานที่เกี่ยวกับศิลปะทั่วโลกอยู่เสมอ
เริ่มตั้งแต่ปี 1985 ที่แบรนด์เชิญศิลปิน urban art ชาวยุโรป มาสร้างงานศิลปินบนผืนผ้าใบรอบ ๆ โรงละครในกรุง Basel และทำแบบเดียวกันนี้กับเมืองใหญ่ ๆ ทั่วโลก ทำให้คนเห็นว่าศิลปะไม่จำเป็นต้องอยู่ในพิพิธภัณฑ์ แต่มันสามารถอยู่ได้ทุกที่ในชีวิตประจำวัน และยังเป็นการแสดงการสนับสนุนศิลปินทุกประเภท ไม่เว้นแม้แต่ศิลปินข้างถนน
หนึ่งการแสดงการสนับสนุนโลกศิลปะและเหล่าศิลปินที่ชัดเจนที่สุดของแบรนด์ คือการสร้างโรงแรม Swatch Art Peace Hotel ขึ้นในกรุงเซียงไฮ้ ประเทศจีนในปี 2011 ที่เปิดประตูต้อนรับศิลปินหลายแขนงจากทุกมุมโลกให้มาเข้าพักได้นานถึง 6 เดือน เพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะ ไปจนถึงการพบเจอศิลปินคนอื่น ๆ เพื่อพูดคุยและทำงานร่วมกัน เกิดเป็นโปรเจ็คใหม่ ๆ ให้กับโลกศิลปะต่อไป
นอกจากนี้ Swatch ยังเป็นพาร์ทเนอร์หลักกับ Biennale Arte ในเวนิส หนึ่งในงานจัดแสดงศิลปะร่วมสมัยที่โด่งดังที่สุดของโลกอย่างต่อเนื่องมาถึง 6 ครั้ง ซึ่งทางแบรนด์เองก็มีโซนจัดแสดงงานศิลปะพิเศษของตัวเอง รวมถึงการนำนาฬิกา Swatch Art Special รุ่นต่าง ๆ มาจัดแสดงให้ชม และล่าสุดในปี 2023 นี้ Swatch ก็ยังก้าวมาเป็นพาร์ทเนอร์หลักของเทศกาล Locarno Film Festival หลังจากที่เป็นผู้สนับสนุนมาหลายปี ทำให้ไม่ใช่แค่งานศิลปะจำพวกวาดเขียนเท่านั้น แต่แบรนด์ยังแสดงจุดยืนในการสนับสนุนศิลปะทุกแขนงอย่างแท้จริง
การจับมือกับพิพิธภัณฑ์เพื่อนำงานศิลปะระดับโลกมาสู่ข้อมือคุณ
หลังจากที่มี Collection พิเศษกับศิลปินมานานหลายปี ในปี 2018 เป็นต้นมาทางแบรนด์ก็ได้จับมือกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะชื่อดังของโลกในการร่วมมือเพื่อนำงานศิลปะระดับโลกมาสู่ข้อมือของคนรักนาฬิกาและงานศิลปะทุกคน ด้วย Collection ใหม่ของนาฬิกา Swatch
โดยพิพิธภัณฑ์ที่เคยมีความร่วมมือกับแบรนด์ มีทั้ง Museum of Modern Art (MoMA) ที่ New York, Louvre ที่ Paris, Rijksmuseum ในกรุง Amsterdam, Centre Pompidou ในกรุง Paris และในอนาคตเราน่าจะได้เห็นผลงานศิลปะชื่อดังที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ชื่อดังอื่น ๆ ทั่วโลก เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน Collection นี้เช่นกันครับ
และสำหรับ Collection ปี 2023 นี้ Swatch ก็ไม่พลาดที่จะหยิบผลงานของศิลปินชื่อดัง และผลงานที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ศิลปะให้มาอยู่บนนาฬิกาข้อมือเช่นเคย โดยในปีนี้มีถึง 7 เรือนด้วยกัน โดยได้รับความร่วมมือจากทั้ง MoMA, Louvre Abu Dhabi, Galleria degli Uffizi รวมถึงองค์กรที่ดูแลผลงานของ René Magritte ในการนำเอาภาพต่าง ๆ มาอยู่บนนาฬิกาทั้งรุ่น GENT และ NEW GENT ให้สวมใส่ได้ทุกเพศ
นาฬิกาทั้ง 7 เรือน ประกอบด้วย นาฬิกา Girl กับ Reverie จากผลงานของ Roy Lichtenstein ที่จัดแสดงอยู่ที่ MoMA นาฬิกา Le fils de l’homme กับ La Trahison des images ผลงานของ René Magritte ที่วางขายก่อนในเดือนมีนาคม
และนี่คือเรื่องราวของ Swatch art journey การเดินทางเคียงคู่ไปกับโลกศิลปะของนาฬิกา Swatch ที่เมื่อย้อนดูทั้งหมดแล้ว ก็บอกได้เลยว่าความตั้งใจในการทำเพื่อโลกศิลปะ และการเผยแพร่ศิลปะไปสู่ทุกคนนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ในอนาคตทางแบรนด์เองก็น่าจะมีความร่วมมือใหม่ ๆ นาฬิกาที่เอางานศิลปะเจ๋ง ๆ มาให้คนที่ชื่นชอบได้สะสมอีกอย่างแน่นอน รวมถึงพวกแคมเปญ งานอีเวนท์ที่เกี่ยวข้องกับโลกศิลปะเราก็น่าจะได้เห็นอย่างต่อเนื่องแน่นอนครับ