คำถามที่ว่า “ออมเงินเท่าไหร่ดี ?” ถือเป็นคำถามที่ยังหาจุดลงตัวและคำตอบที่แน่นอนไม่ได้ นั่นเพราะแต่ละคนก็คงมีความสามารถในการอดออมไม่เท่ากัน แต่ตำราที่เราเห็นกันอยู่บ่อย ๆ ก็มักจะแนะนำว่าให้เราออมเงินอย่างน้อย 10% ของรายได้หรือเงินเดือน นั่นนำไปสู่คำถามถัดไปที่ถามว่า 10% พอแล้วหรือ? วันนี้จะมาลองตั้งสมมติฐานและหาคำตอบไปพร้อมกันว่า ออมเงินเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอสำหรับการสร้าง “อิสรภาพทางการเงิน” ให้ตัวเอง
ออมเงินเท่าไหร่ดี ? 10% พอไหม?
หากเราตั้งสมมติฐานว่าในชีวิตการทำงานของมนุษย์เงินเดือนนั้นจะมีความก้าวหน้าตามค่าเฉลี่ย แม้ไม่ใช่ “ยอดมนุษย์” แต่รายได้ของเราก็น่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5% ต่อปี ดังนั้นเงินเดือนที่เราได้รับเริ่มต้น 15,000 บาท ด้วยวุฒิปริญญาตรีในช่วงอายุประมาณ 23 ปี จะกลายเป็นเงินเดือนประมาณ 86,877 บาท เมื่อเรามีอายุ 59 ปี ซึ่งเป็นปีสุดท้ายก่อนวัยเกษียณ
สมมติให้ “นายสิบ” คือหนึ่งในผู้ชายไทยคนนั้น โดยแต่ละปี นายสิบ ออมเงิน 10% ทุกปี และที่สำคัญคือสมมติให้ นายสิบ เก่งกาจจนสามารถนำเงินออม 10% เหล่านั้นไปลงทุนแล้วได้ผลตอบแทน 7% ทบต้นต่อปี ผลลัพธ์ที่ได้คือ นายสิบ จะมีเงินลงทุนรวมทั้งหมดประมาณ 5,500,000 บาท ซึ่งหากใช้ กฎ 4% หรือ 4% Rule ในการถอนเงินออกมาใช้จ่ายเพื่อความยั่งยืน นายสิบ จะมีเงินใช้ประมาณ 220,000 บาทต่อปี หรือ 18,300 บาทต่อเดือนในปีแรก
อายุ | รายได้ | รายจ่าย | เงินลงทุน | Savings Rate |
23 | 15,000 | 13,500 | 18,000 | 10.00% |
24 | 15,750 | 14,175 | 38,160 | 10.00% |
25 | 16,538 | 14,884 | 60,676 | 10.00% |
26 | 17,364 | 15,628 | 85,761 | 10.00% |
27 | 18,233 | 16,409 | 113,643 | 10.00% |
28 | 19,144 | 17,230 | 144,571 | 10.00% |
29 | 20,101 | 18,091 | 178,813 | 10.00% |
30 | 21,107 | 18,996 | 216,658 | 10.00% |
31 | 22,162 | 19,946 | 258,418 | 10.00% |
32 | 23,270 | 20,943 | 304,431 | 10.00% |
33 | 24,433 | 21,990 | 355,061 | 10.00% |
34 | 25,655 | 23,090 | 410,702 | 10.00% |
35 | 26,938 | 24,244 | 471,776 | 10.00% |
36 | 28,285 | 25,456 | 538,742 | 10.00% |
37 | 29,699 | 26,729 | 612,093 | 10.00% |
38 | 31,184 | 28,066 | 692,360 | 10.00% |
39 | 32,743 | 29,469 | 780,117 | 10.00% |
40 | 34,380 | 30,942 | 875,982 | 10.00% |
41 | 36,099 | 32,489 | 980,620 | 10.00% |
42 | 37,904 | 34,114 | 1,094,748 | 10.00% |
43 | 39,799 | 35,820 | 1,219,140 | 10.00% |
44 | 41,789 | 37,610 | 1,354,627 | 10.00% |
45 | 43,879 | 39,491 | 1,502,105 | 10.00% |
46 | 46,073 | 41,466 | 1,662,540 | 10.00% |
47 | 48,376 | 43,539 | 1,836,970 | 10.00% |
48 | 50,795 | 45,716 | 2,026,512 | 10.00% |
49 | 53,335 | 48,002 | 2,232,370 | 10.00% |
50 | 56,002 | 50,402 | 2,455,838 | 10.00% |
51 | 58,802 | 52,922 | 2,698,309 | 10.00% |
52 | 61,742 | 55,568 | 2,961,281 | 10.00% |
53 | 64,829 | 58,346 | 3,246,366 | 10.00% |
54 | 68,071 | 61,264 | 3,555,296 | 10.00% |
55 | 71,474 | 64,327 | 3,889,936 | 10.00% |
56 | 75,048 | 67,543 | 4,252,289 | 10.00% |
57 | 78,800 | 70,920 | 4,644,510 | 10.00% |
58 | 82,740 | 74,466 | 5,068,913 | 10.00% |
59 | 86,877 | 78,190 | 5,527,990 | 10.00% |
สมมติฐานด้านบนฟังดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไร สุดท้ายเราก็ยังมีเงินก้อนและ สามารถถอนเงินออกมาใช้ได้จนตายโดยที่เงินต้นยังไม่หมด แต่ทว่าหากพิจารณาให้ลึกกว่านั้น ปัญหาใหญ่มันอยู่ที่ “ไลฟ์สไตล์” และการใช้จ่ายก่อนเกษียณของ “นายสิบ” มากกว่า เพราะในวันที่เขามีอายุ 59 ปี ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการทำงาน นายสิบมีเงินเดือน 86,877 บาท แต่สามารถออมเงินได้เพียง 10% คือ 8,687 บาท นั่นแปลว่าเขามีค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบสูงถึง 78,190 บาทต่อเดือน คำถามคือคนที่เคยใช้จ่ายเงิน 78,190 บาท จะสามารถหยุดใช้และหันมารัดเข็มขัดให้เหลือค่าใช้จ่ายไม่เกิน 18,300 บาทได้ทันทีหรือไม่ ? เป็นเรื่องที่น่าคิดและท้าทายเป็นอย่างยิ่ง
“Fix Your Lifestyle” พอเพียง = เกษียณเร็ว
หากลองเปรียบเทียบกับผู้ชายอีกคนหนึ่งชื่อ “นายหยัด” ที่มีรายได้และมีความสามารถในการลงทุนในระดับเดียวกัน แต่สิ่งที่ต่างกันคือเขาเลือกหนทางแห่งความ “พอเพียง” ด้วยการคุมการใช้จ่ายของตัวเองอย่างเคร่งครัดและตั้งใจเก็บเงินนำไปลงทุนอย่างจริงจังตั้งแต่วันแรก “นายหยัด” เชื่อว่าเขาสามารถดำรงชีพอยู่ได้ด้วยงบประมาณ 10,000 บาทและค่าใช้จ่ายของเขาน่าจะเพิ่มขึ้น 3% ทุกปีตามอัตราเงินเฟ้อ โดยในปีแรกที่เขามีเงินเดือน 15,000 บาท เขาจะสามารถออมเงินไปลงทุนได้ถึง 5,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นอัตราการออมเงิน (Savings Rate) ที่ 33.33% ของเงินเดือน
อายุ | รายได้ | รายจ่าย | เงินลงทุน | Savings Rate |
23 | 15,000 | 10,000 | 60,000 | 33.33% |
24 | 15,750 | 10,300 | 129,600 | 34.60% |
25 | 16,538 | 10,609 | 209,814 | 35.85% |
26 | 17,364 | 10,927 | 301,746 | 37.07% |
27 | 18,233 | 11,255 | 406,599 | 38.27% |
28 | 19,144 | 11,593 | 525,678 | 39.45% |
29 | 20,101 | 11,941 | 660,407 | 40.60% |
30 | 21,107 | 12,299 | 812,328 | 41.73% |
31 | 22,162 | 12,668 | 983,121 | 42.84% |
32 | 23,270 | 13,048 | 1,174,606 | 43.93% |
33 | 24,433 | 13,439 | 1,388,759 | 45.00% |
34 | 25,655 | 13,842 | 1,627,725 | 46.04% |
35 | 26,938 | 14,258 | 1,893,829 | 47.07% |
36 | 28,285 | 14,685 | 2,189,590 | 48.08% |
37 | 29,699 | 15,126 | 2,517,738 | 49.07% |
38 | 31,184 | 15,580 | 2,881,231 | 50.04% |
39 | 32,743 | 16,047 | 3,283,269 | 50.99% |
40 | 34,380 | 16,528 | 3,727,320 | 51.92% |
41 | 36,099 | 17,024 | 4,217,132 | 52.84% |
42 | 37,904 | 17,535 | 4,756,761 | 53.74% |
43 | 39,799 | 18,061 | 5,350,595 | 54.62% |
44 | 41,789 | 18,603 | 6,003,374 | 55.48% |
45 | 43,879 | 19,161 | 6,720,225 | 56.33% |
46 | 46,073 | 19,736 | 7,506,685 | 57.16% |
47 | 48,376 | 20,328 | 8,368,735 | 57.98% |
48 | 50,795 | 20,938 | 9,312,837 | 58.78% |
49 | 53,335 | 21,566 | 10,345,966 | 59.57% |
50 | 56,002 | 22,213 | 11,475,651 | 60.34% |
51 | 58,802 | 22,879 | 12,710,018 | 61.09% |
52 | 61,742 | 23,566 | 14,057,836 | 61.83% |
53 | 64,829 | 24,273 | 15,528,563 | 62.56% |
54 | 68,071 | 25,001 | 17,132,400 | 63.27% |
55 | 71,474 | 25,751 | 18,880,347 | 63.97% |
56 | 75,048 | 26,523 | 20,784,265 | 64.66% |
57 | 78,800 | 27,319 | 22,856,938 | 65.33% |
58 | 82,740 | 28,139 | 25,112,143 | 65.99% |
59 | 86,877 | 28,983 | 27,564,726 | 66.64% |
หากนายหยัดมีความสุขกับงานที่ทำ และทำงานจนถึงวันที่ นายหยัด มีอายุ 59 ปี ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการกินเงินเดือน นายหยัด จะมีเงินเดือนราว 86,877 บาทเช่นเดียวกับ นายสิบ แต่นายหยัดจะมีรายจ่ายของตัวเองเพียงแค่เดือนละ 28,983 บาท ทำให้นายหยัดสามารถออมเงินได้ถึง 57,894 บาทต่อเดือน และ เมื่อเขามีอายุครบ 60 ปี เขาจะมีเงินลงทุนรวม 27,500,000 บาท (อ่านว่า ยี่สิบเจ็ดล้านห้าแสนบาท)
หากใช้ กฎ 4% กับเงินลงทุน 27,500,000 บาท นายหยัดจะมีเงินใช้จ่ายได้ประมาณ 1,100,000 บาทต่อปี หรือราว 91,600 บาทต่อเดือน แต่ทว่า นายหยัด คงเคยชินกับการอยู่อย่างเรียบง่ายไม่ฟุ้งเฟ้อ และถึงแม้อยากจะให้รางวัลกับตัวเองบ้าง แต่สุดท้ายรายจ่ายของเขาก็คงไม่ได้เพิ่มขึ้นจาก 28,983 บาท เมื่อปีที่แล้วเท่าไหร่นัก ส่งผลให้นายหยัดมีเงินเหลือลงทุนเพิ่มสำหรับสำรองไว้ใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลที่จำเป็นเพื่อไม่ให้ตัวเองเป็นภาระให้ลูกหลานหรือญาติพี่น้องเมื่อแก่ตัวลง
ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ ด้วยความ “พอเพียง” ในการใช้ชีวิตของนายหยัด ในปีที่นายหยัดมีอายุ 44 ปี เขาจะมีรายจ่ายต่อเดือนประมาณ 18,600 บาท ในขณะที่มีเงินลงทุนสะสมรวมประมาณ 6,000,000 บาท ซึ่งหากใช้ กฎ 4% เขาจะสามารถถอนเงินออกมาใช้จ่ายได้ 240,000 บาท หรือเฉลี่ย 20,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวครอบคลุมรายจ่ายต่อเดือนของเขาได้ 100% แล้ว นั่นแปลว่า ในเชิงทฤษฎี นายหยัดสามารถค้นพบ “อิสรภาพทางการเงิน” Financial Independence Retire Early ในเวอร์ชั่นของตัวเองได้ตั้งแต่อายุ 44 ปีเท่านั้นเอง
มุ่งมั่นแค่ไหน ก็ได้แค่นั้น
แน่นอนว่าสมมติฐานของนายหยัดและนายสิบข้างต้นนั้นละเลยปัจจัยภายนอกอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งเรื่องของภาษี, สถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ที่อาจจำเป็นต้องใช้เงินทันที หรือ ถ้าหากมีครอบครัว มีภรรยา มีลูก นี่ยังไม่นับว่าหากต้องการจะซื้อที่อยู่อาศัยอีก ทั้งสองคนจะทำอย่างไร ? นายหยัดจะใช้จ่ายพอหรือไม่?
อย่างไรก็ดี สมมติฐานของนายหยัดและนายสิบ ช่วยให้เรามองเห็นว่า การตั้งใจออมเงิน 10% ของเงินเดือน โดยไม่มีการ “จำกัดไลฟ์สไตล์” ปล่อยให้รายจ่ายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามรายได้ สุดท้ายเราก็ต้องกลับมารัดเข็มขัดอย่างเอาเป็นเอาตายในยามเกษียณอยู่ดี ดังนั้นหากจะต้องตอบคำถามว่า “ออมเงินเท่าไหร่ดี ?” คำแนะนำของ MenDetails ก็คือให้เรารู้จัก “พอเพียง” ตั้งแต่เริ่มต้น จำกัดการใช้จ่ายของตัวเองอย่างเคร่งครัด แล้วกำหนดรายจ่ายของตัวเองให้ได้ จากนั้นเริ่มต้นด้วย Savings Rate ประมาณ 30% และตั้งเป้าให้ Savings Rate นั้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็น 40% – 60% เราจะพบว่าชีวิตของเราสามารถเป็นอิสระจากการทำงานประจำได้อย่างรวดเร็ว หรือถ้าหากเรายังชอบงานประจำก็ยิ่งเป็นเรื่องดี เพราะเงินก้อนโตจะรอเราอยู่ในยามเกษียณแบบ “มากเกินพอไปหลายเท่าเลยทีเดียว”
ข้อดีของ “นายสิบ” คือการใช้จ่ายตามความพอใจแบบชิว ๆ ตลอดทาง ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ใครหลายคนให้ความสำคัญมากกว่าการมีเงินพอใช้ยามเกษียณอายุแบบสบาย ๆ แต่ถ้าหากเป้าหมายของคุณตรงกับ “นายหยัด” สิ่งสำคัญที่สุดคงอยู่ที่ความมุ่งมั่นตั้งใจ และการรู้จักประหยัด พอเพียง ไม่ฟุ้งเฟ้อหรือปล่อยใจให้ไหลไปกับสิ่งยั่วยุต่าง ๆ ที่จะทำให้เราใช้จ่ายจนเกินพอดี หากเราสามารถหาปริมาณรายจ่ายที่ลงตัว ที่เราพอใจ ได้อย่างพอเหมาะพอดีกับตัวเราจริง ๆ การวางเป้าหมายไปสู่อิสรภาพทางการเงินหรือชีวิตหลังเกษียณที่มีความสุขตามสไตล์ของคุณเอง ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
หวังว่าอ่านแล้วคงจะได้คำตอบ ว่าตัวคุณเองตั้งใจจะ ออมเงินเท่าไหร่ดี แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหน MenDetails ก็ขอเอาใจช่วยให้ประสบความสำเร็จกันทุกคนนะครับ