Roadster เท่ ๆ กับผู้ชายเป็นสองสิ่งที่อยู่คู่กันมาตั้งแต่อดีต นอกจากจะเป็นเครื่องจักรทางความเร็วที่มอบความสนุกบนท้องถนนแล้ว สไตล์อันโดดเด่นของรถเปิดประทุน 2 ที่นั่งยังชวนให้ทุกสายต้องจับจ้องเมื่อเคลื่อนตัวผ่านท้องถนน กลายเป็นสัญลักษณ์ความสปอร์ตของผู้ที่กำลังนั่งขับอยู่หลังพวงมาลัย โลกได้รู้จัก Roadster ที่มีชื่อเสียงมากมายแต่ส่วนใหญ่แล้วพวกมันล้วนมีต้นกำเนิดจากยุโรปหรือไม่ก็อเมริกา ในวันนี้ MenDetails ขอพาทุกท่านไปรู้จักกับตำนาน Roadster หนึ่งเดียวจากแดนอาทิตย์อุทัยที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันอย่าง Mazda MX-5 นี่คือรถสปอร์ตเปิดประทุน 2 ที่นั่งขนาดเล็กที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 34 ปี กับเรื่องราวการเดินทางตลอด 4 เจเนอเรชันที่ไม่เคยเว้นว่างจากสายการผลิตแม้แต่ปีเดียว ถือเป็น Roadster ญี่ปุ่นตระกูลเดียวที่ทำตลาดต่อเนื่องมาตั้งแต่ “เจ็นแรก” จนถึงปัจจุบัน รวมถึง ประวัติ Mazda MX-5 Roadster เองก็น่าสนใจไม่แพ้รถยนต์ตระกูลไหนในโลกเช่นเดียวกัน
MX-5 “Jinba Ittai”
MX-5 เป็นสัญลักษณ์ของปรัชญาการผลิตรถยนต์ “Jinba Ittai” ของ Mazda แปลว่า “ม้าและผู้ขี่รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน” นั่นแสดงออกถึงคาแรกเตอร์เด่นคือการเป็น Roadater ขนาดตัวกะทัดรัดและน้ำหนักเบาที่มีไดนามิกในการขับขี่ดีที่สุดพร้อมการควบคุมที่แม่นยำ โดยมากับเครื่องยนต์วางหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง กระจายน้ำหนักที่เพลาหน้า-หลังแบบ 50-50 และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทั้งหมดคือจุดเด่นของรถที่ใครก็ตามเมื่อได้ขับต่างก็เอ่ยปากชมถึงความสนุกในขณะขับขี่จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนจากหลากหลายประเทศ หลากหลายวัฒนธรรม และกลุ่มอายุ
Mazda MX-5 (NA) 1989 – 1997
ประวัติ Mazda MX-5 Roadster เริ่มต้นในปี 1987 จากโครงการพัฒนารถสปอร์ตขนาดเล็กกับทีมงานอีกหลายสิบชีวิตที่ช่วยกันคิดค้น ออกแบบ พัฒนา และสร้างรถ MX-5 รุ่นแรกขึ้นมาโดยใช้พื้นฐานแชสซีจาก RX-7 เจนฯ แรก และระบบขับเคลื่อนล้อหลังจาก 323 Familia
MX-5 รุ่นแรกพัฒนาและทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่ 2 ปีก็ได้อวดโฉมสู่สายตาชาวโลกครั้งแรกที่งาน Chicago Auto Show เดือนกุมภาพันธ์ ปี 1989 และวางขายในปีเดียวกัน เสน่ห์ของมันอยู่ที่เรือนร่างภายนอกสุดคลีนที่ดูกลมกลืนตั้งแต่หัวจริงท้ายพร้อมกับไฟหน้าแบบ Pop-up ที่ได้ดีเอ็นเอมาจาก RX-7 และหลังคาผ้าใบที่กางและพับเก็บได้เร็ว
แม้หน้าตาภายนอกจะมีความน่ารักและดูขี้เล่นแต่นิสัยที่แท้จริงของมันนั้นมีความจัดจ้านไม่เบาจากพลังของเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 1.6 ลิตร 115 แรงม้า ก่อนจะมีการอัปเกรดเป็นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ที่มีกำลังมากขึ้นในภายหลัง สมรรถนะของมันเป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้ที่ได้ขับขี่รวมถึงยังมีจุดเด่นด้าน Handling จากน้ำหนักที่เบาเพียง 960 กก. ทำให้มันเป็นรถที่ขับสนุกแถมยังควบคุมง่าย ทั้งหมดนี้กลายเป็นรากฐานสำคัญของ MX-5 เจนฯ ต่อ ๆ มาและต้นแบบให้กับรถสปอร์ตอีกหลายแบรนด์ในปัจจุบัน
MX-5 รุ่นแรกสิ้นสุดสายการผลิตในปี 1997 ทำยอดขายทั่วโลกไปทั้งหมดกว่า 4.3 แสนคัน ถือเป็น Roadster ญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคนั้น
Mazda MX-5 (NB) 1998 – 2005
MX-5 เจเนอเรชันที่ 2 เข้ามาสานต่อความสำเร็จจากรุ่นแรกในปี 1998 แม้ว่าจะยังคงสัดส่วนเดิมจากรุ่นก่อนหน้าแต่การเปลี่ยนแปลงที่ชัดที่สุดคือไม่ได้ใช้ไฟหน้าแบบ Pop-up อีกต่อไปจากเหตุผลด้านความปลอดภัย หน้าตาโดยรวมยังดูมีความน่ารักขี้เล่นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความทันสมัยดูเข้ากับยุคมิลเลนเนียมมากขึ้น พร้อมกับความสนุกจากเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังมากขึ้น และห้องโดยสารที่ประณีตสวยงามมากขึ้น
เสน่ห์ของ MX-5 เจนฯ นี้ยังคงเป็นเรื่องของการขับขี่ที่สนุกตื่นเต้นพร้อมกับ Handling ของรถที่ดีเหมือนกับรุ่นพี่แม้ว่าน้ำหนักจะมากกว่า มันกลายเป็น Roadster ที่อยู่ใจของผู้ขับขี่ที่รักความสนุกบนท้องถนนจำนวนมาก ได้รับการปรับโฉมใหญ่ 1 ครั้ง และมีรุ่นพิเศษออกมาหลายรุ่น อาทิ 10th Anniversary Model ฉลองครบตระกูล MX- มีอายุครบ 10 ปี โดยมาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มความสปอร์ตหลายรายการ, ปี 2002 MX-5 SP ก็ตามออกมาพร้อมกับพละกำลังระดับ 200 แรงม้า และการตกแต่งภายในด้วยหนังเพิ่มความพรีเมียม และส่งท้ายเจเนอเรชันด้วย Mazdaspeed MX-5 ที่มีความพิเศษคือเป็นรุ่นเดียวของตระกูลที่ติดตั้งเทอร์โบมาจากโรงงาน
MX-5 NB สิ้นสุดสายการผลิตในปี 2005 พร้อมกับยอดขายและกระแสนิยมที่มากกว่าเจนฯ แรก จนครั้งหนึ่งมันเคยได้รับการรับรองจาก Guinness World Records ว่าเป็นรถสปอร์ตสองที่นั่งเปิดประทุนที่ขายดีที่สุดในโลก ปัจจุบันกลายเป็นรถขึ้นหิ้งของ Mazda และมีราคามือสองที่น่าเล่นเป็นอย่างยิ่ง
Mazda MX-5 (NC) 2005 – 2015
Mazda ไม่เว้นช่องว่างให้กับตระกูล MX-5 โดยทำการเปิดตัวสมาชิกลำดับที่สามของตระกูลต่อทันทีในปี 2005 กับรหัสตัวถัง NC รุ่นนี้มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างตั้งแต่ขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้น น้ำหนักมากขึ้น ห้องโดยสารใหญ่และหรูขึ้น พร้อมกับรูปลักษณ์หน้าตาที่เกลี้ยงเกลาทันสมัยแฝงความเซ็กซี่ด้วยโป่งล้อหน้า-หลังที่ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ให้รถดูอวบอิ่มและมีความสปอร์ตมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นแรกของตระกูลที่มีตัวถังเวอร์ชันหลังคาแข็ง Hard Top ออกมาขายคู่กัน
เสน่ห์ของ MX-5 NC ยังก็เป็นการขับขี่ที่สนุกสนานจากเครื่องยนต์ 1.8 และ 2.0 ลิตร รวมถึง Handling ที่ยอดเยี่ยมของรถ นอกจากนี้มันยังเป็น MX-5 ที่ทำตลาดยาวนานที่สุดของตระกูลกว่า 10 ปีเต็ม มีการปรับโฉมใหญ่ 2 ครั้ง พร้อมรุ่นพิเศษอีกมากมาย อาทิ 20th Anniversary Edition ฉลองครบรอบ 20 ปีของตระกูล MX-5, Kuro Edition ที่มากับการตกแต่งรอบคันด้วยชิ้นส่วนสีดำ และ 25th Anniversary Edition ฉลองครบรอบ 25 ปีของตระกูลที่มาพร้อมกับสีพิเศษ Soul Red Crystal ซึ่งตอนนี้กลายเป็นสีประจำแบรนด์ Mazda ในปัจจุบันไปแล้ว
MX-5 NC สิ้นสุดสายการผลิตในปี 2005 แม้ว่าความนิยมและความสำเร็จด้านยอดขายจะไม่เท่าสองเจนฯ ก่อนหน้าแต่มันเป็น Roadster ที่สวยและมีเสน่ห์มากที่สุดรุ่นหนึ่ง รวมถึงเป็นเครื่องจักรความเร็วที่หนุ่ม ๆ หลายคนชื่นชอบและอยากได้มาครอบครองสักครั้ง
Mazda MX-5 (ND) 2015 – ปัจจุบัน
MX-5 เจเนอเรชันที่ 4 ลืมตาดูโลกในปี 2014 และวางขายตั้งแต่ปี 2015 มาจนถึงปัจจุบัน รุ่นนี้เป็นการพลิกโฉมงานดีไซน์ครั้งใหญ่จากความกลมมนของตัวถังมาเป็นเส้นสายที่เฉียบคมและดูเคลื่อนไหวตามปรัชญาการออกแบบ Kodo Design ภาพรวมจึงเป็นรถที่ดูหล่อเข้ม ดุดัน และมีความสปอร์ตมากขึ้นอย่างชัดเจน และยังมีเวอร์ชันหลังคาแข็งท้ายลาดสไตล์ Fastback ออกมาขายคู่กันในชื่อ MX-5 RF แม้จะมีการปรับเปลี่ยนทางรูปลักษณ์ดีไซน์หลายอย่างแต่เสน่ห์ความเป็น MX-5 ของเจนฯ นี้ก็ไม่เสื่อมคลายลงไป โดยยังคงเอกลักษณ์ฝากระโปรงหน้ายาว ท้ายสั้น จุดศูนย์ถ่วงต่ำ และการกระจายน้ำหนักระหว่างเพลาหน้า-หลังแบบ 50-50 เฉกเช่น MX-5 เจนฯ แรก
หัวใจของ MX-5 ND คือเครื่องยนต์ Skyactiv 2.0 ลิตร 184 แรงม้า ที่ให้อัตราเร่งเร้าใจ ขับสนุก พร้อมกับ Handling ที่ยอดเยี่ยมเช่นเคย นอกจากนี้มันยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีช่วยเสริมประสิทธิภาพการขับขี่ที่ทันสมัยหลายอย่าง รวมไปถึงความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารที่ครบครันและหรูหราที่สุดของตระกูล
ความหล่อของ MX-5 ND ทำให้มันมีรุ่นพิเศษออกมาเยอะมาก ที่ดัง ๆ ได้แก่ MX-5 Z-Sport ที่มาพร้อมการตกแต่งด้วยล้อ BBS ขอบ 17 นิ้ว และหลังคาผ้าสี Cherry Red, MX-5 30th Anniversary Edition ฉลองครบรอบ 30 ปีของตระกูลพร้อมสีตัวถังพิเศษ Racing Orange และล้อแต่งจาก Rays และล่าสุดกับ MX-5 100th Anniversary ฉลองครบรอบ 100 ปีแบรนด์ Mazda มากับเบาะหนัง Nappa สี Garnet Red และหลังคาผ้าใบสีเดียวกัน นอกจากนี้มันยังเป็นส่วนสำคัญของตระกูลในฐานะการเป็น MX-5 คันที่ 1 ล้านซึ่งถูกผลิตออกมาจากโรงงานในวันที่ 22 เมษายน 2016 และตอนนี้ MX-5 ND ก็ยังคงเดินหน้าสานต่อตำนานของ Roadster ตระกูล MX-5 ต่อไป
ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถสปอร์ตเปิดประทุน 2 ที่นั่งขนาดเล็กหรือ Roadster นั้นคือ เครื่องจักรทางความเร็ว ที่มอบความสนุกบนท้องถนนไปพร้อมกับสไตล์อันโดดเด่นจนยากจะละสายตา คุณอาจคิดว่า Roadster มากมายที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับไปทั่วโลกนั้นล้วนมาจากยุโรปและอเมริกา แต่เราอยากบอกว่า Mazda MX-5 นั้นได้ผ่านการพิสูจน์แล้วว่า Roadster จากดินแดนอาทิตย์อุทัยก็มีมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหลไม่แพ้กัน มันเกิดจากปรัชญาที่ต้องการให้รถกับคนขับผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน พร้อมถ่ายทอดจิตวิญญาณความสนุกและการควบคุมที่ยอดเยี่ยมออกมาให้สัมผัสในทุกเจเนอเรชัน และที่ขาดไม่ได้คือสไตล์ที่น่าจดจำกับคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนในแบบฉบับของตัวเอง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานไปเท่าไรก็ยังดูสวยสง่างามและมองไม่มีเบื่ออยู่เสมอ
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชายเรียบร้อย ผู้ชายสายเนี้ยบ ผู้ชายเฮฮา หรือผู้ชายสายเข้ม การได้ครอบครอง Roadster เท่ ๆ สักคันช่วยเติมเต็มคาแรกเตอร์ของคุณให้สมบูรณ์แบบขึ้นได้ และ Mazda MX-5 ก็เป็นรถที่ใช่สำหรับผู้ชายทุกคนที่หลงใหลในความเร็วและความสปอร์ต มันคือเครื่องจักรที่ให้ความสนุกในระหว่างนั่งอยู่หลังพวงมาลัยจนคุณไม่อยากจะลุกออกไปไหน พร้อมที่พาคุณและคนรู้ใจออกไปสัมผัสสายลมและแสงแดดของโลกกว้างได้อย่างมีความสุข วันนี้คุณสามารถสัมผัสจิตวิญญาณที่แท้จริงของ Roadster ตระกูล MX-5 ด้วยตัวเองได้แล้วในราคาเริ่มต้น 2,912,000 บาท รอช้าอยู่ทำไม ไปที่โชว์รูม Mazda แล้วลองขับซะ!
Source
https://insidemazda.mazdausa.com/the-mazda-way/cars-for-drivers/origin-story-of-mazda-mx-5-miata/