ผู้ชายที่มีประสบการณ์การทำงานหรือทำธุรกิจ คงจะรู้จักกับคำว่า “Entrepreneur” (อ็อง-เทรอ-เพรอ-เนอ) หรือ “ผู้ประกอบการ” กันมาบ้างไม่มากก็น้อย คำว่า Entrepreneur คือคนทำงานที่มีจิตวิญญาณของผู้บุกเบิกในการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ด้วยตัวเองทั้งหมด การเป็น Entrepreneur จึงดูเหมือนเป็นคำที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับคำว่า “Employee” หรือลูกจ้างผู้ทำงานกินเงินเดือนในธุรกิจของ Entrepreneur อีกทอดหนึ่งนั่นเอง
แต่ Entrepreneur และ Employee อาจไม่จำเป็นต้องเป็นขั้วตรงข้ามกันเสมอไป ด้วยแนวคิดที่เรียกว่า “Intrapreneur” (อิน-ทรา-เพรอ-เนอ) และ MenDetails ได้หยิบความหมายของมันมาบอกเล่าในบทความนี้ครับ
Intrapreneur
Intrapreneur หรือพนักงานประจำที่มีจิตวิญญาณการเป็นเจ้าของธุรกิจภายในบริษัท ซึ่งจะคอยค้นหา “ธุรกิจย่อย” ที่ต่อยอดออกมาจากธุรกิจหลักที่มีอยู่เดิม ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย และตัว Intrepreneur เองก็จะมีอนาคตในการทำงานที่ดีกว่าและน่าสนใจกว่ามนุษย์เงินเดือนที่ทำงานแบบ “คอยรับคำสั่ง” แล้วรอเพียงแค่เก็บตังค์ค่าแรงเข้ากระเป๋าเพียงอย่างเดียว
คุณสมบัติของ Intrapreneur
พนักงานที่สามารถเป็น Intrapreneur ได้ จะต้องมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เป็นพิเศษ สามารถนำเสนอไอเดียของสินค้าและบริการใหม่ ๆ ให้หัวหน้าหรือเจ้าของธุรกิจพิจารณาอยู่เสมอ โดยไม่ต้องรอคอย “คำสั่ง” ตลอดเวลา อีกทั้ง Intrapreneur ควรมีทักษะและความชอบในการบริหารงานแบบภาพรวมที่ไม่ต่างอะไรกับการเป็นเจ้าของธุรกิจคนหนึ่ง
แต่ข้อดีของ Intrapreneur ที่ชัดเจนคือ คนที่เป็น Intrapreneur จะไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ นั่นเพราะพวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่องค์กรที่เขาทำงานอยู่นั้นมีให้อยู่แล้ว ตั้งแต่เรื่องที่สังเกตเห็นง่าย ๆ อย่างอุปกรณ์สำนักงานทั้งหลาย, เทคโนโลยีและสูตรในการทำงาน ไปจนถึงข้อมูลลูกค้าและซัพพลายเออร์จำนวนมาก ที่ Intrapreneur หยิบไปใช้ประโยชน์เพื่อสร้างธุรกิจย่อยเพิ่มเติมได้เลย
ในทางกลับกันตัวเจ้าของธุรกิจก็แฮปปี้ที่มีพนักงานแบบนี้ นั่นเพราะการมี Intrapreneur ในองค์กรช่วยเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจเติบโตได้อีกมากในอนาคต นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงในกรณีที่ธุรกิจหลักเกิดประสบปัญหาขึ้นมา Intrapreneur ที่สามารถสร้างธุรกิจย่อยให้ประสบความสำเร็จได้ จะกลายเป็นเบาะรองรับและทำให้บริษัทอยู่รอดต่อไปนั่นเอง
ตัวอย่างของ Intrapreneur
นาฬิกา G-SHOCK โดยคุณ คิคุโอะ อิเบะ (Kikuo Ibe) คือตัวอย่างของ Intrapreneur ที่น่าสนใจในโลกธุรกิจของเอเชีย แรกเริ่มเดิมที G-SHOCK เป็นเพียงโปรเจ็คท์เล็ก ๆ ภายในบริษัท Casio ด้วยแรงบันดาลใจของคุณอิเบะที่อยากจะสร้างนาฬิกาที่ทนทานแข็งแกร่งเป็นเลิศ คุณอิเบะใช้ทรัพยากรของ Casio ในการทำการวิจัยและพัฒนานาฬิกา G-SHOCK แม้จะล้มเหลวหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้และในที่สุดก็สามารถพัฒนา G-SHOCK ได้เป็นผลสำเร็จ ทำให้บริษัท Casio ได้เก็บกินผลกำไรจากยอดขายของ Casio G-SHOCK ที่ขายดีอย่างถล่มทลายไปทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้
Entrepreneur กับ Intrapreneur ต้องรู้ใจกัน
อย่างไรก็ดี ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้โปรเจ็คท์ Intrapreneur เห็นผลสำเร็จขึ้นมาได้ นั่นคือการรู้ใจกันระหว่างผู้ประกอบการและพนักงานที่ตั้งใจจะเป็น Intrapreneur ตัวเจ้าของธุรกิจเองต้องรู้จักเปิดใจที่จะรับฟังความเห็นใหม่ ๆ จากพนักงาน โดยเฉพาะไอเดียที่เกี่ยวกับการสร้างธุรกิจใหม่ที่ต่อยอดจากธุรกิจเดิม นั่นเพราะหากเจ้านายเอาแต่ปัดตกความเห็นของพนักงานตลอด ลงท้ายพนักงานก็จะเลิกนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ ให้เจ้านายไปเลยอย่างน่าเสียดาย
ในทางกลับกันฝั่งพนักงานเองก็ต้องทำความเข้าใจความคิดของเจ้าของธุรกิจรวมถึงแนวทางและสไตล์การทำงานขององค์กรด้วย เพื่อพิจารณาว่าไอเดียที่จะนำเสนอออกไปนั้น “เข้าข่าย” ที่ทางเจ้าของธุรกิจจะรู้สึกสนใจ และเปิดโอกาสให้เขาได้รับผิดชอบหรือไม่ เพราะถึงแม้ Entrepreneur จะเปิดใจ แต่ถ้าพนักงานมัวแต่เสนออะไรที่มัน “ไม่ใช่สไตล์” ก็ยากนักที่อีกฝ่ายจะมอบความไว้วางใจให้ได้ เพราะฉะนั้น Sense หรือไหวพริบในการสังเกตว่าอะไรจะ “Work” สำหรับองค์กร คือทักษะที่ Intrapreneur จำเป็นต้องมีอย่างยิ่งยวดเลยทีเดียว
ความเข้ากันได้ดีและ “รู้ใจกัน” ระหว่าง Entrepreneur และ Intrapreneur แบบนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้องค์กรมีความคิดริเริ่มโครงการใหม่ ๆ ได้บ่อยขึ้น ธุรกิจมีแนวโน้มที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนยาวนาน ส่วนตัวพนักงานก็ได้รับปูนบำเหน็จอย่างสมน้ำสมเนื้อในฐานะ “หุ้นส่วนธุรกิจ” ที่ไม่ใช่แค่ลูกจ้างหรือ “มนุษย์เงินเดือน” ธรรมดา ๆ อีกต่อไป