การเงินและการลงทุน คือ ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของชีวิตที่ผู้ชายทุกคนควรศึกษาและทำความเข้าใจ แต่เมื่อลงทุนแล้วบางครั้งเราจะเจอปัญหาขาดทุนทางบัญชีหรือที่เราเรียกกันว่า “ติดดอย” โดยเฉพาะคนที่ลงทุนในหุ้นย่อมต้องเจอภาวะติดดอยกันแทบทุกคน วันนี้ MenDetails จะขอเสนอวิธีการแก้ไข ติดดอย ทำยังไง ด้วยหลักการง่าย ๆ สั้น ๆ แต่ลึกซึ้ง ซึ่งเมื่อเราเข้าใจ เราจะไม่ประสบปัญหาติดดอยอีกต่อไป
ปัญหาของการ “ติดดอย”
คำว่า “ติดดอย” เป็นคำที่นักลงทุนใช้ในวงการเพื่อบ่งบอกถึงสภาวะขาดทุนทางบัญชี เมื่อราคาตลาดของหุ้นที่ซื้อขายอยู่ในปัจจุบันนั้น ต่ำกว่าราคาที่ซื้อไว้ และยังไม่ได้ตัดสินใจขายออกไป เกิดเป็นสภาวะค้างคา ทำได้แค่มองราคาหุ้นที่ลงไปด้านล่าง คล้ายอาการ “ติดดอย” และไม่กล้าที่จะตัดสินใจโดดลงจากดอย ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาที่เกิดได้กับทุกคน
แต่หากมองปัญหาการติดดอยให้ลึกซึ้งลงไปอีกสักหน่อยนั้น การติดดอยมักจะเกิดขึ้นกับคนที่ไม่มีเหตุผลที่หนักแน่นในการตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้นเท่านั้น ใครก็ตามที่มีกลยุทธ์ในการลงทุนที่ชัดเจน เขาเหล่านั้นจะไม่เกิดสภาวะ “ติดดอย” และไม่กลัวคำว่าขาดทุนทางบัญชีเท่ากับคนที่ไม่มีกลยุทธ์และเหตุผลในการลงทุนที่ชัดเจนตั้งแต่ต้น
2 เหตุผลในการตัดสินใจ “ลงทุน”
การลงทุนในหุ้น จะมีกลยุทธ์การลงทุนที่แบ่งออกเป็น 2 ค่ายใหญ่ ๆ ได้แก่ “การลงทุนที่เน้นปัจจัยทางเทคนิค” กับ “การลงทุนที่เน้นปัจจัยทางพื้นฐานธุรกิจ” โดยการลงทุนที่เน้นปัจจัยทางเทคนิคจะดูลักษณะของ “กราฟราคาหุ้น” ที่ขึ้น ๆ ลงๆ เพื่อประเมินจิตวิทยาของผู้คนในตลาด และหาช่วงเวลาในการตัดสินใจเข้าซื้อและขายเพื่อทำกำไรเป็นหลัก โดยกลยุทธ์นี้จะเข้าซื้อลงทุนเมื่อ “กราฟสวย” และขายออกไปเมื่อ “กราฟเสีย” โดยไม่ได้สนใจนักว่าพื้นฐานธุรกิจของหุ้นตัวนั้นจะทำอะไร
ส่วนการลงทุนแบบเน้นปัจจัยพื้นฐานธุรกิจ จะไม่ได้สนใจในเรื่องของกราฟราคาหุ้นนัก แต่มุ่งเน้นประเมินมูลค่าของธุรกิจและบริษัทที่อยู่เบื้องหลังหุ้นแต่ละตัวเป็นสำคัญ เพื่อดูว่าราคาที่เสนอขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ณ ตอนนี้ ถูกเกินไป หรือ แพงเกินไป โดยกลยุทธ์นี้จะเข้าซื้อลงทุนเมื่อมองว่าราคาหุ้นในตลาดยังถูกอยู่เมื่อเทียบราคาที่เราประเมินได้ และขายออกไปเมื่อมองว่าราคาหุ้นของบริษัทเริ่มแพงเกินไปแล้ว
เหตุผลที่หนักแน่นชัดเจน ช่วยแก้ปัญหา “ติดดอย”
คนที่ใช้เหตุผลในการลงทุนทางเทคนิคโดยดูกราฟเป็นหลัก จะมีระบบชัดเจนในการขายตัดขาดทุน หรือ “Cut loss” พวกเขาจะขายทันทีเมื่อกราฟราคาหุ้นที่เขาซื้อนั้น “เสียอาการ” และจะยึดถือระบบนั้นเป็นสรณะ ดังนั้นนักลงทุนสายเทคนิคที่ถูกต้องและเป็นมืออาชีพจะไม่มีวันติดดอย เพราะเขาขายออกไปก่อนหน้านั้นนานแล้ว ส่วนคนที่เข้าซื้อด้วยเหตุผลเรื่อง “กราฟสวย” แต่สุดท้ายเจอภาวะ “ติดดอย” นั่นเพราะเขาไม่ได้ทำตามระบบ และไม่ยอมขายออกไปทันทีเมื่อ “กราฟเสีย” แต่เกิดอคติในใจในการรอดูว่ากราฟจะกลับมาสวยอีกครั้งหรือไม่ สุดท้ายจึง “ติดดอย” การติดดอยเช่นนี้ของเขาจึงเกิดจากความไม่หนักแน่นในหลักการเหตุผลและระบบของตัวเองนั่นเอง
ในทางกลับกันคนที่ใช้เหตุผลในการลงทุนด้วยปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจเป็นสำคัญ จะมีการประเมินมูลค่าหุ้นที่เขาต้องการซื้อและขายไว้อย่างชัดเจนเป็นระยะ นั่นจึงทำให้พวกเขาไม่มีวันติดดอยเช่นกัน หนำซ้ำจะยิ่งรู้สึกชื่นชอบเมื่อราคาหุ้นลดต่ำลงอีกด้วย เพราะนั่นหมายความว่าหุ้นที่เขามองว่ามีราคาถูกอยู่แล้วก่อนหน้านี้กลับยิ่งถูกลงและยิ่งน่าลงทุนขึ้นอีก คนที่จะบ่นว่าติดดอยในกลยุทธ์นี้คือนักลงทุนที่ตัดสินใจลงทุนโดยคิดแค่ว่า “อยากถือหุ้นยาว ๆ ในบริษัทที่ดี” โดยไม่ได้เจาะลึกให้ชัดเจนด้วยตนเองว่า มูลค่าของบริษัทเหล่านั้นกำลังมีราคาที่ถูกเกินไปหรือแพงเกินไปเมื่อเทียบกับราคาในปัจจุบัน ดังนั้น เมื่อพวกเขาเห็นราคาหุ้นเริ่มลดลง จึงขาดความหนักแน่นและเกิดความลังเลใจจนกลายเป็นสภาวะ “ติดดอย” ในที่สุด
ลงทุนด้วยเหตุผลใด ให้ขายออกไปด้วยเหตุผลเดียวกัน
การขาดทุนทางบัญชีหรือที่เรียกว่า “ติดดอย” นั้น เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นได้นักลงทุนทั่วไป หนทางแก้ไขปัญหาติดดอยอย่างถาวรและยั่งยืนมีเพียงหนทางเดียว คือการเลือกกลยุทธ์การลงทุนของตัวเองให้หนักแน่นและชัดเจนว่าจะซื้อด้วยเหตุผลทาง “เทคนิค” หรือ “ปัจจัยพื้นฐาน” หากซื้อด้วยเหตุผลทางเทคนิค ก็จงขายด้วยเหตุผลทางเทคนิค และหากซื้อด้วยเหตุผลทางปัจจัยพื้นฐานก็ให้ขายด้วยปัจจัยพื้นฐานอย่างตรงไปตรงมา
นักลงทุนที่ซื้อเพราะกราฟสวย จะขายเมื่อกราฟเสีย
นักลงทุนที่ซื้อเพราะปัจจัยพื้นฐาน จะขายเมื่อราคาหุ้นเต็มมูลค่า หรือเมื่อพื้นฐานของบริษัทเปลี่ยนแปลง
คนที่จะเจอปัญหา ติดดอย ซ้ำแล้วซ้ำเล่าและเสี่ยงต่อความล้มเหลวทางการลงทุน คือ คนที่ไม่มีหลักการและเหตุผลชัดเจนในการ ซื้อ, ถือ หรือ ขาย และพยายามกระโดดข้ามหลักการไปมาโดยคิดเข้าข้างตัวเองว่าการตัดสินใจของเราน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องในอนาคต แต่สุดท้ายเรื่องราวมักไม่เป็นเช่นนั้นหรอกครับ
อย่างไรก็ดี วิธีการแก้ไขปัญหา ติดดอย ทำยังไง แบบนี้อาจฟังดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ความจริงนั้นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจและการฝึกฝนตัวเองเพื่อสะสมประสบการณ์เป็นเวลานาน หากเรารู้ตัวว่า เราไม่ได้มีใจรักในการลงทุนในหุ้นมากพอที่จะทุ่มเทศึกษาเพื่อหา “กลยุทธ์” ของตัวเองอย่างจริงจัง MenDetails ขอแนะนำให้ลองฟังคำชี้แนะที่สุดแสนจะง่ายดายจากปรมาจารย์ด้านการลงทุนอย่าง Warren Buffett ในบทความก่อนหน้านี้ เราเชื่อว่าอาจจะเป็นทางออกที่ดีกว่าการต้องมาเสี่ยง “ติดดอย” แบบไม่เต็มใจนะครับ