คำถามหนึ่งที่เกี่ยวกับเรื่องของการลงทุนที่เรามักจะได้ยินได้ฟังกันอยู่เสมอนั่นก็คือ “เราจะลงทุนอะไรดี?” หรือ “เราจะซื้อกองทุนอะไรดี?” หรือ “จะซื้อหุ้นตัวไหนดี?” ซึ่งคำถามเหล่านี้มักเป็นข้อสงสัยของผู้ที่ “ไม่ค่อยมีเวลาศึกษาเรื่องการลงทุน” เพราะแค่ภารกิจในชีวิตประจำวัน รวมถึงงานประจำก็ทำให้ยุ่งมากพออยู่แล้ว การหาแหล่งลงทุนดี ๆ ที่จะให้ผลตอบแทนสูงจึงเป็นสิ่งที่เราเลือกที่จะ “ถาม” เอาแทนดีกว่า เพื่อความสะดวกรวดเร็ว
คนที่ถามก็ถามไป แต่คนที่ตอบเนี่ยสิ ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เพราะถ้าตอบแล้วเกิดสามารถทำผลตอบแทนได้ดีก็ถือว่าดีไป แต่ถ้าแนะนำไปแล้วมันไม่ดีล่ะ จะทำอย่างไร สงสัยได้โดนด่ากลับมาแน่นอน แต่ถ้าสำหรับนักลงทุนระดับโลกอย่าง Warren Buffett ที่ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีลำดับต้นๆของโลกจากการลงทุนธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์แล้วนั้น เขาเชื่อว่าเรื่องนี้มีคำตอบที่ง่ายมากสำหรับคนไม่มีเวลา และการเดิมพันข้ามทศวรรษเป็นเวลา 10 ปี ระหว่างเขากับผู้จัดการกองทุน Hedge fund ได้พิสูจน์แล้วว่า สิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ผิดจากความจริงเลย
วางเดิมพันข้ามทศวรรษ
เรื่องราวมีอยู่ว่า Warren Buffett ได้แสดงความเห็นถึงบรรดากองทุน Hedge Fund ที่นำเงินของนักลงทุนไปบริหารเพื่อแสวงหากำไร แต่กองทุนเหล่านี้เก็บค่าธรรมเนียมการบริหารที่แพงมากจนไม่คุ้มกับผลตอบแทนที่นักลงทุนได้รับ Warren Buffett กลับมองว่า แทนที่จะเอาเงินไปให้พวก Hedge Fund ที่เก็บค่าธรรมเนียมแพงๆลงทุนให้ สู้เอาเงินของคุณไปลงทุนกับ กองทุนรวม ที่เน้นลงทุนใน “ดัชนีตลาด” และเก็บค่าธรรมเนียมถูกแบบต่ำเรี่ยเตี้ยดิน แบบนั้นน่าจะคุ้มกว่า ความเห็นของ Warren Buffett เป็นที่มาของการท้าเดิมพันระหว่างเขากับกองทุน Hedge Fund นามว่า Protégé Partners ที่บริหารโดย Ted Seides โดยทั้งสองฝ่ายท้าพนันกันด้วยจำนวนเงินรวม 1 ล้านเหรียญ ว่าระหว่างกองทุนที่พยายามเลียนแบบดัชนี S&P500 โดยเก็บค่าธรรมเนียมต่ำและบริหารด้วยคอมพิวเตอร์ล้วน ๆ เพื่อความแม่นยำของทางฝั่ง Buffett กับกองทุน Hedge Fund ที่มีผู้จัดการระดับหัวกะทิที่เชี่ยวชาญการลงทุนที่หลากหลายและซับซ้อนของ Protégé Partners นั้น ฝ่ายไหนจะทำผลตอบแทนได้ดีกว่ากันแน่
การเดิมพันเริ่มตั้งแต่ปี 2007 และสิ้นสุดลงเมื่อหมดเดือนธันวาคม 2017 รวมเวลาทั้งสิ้น 10 ปี ผลปรากฎว่ากองทุนที่ Buffett เลือกนั้นให้ผลตอบแทนราว 7.1% ทบต้น ในขณะที่กองทุน Hedge Fund ของ Ted Seides ทำผลตอบแทนได้แค่ 2.2% ทบต้นเท่านั้น พูดให้เห็นภาพง่ายๆก็คือ หากเราเชื่อ Buffett แล้วลงทุนด้วยเงิน 1 ล้านบาท กองทุนจะสร้างผลตอบแทนได้ 985,000 บาท หรือเกือบๆเท่าตัว แต่ถ้าเชื่อ Seides เราจะได้ผลตอบแทนกลับมาแค่ราว 243,000 บาทเท่านั้นเอง ทั้งๆที่ใช้เวลา 10 ปีเท่าๆกัน เรียกได้ว่าปู่ Buffett ชนะแบบไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว
บทสรุป
ผลจากการท้าพนันที่ Buffett เป็นฝ่ายชนะ ทำให้เงิน 1 ล้านเหรียญบวกกับผลตอบแทน ได้รับการบริจาคไปยังองค์กรการกุศลเพื่อเด็กผู้หญิง ในเมืองโอมาฮ่าที่เป็นบ้านของ Warren Buffett เอง เรียกได้ว่า งานนี้ถึง Buffett ชนะ แต่ก็ได้บุญถ้วนหน้าถ้วนตากันทั้งคู่ แต่ที่สำคัญเรื่องราวนี้สอนให้รู้ว่า บางครั้งการดิ้นรนหาการลงทุนที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด ผ่านรูปแบบการลงทุนที่ซับซ้อนเข้าใจยาก สุดท้ายกลับไม่สามารถเอาชนะการลงทุนที่เรียบง่าย และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดีและมั่นคงกว่า “ในระยะยาวๆ” รู้อย่างนี้แล้วถ้าใครยังคงเฝ้าถามว่า “จะลงทุนอะไรดี?” หรือ “จะซื้อกองทุนตัวไหนดี?” MenDetails คิดว่าลองมองหากองทุนที่เลียนแบบดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทย ซึ่งมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า เพราะไม่ต้องจ้างผู้จัดการที่มีเงินเดือนแพง ๆ มานั่งบริหาร สุดท้ายกองทุนเหล่านี้อาจเอาชนะกองทุนรวมส่วนใหญ่ในประเทศไทยได้แบบชิลล์ ๆ โดยไม่ต้องนั่งวิเคราะห์โน่นนี่ให้เมื่อยก็ได้นะครับ ไม่เชื่อถาม Warren Buffett เขาดูได้ครับ