หลายคนอาจเคยประสบปัญหากับการถ่ายรูปแล้วออกมาไม่สวยอย่างใจนึก หรือถ่ายออกมาแล้วแต่แต่งรูปไม่เป็น จบหลังกล้องไม่ได้ วันนี้ Mendetails จะมา สอนแต่งรูปง่าย ๆ พาทุกคนไปเรียนรู้เทคนิคในการแต่งรูปบนมือถือที่ใคร ๆ ก็ทำได้กันครับ โดยโปรแกรมที่เราเลือกใช้ คือ Lightroom Mobile ที่คิดว่าหลายๆ คนคงจะต้องมีติดเครื่องกันอย่างแน่นอน เพราะว่าเป็นแอปพลิเคชันที่สามารถแต่งแล้วจบได้ในหนึ่งแอปฯ (หรือถ้าใครอยากจะเอาไปแต่งโทนต่อก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน) ซึ่งเคล็ดลับที่เราจะแนะนำวันนี้ เป็นเรื่องของการเครื่องมือพื้นฐานและทริคเล็ก ๆ ที่จะทำให้รูปของทุกคนดูดีขึ้นภายในพริบตา
เริ่มด้วยการเลือกรูปที่เราจะปรับแต่ง
เริ่มต้นด้วยการเลือกรูปที่ต้องการปรับแต่งกันก่อน ซึ่งจะเลือกเป็นรูปตัวเอง อาหาร สถานที่ ธรรมชาติใด ๆ ก็ได้ ลองแต่งตามคำแนะนำของเราพร้อมทำความเข้าใจการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ใน Lightroom กันก่อน จากนั้นเมื่อใช้งานได้อย่างคล่องแคล่วแล้วค่อยลองแต่งรูปหลาย ๆ แบบ สำหรับวันนี้ MenDetails เลือกปรับรูปอาหารครับ
การแต่งรูปเป็นเรื่องของแสงและสี
สำหรับการปรับรูป เราสามารถแบ่งหมวดหมู่อย่างง่ายที่สุดออกเป็น การแต่งแสง (Light) และ สี (Color) มาลองดูหน้าตาของ Lightroom กันก่อน สำหรับ Tab ด้านล่างที่ทุกคนเห็น คือ เครื่องมือพื้นฐานทั้งหมด ซึ่งจริง ๆ แล้วนั้นแอปฯ จะมีปุ่ม Auto ที่จะทำการปรับแต่งแสงสีให้รูปของเราอัตโนมัติ แต่ก่อนที่จะกด Auto เราอยากให้ทุกคนรู้พื้นฐานของเครื่องมือกันก่อน บางทีหากได้รู้ปุ่มนี้ก็คงจะไม่จำเป็นอีกต่อไป
ว่าด้วยเรื่องของแสง (Light)
เรามาเริ่มกันที่ Light ปุ่มนี้มีหน้าที่เพื่อปรับแสงโดยรวมของรูป และเมื่อกดเข้าไป จะมีให้ปรับหลายอย่าง ประกอบด้วย Exposure, Contrast, Highlight, Shadows, Whites, Blacks ซึ่งแต่ละอย่างจะให้ผลลัพธ์กับรูปไม่เหมือนกัน
- Exposure
คือ ความสว่างของรูป หากบวกเพิ่ม จะทำให้รูปสว่างขึ้น แต่หากลดรูปก็จะมืดลง โดยหน่วยของมันคือสต็อป (Stop) ยกตัวอย่างเช่น +1.00 ก็จะเท่ากับเพิ่มความสว่างไป 1 สต็อป
- Contrast
Contrast คือ ค่ากำหนดความต่างระหว่าง ‘ส่วนมืด’ และ ‘ส่วนสว่าง’ ของรูป ยิ่งเพิ่มก็ยิ่งต่างกันอย่างชัดเจน แต่หากลดค่า Contrast ลงรูปก็จะดูฟุ้ง เพราะส่วนมืดและส่วนสว่างของรูปใกล้เคียงกันมากขึ้น
- Highlight
เครื่องมือนี้ใช้ปรับค่าความเข้มของ ‘ส่วนสว่าง’ ของรูป มักใช้ในตอนที่เราอยากได้ดีเทลกลับมาจากรูปที่มีส่วนสว่างมากเกินไป (เช่น จุดที่แสงไฟกระทบหรือท้องฟ้าตอนกลางวัน)
- Shadows
เครื่องมือนี้ใช้ปรับค่าความเข้มข้นของ ‘ส่วนมืด’ ของรูป หลักการใช้เหมือนกันกับ Highlight แต่เป็นส่วนตรงข้ามกัน มักใช้เวลาต้องการดึงดีเทลในรูปกลับมาจากส่วนที่มืดมากๆ (เช่น ภาพเงา ภาพตอนถ่ายย้อนแสง)
- Whites / Blacks
เครื่องมือนี้ หลักการใช้คล้ายกันกับ ‘Highlights’ และ ‘Shadows’ แต่ที่แตกต่างกัน คือ ทั้ง ‘Whites’ และ ‘Blacks’ จะไม่ดึงเอาดีเทลกลับมาด้วยเหมือนสองเครื่องมือที่กล่าวไปข้างต้น
ว่าด้วยเรื่องของสี (Color)
เครื่องมือถัดมา คือ Color (หรือที่โปรแกรมอื่นเรียกว่า White Balance) โดยเครื่องมือนี้ไว้ใช้สำหรับปรับสมดุลแสงสีขาวรูปทุกรูปที่ถ่ายออกมาจะมีแหล่งแสงที่แตกต่างกัน บางรูปอาจเกิดจากแสงอาทิตย์สีส้ม บางรูปก็อาจเกิดจากแสงไฟสลัวหรือหลอดไฟสีต่าง ๆ เครื่องมือนี้จะช่วยให้รูปที่มีสีต่างๆ ผิดเพี้ยนไปกลับมาเป็นสีขาวได้ทุกสภาพแสง โดยประกอบด้วย 4 เครื่องมือย่อย ได้แก่ Temp, Tint, Vibrance, Saturation
- Temp (Temperature)
อุณหภูมิสี หลักการใช้นั้นง่ายมาก ปรับให้ภาพมีอุณหภูมิสูง (สีส้ม) หรืออุณหภูมิต่ำ (สีฟ้า) โดยเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการแก้แสงให้กลับมาเป็นสีขาวเหมือนที่ควรจะเป็นหรือจะใช้เป็นลูกเล่นให้ภาพของเรามีสีฟ้าหรือส้มก็ได้
- Tint
ส่วน Tint เป็นการปรับให้รูปของเราติดโทนสีฟ้าชมพูหรือเขียว ไว้สำหรับแก้สีของแหล่งสีนั้นไม่ให้ติดโทนสีใดสีหนึ่งมากเกินไป
- Vibrance และ Saturation
เครื่องมือสองอย่างนี้ใช้สำหรับปรับความอิ่มสีของภาพ ซึ่งความแตกต่างของเครื่องมือสองตัวนี้ คือ Vibrance จะใช้ปรับค่าความอิ่มสีเฉพาะส่วนที่ความอิ่มสีต่ำ ในขณะที่ Saturation จะปรับความอิ่มของสีทั้งภาพ ตัวอย่างภาพที่ยกมา จะสังเกตได้ว่าเมื่อเราปรับ Saturation ลดลงต่ำ ผลที่ได้จะให้โทนสี ขาว/ดำ สนิทมากกว่า Vibrance
เมื่อปรับทุกอย่างลงตัว สำหรับภาพตัวอย่างที่ MenDetails เลือกใช้จะออกมาแบบนี้
และนี่คือเครื่องมือพื้นฐานที่สำหรับการ สอนแต่งรูปง่าย ๆ ทุกคนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ตามความเหมาะสม ตามสไตล์ของตัวเองกันได้เลย ใครที่อยากจะคุมโทนใน Instagram ก็จะทำได้ง่ายขึ้นแล้วครับ จะปรับด้วย Lightroom แล้วจบเลย หรือจะนำไปแต่งโทนต่อในแอปฯ อื่น ๆ ก็ได้เช่นกันครับ
สุดท้ายสำหรับเรื่องปรับแต่งภาพนั้นไม่มีคำว่าถูกผิด ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเราเอง แต่หากอยากแต่งภาพด้วยความคล่องแคล่วและชำนาญ ทุกคนก็ควรฝึกฝน ค้นหาสไตล์ที่ใช่ที่สุดสำหรับเราเอง รับรองว่าไม่นานทุกคนก็จะเชี่ยวชาญขึ้นได้อย่างแน่นอนครับ