การรู้มารยาทพื้นฐานในการเข้าสังคมนั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ครับ เพราะเรื่องนี้จะส่งผลต่อการสร้างความประทับใจที่ผู้อื่นมีต่อเรา ทำให้เรารู้ว่าต้องวางตัวอย่างไรจึงจะเหมาะสมกับสถานการณ์และสถานที่ ไม่ไปเผลอทำอะไรผิดธรรมเนียมจนสร้างความเข้าใจผิดต่อผู้ที่พบปะกันได้ หนึ่งในมารยาทขั้นพื้นฐานสำหรับเข้าสังคมที่ MenDetails อยากให้ผู้ชายมีความรู้ติดตัวเอาไว้ คือ มารยาทบนโต๊ะอาหาร ครับ แม้แต่ละประเทศจะมีวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนกัน แต่ Etiquette during the meal นั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างสากลและคนมีความเข้าใจร่วมกันครับ โดยมารยาทที่เราหยิบมาพูดถึงในวันนี้จะเน้นที่พื้นเพมาจากฝรั่งเศส
การถือแก้วไวน์ที่ถูกต้อง และทำอย่างไรเมื่อมีของมากกว่าหนึ่งในมือเดียว
การถือแก้วไวน์หรือแก้วเครื่องดื่มทรงสูงที่เสิร์ฟบนโต๊ะอาหารหรือภายในงานหรูนั้นเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการถือแก้วนั้นสามารถส่งผลต่ออุณหภูมิและรสชาติของไวน์ในแก้วได้ ซึ่งการถือที่ถูกต้องที่สุด คือ ให้จับตรงขา/ก้าน (Stem) ของแก้วครับ จะจับในลักษณะใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งเป็นตัวนำหลักแล้วใช้วางนิ้วอื่นตรงฐานแก้ว หรือจะถือด้วยการใช้แค่นิ้วชี้กับนิ้วโป้งในการประคอง ส่วนนิ้วอื่น ๆ พับเก็บเข้าไปในลักษณะเหมือนกำปั้นหลวม ๆ ก็ได้เช่นกันครับ
ข้อควรระวัง คือ ไม่ควรจับตัว (Bowl) แก้ว และไม่ควรถือแก้วในลักษณะรองมือตรงก้นแก้วเพราะอุณหภูมิจากฝ่ามือจะส่งผลต่อรสชาติของไวน์ได้ครับ นอกจากนั้นการถือแก้วในลักษณะท่าทางที่ถูกต้องยังเป็นการสื่อสารได้ว่าเราเข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการดื่มไวน์อีกด้วย
ในบางกรณีที่เราต้องถือภาชนะในมือมากกว่าหนึ่งอย่าง เช่น งานค็อกเทลที่ต้องยืนกิน แทนที่จะถือแก้วไวน์หนึ่งข้าง และถือจานอาหารอีกหนึ่งข้าง เราแนะนำให้ถือทั้งแก้วไวน์และจานด้วยมือที่ถนัดเพียงข้างเดียวครับ โดยให้จับแก้วไวน์โดยใช้จับตรงฐาน (Base) เป็นหลัก ซึ่งสามารถจับในลักษณะใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้กำรอบก้านแก้วแล้วใช้นิ้วที่เหลือรองตรงฐานแก้ว หรือใช้นิ้วโป้งจับฐานแก้ว ในขณะที่นิ้วอื่น ๆ รองอยู่ใต้ฐานก็ได้ครับ โดยใช้นิ้วอื่น ๆ ช่องว่างระหว่างนิ้วที่เหลือเป็นตัวหนีบจานค็อกเทลเอาไว้
หรือถ้าใครชอบถือแก้วไวน์ข้างหนึ่ง ถือสมาร์ตโฟนอีกข้างหนึ่งก็สามารถดึงสมาร์ตโฟนมาถือในแนวนอนแล้วเอาแก้วไวน์วางทับไว้บนหน้าจอได้เลยครับ เหมือนเป็นการวางพักแก้วขณะที่ยืนพูดคุยสนทนากับคนอื่น ๆ ซึ่งถ้าเป็นสาว ๆ ก็สามารถเปลี่ยนจากสมาร์ตโฟนเป็น Crush bag ได้เช่นกัน
ใช้ด้านในของผ้าเช็ดปากเพื่อเช็ดจะดีที่สุด
เมื่อเข้าร่วมโต๊ะอาหาร เราจะเห็น ผ้าเช็ดปาก (Napkin/Table Napkin) ถูกพับอย่างสวยงามและจัดวางบนจานในโต๊ะอาหาร มีจัดไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เศษอาหารกระเด็นหรือเลอะบนเสื้อผ้าของเรา โดยผ้าเช็ดปากเป็นหนึ่งองค์ประกอบเล็ก ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าผู้จัดงานมีความใส่ใจต่อคนที่มาร่วมงาน เมื่อเราเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะอาหารก็สามารถหยิบผ้าเช็ดปากออกจากจานหรือโต๊ะ แล้วคลี่ออกวางบนตักได้เลยครับ พื้นที่ที่ถูกต้อง คือ วางบนหน้าตักนะครับ ไม่ควรนำไปเหน็บไว้ตรงปกคอเสื้อเพราะเป็นสไตล์ยุโรปเก่าที่ปัจจุบันไม่แนะนำให้ทำแล้วครับ
เทคนิคในการใช้ผ้าเช็ดปาก คือ ใช้ด้านในของผ้าในการเช็ด เพราะผ้าด้านนอกควรจะสะอาดเอี่ยมอยู่เสมอ เวลาวางไว้บนตักจะได้ดูเรียบร้อย ไม่เลอะเทอะ ส่วนวิธีการใช้ เช็ดด้วยการกดแตะ (Tap tap) บริเวณที่ต้องการเช็ดทำความสะอาด ไม่ควรลากผ้าเช็ดถูไปมา เพราะจะทำให้รอยเลอะยิ่งขยายวงกว้างไปอีก
นอกจากนั้นยังมีเรื่องตำแหน่งในการวางผ้าเช็ดปาก หากเราจะลุกออกจากโต๊ะเพียงชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็นลุกไปเข้าห้องน้ำ คุยโทรศัพท์ ทำธุระส่วนตัวใด ๆ แต่จะกลับมาทานต่อ ให้วางผ้าเช็ดปากเอาไว้บนเก้าอี้ เป็นการบอกบริกรว่าเราจะกลับมานั่ง แต่ถ้าเรากินอิ่มแล้ว ต้องการบอกบริกรว่าสามารถเก็บอุปกรณ์ส่วนของเราไปได้เลย ให้วางผ้าเช็ดปากเอาไว้บนโต๊ะข้าง ๆ จานอาหารครับ
วิธีการทานซุปก็มีเทคนิคเช่นกัน
การเสิร์ฟอาหารเป็นคอร์ส ตามงานดินเนอร์หรือ Fine Dining ต่าง ๆ จะเรียงลำดับเริ่มจากจานเบาไปจานหนัก โดยถ้าเป็นสไตล์ฝรั่งเศส อาจจะเริ่มต้นจากเสิร์ฟขนมปัง แล้วต่อด้วย Entrée หรืออาหารเรียกน้ำย่อย ซึ่งมักจะเสิร์ฟเป็นซุปแล้วค่อยขยับไปเป็นจานที่มีเนื้อสัตว์ ตามด้วยสลัด Cheese Course และปิดท้ายด้วยของหวาน ซึ่งเมนูซุปนี่แหละครับที่มีเทคนิคในการกินที่ถูกต้องตามมารยาทของมันอยู่
ในมารยาทสากลของคนฝรั่งเศส เราต้องใช้ช้อนซุปตักซุปไปด้านหน้าในลักษณะตักออกจากตัว แล้วกินซุปจากด้านข้างช้อน ไม่นำทั้งช้อนเข้าปากตรง ๆ ควรจะกินซุปแบบจิบอย่างละเมียดละไม ไม่สูดเข้าปากแบบเสียงดัง หากซุปใกล้หมดชามแล้วตักขึ้นช้อนยาก สามารถเอียงชามไปด้านหน้าเพื่อให้ตักง่ายขึ้นได้ เมื่อกินเสร็จแล้วให้นำช้อนออกมาวางที่จานรอง ไม่ควรวางทิ้งไว้ในชามหรือถ้วยครับ
ทานอาหารด้วยอุปกรณ์คู่กัน ยกเว้นบางอย่างต้องใช้มือ
Flatware จากแบรนด์ Christofle ของฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงเรื่องเครื่องเงิน
การจับอุปกรณ์ จะต้องเป็นถือส้อมด้วยมือซ้าย และถือมีดหรือช้อนด้วยมือขวาเสมอ แต่ถ้าหากเราเป็นคนที่ถนัดมือซ้ายแล้วต้องถือสลับข้างก็สามารถบอกคนใกล้ตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติให้เขารู้ว่าเราไม่ได้ตั้งใจถือผิดฝั่งหรือไม่รู้มารยาทแต่อย่างใด ถ้าเป็นคอร์สฝรั่งเศส จานแรกมักเสิร์ฟด้วย Baquette (บาแกตต์) หรือขนมปังชนิดต่าง ๆ สามารถใช้มือหยิบขนมปังมาบิเป็นคำเล็ก ๆ แล้วกินได้เลย
สไตล์ของคนฝรั่งเศสจะไม่ใช้ส้อมจิ้มขนมปังครับ โดยจานขนมปังจานแรกนี้จะต้องถูกเสิร์ฟไว้ทางซ้ายมือของเราเสมอ (ระวังอย่าไปหยิบทางขวามือที่เป็นขนมปังของคนอื่น) แต่หากเป็นชีส ถือเป็นอาหารที่ห้ามจับด้วยมือ ให้ใช้ส้อมและมีดในการหั่นเพื่อกินครับ
วางอุปกรณ์อย่างไรหลังกินเสร็จ
แบรนด์ Bernardaud คอลเลกชันนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากพระราชวัง Fontainebleau
การวางอุปกรณ์ทานอาหารบนจาน ถือเป็นหนึ่งวิธีในการสื่อสารกับบริกรได้เช่นกันว่าเรากินอาหารเสร็จแล้วหรือยัง ต้องการให้เก็บอุปกรณ์ไปเลยไหม หากเป็นมารยาทบนโต๊ะอาหารไทย เรามักจะถูกสอนกันมาว่า ให้รวบช้อนส้อมเข้าชิดกันเมื่อกินอิ่มแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่มักจะวางหงายในแนวตั้ง เหมือนวางคู่กันเป็นเลข 11
แต่ถ้าหากเป็นการวางช้อนส้อมหรือส้อมมีดตามมารยาทบนโต๊ะอาหารแบบฝรั่งเศส เพื่อจะสื่อสารว่าเรา Finished with a course แล้ว ให้วางอุปกรณ์ตามแนวนาฬิกา 3 – 5 นาฬิกาครับ คือ ปลายอุปกรณ์จะเฉียงไปทางขวา ซึ่งส้อมสามารถวางหงายได้เลย ไม่จำเป็นต้องคว่ำส้อม ส่วนมีด ควรจะหันใบมีดเข้าด้านใน เพื่อที่จะได้ง่ายต่อการเก็บจานอาหาร บริกรสามารถรวบทั้งจานและอุปกรณ์บนจานไปได้ในครั้งเดียว
มารยาทบนโต๊ะอาหาร ที่เราแนะนำไปข้างต้นนั้นมีพื้นเพมาจากฝรั่งเศส โดยคนฝรั่งเศสนั้นมักจะมีดินเนอร์มื้อดี ๆ ภายในครอบครัวเมื่อถึงเทศกาลสำคัญอย่างช่วงคริสต์มาส จากมารยาทบนโต๊ะอาหารในครอบครัวก็พัฒนาไปเป็นมารยาทบนโต๊ะอาหารในสังคมที่คนมีความเข้าใจร่วมกัน แม้ Etiquette ของ Continental Style กับ American Style อาจมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วเรื่องเหล่านี้ก็มารยาทพื้นฐานอันเป็นสากลที่ผู้ชายไทยสามารถหยิบไปใช้เมื่อต้องออกงานสำคัญ ร่วมโต๊ะดินเนอร์ที่เป็นทางการได้เสมอ