งานแต่งงาน ถือเป็นงานที่น่ายินดีสำหรับทุกคน เพราะเป็นการแสดงความยินดีให้กับความรักของคนสองคนที่ตัดสินใจคบหาเป็นคู่ชีวิตกัน นอกจากตัวคู่บ่าวสาวที่มีความสุขแล้ว ก็เป็นงานที่บรรดาครอบครัวและเพื่อน ๆ ร่วมดีใจไปกับพวกเขาเช่นกัน ซึ่งงานพิธีการประเภทต่าง ๆ นั้นล้วนมีมารยาทหรือกฎพื้นฐานที่เราต้องใส่ใจเพื่อไม่ให้ไปกระทบบรรยากาศหรือเป็นการเสียมารยาทในงานนั้น ๆ วันนี้ MenDetails จึงอยากแนะนำ มารยาทงานแต่ง พื้นฐาน ที่ผู้ชายอาจมองข้าม แต่กลับมีความสำคัญอย่างยิ่งครับ
สิ่งที่อาจดูเล็กน้อยเหล่านี้ เป็นองค์ประกอบสำคัญที่อาจส่งผลต่อบรรยากาศของงานได้ครับ รวมถึงอาจทำให้เราดูเป็นคนไม่มีมารยาทหรือไม่รู้จักกาลเทศะ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้แขกในงานได้เห็นด้วย โดยเฉพาะยิ่งเราเป็นคนใกล้ชิดคู่บ่าวสาวยิ่งต้องระวังครับ จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันครับ
อย่าแต่งตัวเด่นกว่าเจ้าบ่าว เพราะนี่คือวันของเขา
ในฝั่งของหญิงสาว ผู้ชายหลายคนอาจเคยได้ยินคำพูดทำนองว่า “อย่าแต่งชุดเดรสสีขาวเหมือนเจ้าสาว” มาอยู่บ้าง เพราะชุดเดรสสีขาวเป็นชุดที่เจ้าสาวใส่ในงาน การใส่ชุดคล้ายเจ้าสาวทำให้คนใส่อาจเด่นเกินหน้าเกินตาเจ้าสาว ทั้งที่มันควรเป็นวันของเธอ กลายเป็นการเสียมารยาทอย่างที่สุด แม้จะมีข้อยกเว้นอยู่บ้างในการใส่เดรสสีขาวได้ก็ตาม เช่น เดรสสั้น เดรสที่ไม่อลังการกว่าเจ้าสาว แต่โดยปกติชุดเดรสยาวสีขาวคล้ายชุดเจ้าสาวก็จะไม่มีสาวคนไหนแต่งกัน หรือสีที่โดดเด่น ดึงดูดสายตามาก ๆ อย่างสีแดงก็ควรจะเลี่ยงครับ ยกเว้นว่าเป็นพิธีจีนหรือมีการกำหนดธีมงานแต่งสีนั้น ๆ
ฝั่งผู้ชายเองก็มีเรื่องระดับของสูทที่ใส่ไปร่วมงานว่าควรจะเป็นทางการน้อยลงมากว่าเจ้าบ่าวครับ ซึ่งระดับสูงสุด คือ ทักซิโด้ เราควรจะแต่งลดลงมาหนึ่งระดับ เพื่อป้องกันไม่ให้ชนกับเจ้าบ่าว หรือบางงานเจ้าบ่าวอาจแต่งกายชุดเจ้าบ่าวด้วยสูท หากเราไปแต่งชุดที่เป็นทางการกว่าก็อาจเป็นการเสียมารยาทได้ ควรให้วันนั้นเป็นวันของเจ้าบ่าวครับ เราเป็นแขก ควรจะแต่งตัวดี แต่ต้องระลึกเอาไว้ว่า เราไม่ใช่ตัวเอกของงาน
ซึ่งพิธีแต่งงานในไทย เจ้าบ่าวหลาย ๆ คนก็ไม่ได้ใส่ทักซิโด้ครับ หากเราเป็นเพื่อนหรือญาติฝ่ายเจ้าบ่าวที่ค่อนข้างสนิทกันก็ถามก่อนวันไปร่วมงานเสียหน่อยว่าเจ้าบ่าวสวมชุดอะไรในวันแต่งงาน เพื่อที่เราจะได้กำหนดระดับสูทและรองเท้าหนังที่จะสวมไปร่วมงานได้อย่างดูดี และไม่เกินหน้าเกินตาเจ้าภาพครับ
ควรแต่งตัวตาม Dress Code ที่ระบุไว้
ในคำเชิญไปร่วมงานแต่งงาน หลายครั้งมักจะเขียน Dress Code เอาไว้ด้วย โดยทั่วไปก็ Black Tie หรือ White (ชุดสีขาว แต่ไม่ใช่ White Tie นะครับ) ก็คนรุ่นใหม่ไม่น้อย ก็อยากจัดงานแต่งงานที่สนุกสนาน เพราะถือเป็นงานครั้งเดียวในชีวิตก็จะเห็นธีมงานแต่งแปลก ๆ แต่น่าสนใจ ซึ่งจะมาพร้อมกับ Dress Code ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
หลายคนอาจมองว่า แค่ Dress Code แค่นี้ไม่ต้องแต่งตามก็ได้ ใส่สูทแบบปกติไปก็พอ แต่ถ้าให้พูดกันแล้ว การแต่งตัวตาม Dress Code เป็นสิ่งที่สำคัญมากนะครับ เพราะมันเป็นการแสดงออกว่าเราใส่ใจกับงานมากแค่ไหน โดยเฉพาะถ้าเป็น Dress Code พื้นฐานอย่าง Black Tie หรือ White ยิ่งควรต้องแต่งตามครับ เว้นแต่จะมีคำว่า Optional พ่วงท้ายมากับ Dress Code บนบัตรเชิญ ถ้ามีคำนั้นพ่วงมา หากไม่สะดวกแต่งตาม อย่างน้อยก็ให้ใส่ชุดสุภาพไปครับ ไม่ผิดกติกา
การที่เราแต่งตัวตาม Dress Code ไม่ว่าจะมากหรือน้อย เป็นการแสดงให้เห็นว่าเราให้ความสำคัญกับงาน และอยากสนุกไปกับงานนั้น ๆ และยังทำให้คู่บ่าวสาวที่เป็นคนคิดธีม หรือ Dress Code ขึ้นมารู้สึกสนุกและดีใจที่คนสนุกไปกับงานแต่งของพวกเขาครับ
อย่างทางทีมงาน MenDetails เคยไปงานแต่งงานที่มี Theme 90s เป็นงานที่จัดอย่างหรูหรา แต่มีกลิ่นอายของยุค 90s ทั้งเกม Arcade เพลงที่เปิดในงาน การจัดงาน กิจกรรม การที่เราแต่งตัวให้เข้ากับบรรยากาศงานก็สร้างสีสัน สร้างบรรยากาศได้มากขึ้นครับ ยิ่งเมื่อทุกคนในงานจำนวนมากแต่งตัวตาม Dress Code ยิ่งทำให้งานสนุกมากขึ้นครับ หรือบางอย่างกำหนดมาแค่ธีมสี หากเป็นสีอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สีพื้นฐาน เช่น สีเขียว ที่เราอาจไม่มีชุด การหาอะไรสักอย่างที่เป็นสีเขียวมาใส่ก็ถือว่าเข้าธีมแล้วครับ ไม่ต้องลำบากไปวิ่งหาชุดสูทสีเขียวแต่อย่างใด
และสุดท้ายเราอยากเตือนไว้สักนิดว่า เวลาไปงานแต่งงาน ไม่ควรใส่ชุดสีดำทั้งตัวหัวจรดเท้านะครับ สูทสีดำ แต่เชิ้ตด้านในก็ควรเป็นสีอื่น ๆ ที่มีสีสันสักหน่อย เนื่องจากการแต่งสีดำทั้งตัวเป็นตัวแทนของการใส่ไปร่วมงานอวมงคล ฉะนั้นจึงไม่ควรใส่ไปร่วมพิธีมงคลอย่างงานแต่งงานครับ
เคารพวัฒนธรรม ประเพณี ของงานแต่งนั้น ๆ
โลกเรานี้มีประเพณี วัฒนธรรม ที่หลากหลาย ทำให้พิธีการบางอย่างในงานแต่ง อาจมีการปฏิบัติตัวหรือความเชื่อที่แตกต่างกันออกไปครับ การเข้าใจวัฒนธรรม ประเพณีเหล่านั้นก็ถือเป็น มารยาทงานแต่ง อีกอย่างที่ควรจะมี เพราะสิ่งที่ดูปกติสำหรับเรา หรือเป็นสิ่งที่เราทำงานในแต่งงานอื่น ๆ อาจกลายเป็นสิ่งที่ดูแปลก หรือเสียมารยาทในอีกงานหนึ่งได้
โดยปกติเรามักจะชินกับงานแต่งงานแบบไทย สิ่งที่ควรต้องระวัง คือ เรื่องการใส่ซอง การอวยพรแสดงความยินดี และมารยาทบนโต๊ะอาหาร ไม่ว่าจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ โต๊ะจีน Cocktail ซึ่งเราน่าจะคุ้นเคยกันดี แต่ใครจะรู้ว่าเราอาจมีโอกาสได้รับเชิญไปงานแต่งงานของเพื่อนต่างชาติ หรืองานแต่งงานที่จัดโดยใช้ธรรมเนียมของประเทศอื่นมาผสม ส่วนใหญ่เป็นเพราะฝ่ายเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวเป็นคนต่างประเทศ ดังนั้นจึงควรศึกษาให้ก่อนว่าในแต่ละประเทศมีความเชื่อ หรือประเพณีในการจัดงานอย่างไร มันคงไม่ใช่เรื่องดีนักหากเราไปล้อเลียนหรือพูดจาไม่ดีเวลาที่เราเห็นการปฏิบัตินั้น ๆ หรือดูรังเกียจอาหารที่เป็นธรรมเนียมในงานครับ
และที่สำคัญเพื่อรักษาน้ำใจและไม่เสียมารยาท แม้จะเป็นการปฏิบัติหรือวัฒนธรรมที่เราไม่คุ้นเคย แต่หากถูกขอให้ทำก็ควรทำครับ เราอาจจะเก้ ๆ กัง ๆ ไปสักหน่อย แต่ไม่มีใครว่าเราแน่นอนครับ นั่นรวมถึงการกินอาหารในงานด้วยเช่นกัน อย่างหนึ่งในทีมงาน MenDetails เคยมีโอกาสไปงานแต่งงานที่ประเทศบราซิล ซึ่งเป็นพิธีแบบคริสต์ แม้เราจะไม่ได้นับถือคริสต์แต่ก็สามารถปฏิบัติตามธรรมเนียมได้อย่างถูกต้อง รวมถึงหลังงานจบคนบราซิลจะมีการฉลองกันในหมู่คนสนิทและครอบครัวที่ร้านอาหาร และตามสไตล์ดินแดนแซมบ้าที่ชอบจัดงานรื่นเริงและเต้นรำ งานฉลองหลังพิธีก็เป็นแบบเปิดฟลอร์เต้น แม้เราจะเต้นไม่เก่งนัก แต่เราก็เข้าไปร่วมเต้นรำกับบรรดาแขกในงานได้อย่างสนุกสนาน ถือเป็นการแสดงความยินดีและการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมแบบหนึ่งครับ
มารยาทพื้นฐานอื่น ๆ ที่ควรทำ
สำหรับข้อสุดท้ายนี้ น่าจะเป็นการรวมมารยาทจิปาถะทั้งหลายที่ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงานที่ไหน ๆ ก็ควรปฏิบัติครับ เช่น หากมีบัตรเชิญส่งมามีตัวย่อเขียนอยู่ว่า R.S.V.P ที่ย่อมาจาก Répondez s’il vous plaît แปลว่า กรุณาตอบกลับในภาษาฝรั่งเศส และเราจะพบเห็นได้ทั่วไปในบัตรเชิญไปงานพิธีการต่าง ๆ หากเราตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไปก็ตาม ต้องแจ้งให้เจ้าภาพรู้ให้เร็วที่สุดครับ เพราะเจ้าภาพอาจต้องจัดเตรียมอาหาร ที่นั่งเอาไว้ให้เรา
นั่นรวมถึงมารยาทอย่างการไม่พาแขกที่ไม่ได้ระบุอยู่ในบัตรเชิญไปด้วย เช่น ถ้าบัตรเชิญระบุแค่เราก็ควรไปแค่เราครับ แต่ถ้ามีเขียนว่าเราและครอบครัวก็สามารถพาครอบครัวไปได้ และหากพ่วงด้วย R.S.V.P ก็ควรตอบกลับว่าจะไปทั้งสิ้นกี่คนอยู่ดีครับ
เมื่อไปถึงงานแล้ว อาจมีการจัดที่นั่งไว้ให้เราในโต๊ะใดโต๊ะหนึ่ง เช่น โต๊ะเพื่อนเจ้าบ่าว / เจ้าสาว หรือยิ่งไปกว่านั้นอาจจะจัดไว้ว่าเราจะต้องนั่งเก้าอี้ตัวใด หากมีการกำหนดมาตายตัวเช่นนี้ เราไม่ควรย้ายที่นั่งเองตามใจชอบครับ เพราะจะถือเป็นการเสียมารยาท
การเคารพเวลาก็เป็นสิ่งสำคัญครับ ถ้าจะให้ดีควรไปถึงก่อนเวลาสักเล็กน้อยครับ เพื่อร่วมถ่ายรูป ใส่ซอง เขียนแสดงความยินดี พูดคุยกับแขกคนอื่น ๆ และเวลาที่จะกลับก็อย่าลืมบอกเจ้าภาพร่ำลาให้เรียบร้อยครับ
นี่คือมารยาทงานแต่งงานพื้นฐานที่เราอยากให้ทุกคนที่รู้ครับ อาจมีบางอย่างที่บางคนละเลยไป แม้ไม่มีคนเตือนแต่ถ้าเราระวังเอาไว้ก็เป็นสิ่งที่ดีครับ เพราะจะทำให้เราดูเป็นคนที่มีมารยาท สุภาพ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และใครจะรู้อาจเป็นการสร้างความประทับใจให้คนในงาน รวมถึงสาว ๆ คนอื่นในงานด้วยก็ได้ครับ