ใครไปญี่ปุ่นก็ต้องไปกินราเม็งครับ มันเหมือนเป็นอาหารประจำชาติอย่างหนึ่งไปเสียแล้ว ซึ่งครั้งหนึ่ง MDs เคยมีโอกาสได้ไปลองร้านราเม็งร้านหนึ่งในย่าน Harjuku โดยก่อนหน้านี้ไม่ได้รู้จักเลยแม้แต่นิดเดียว หลงเข้าไปทานด้วยสาเหตุเดียวก็คือ “คนต่อคิดหน้าร้านเยอะ” เพราะการไปญี่ปุ่นครั้งนั้นเคยตั้งใจไว้ว่า “จะลองทานร้านที่ไม่รู้จักแต่คนต่อคิวเยอะๆ ทุกร้านที่สามารถลองได้” เลยเป็นที่มาของรีวิวครั้งนี้ครับกับร้าน ‘AFURI’ ราเมนชื่อดังที่มีน้ำซุปที่เหลืองทองสดใส (จะเรียกว่าโชคดีหรือโง่ดีนะที่ไม่รู้จักแล้วดันได้ลองทาน)
ร้าน AFURI นั้นมีทั้งหมด 8 สาขานะครับ (หลังจากกลับมาแล้วพบว่าเป็นร้านดัง) ตั้งอยู่ในโตเกียวและโยโกฮาม่า ซึ่งที่มาของคำว่า AFURI นั้นมาจากภูเขาที่ชื่อว่า Afuri เนื่องจากน้ำซุปที่ทางร้านใช้นั้นส่งตรงมาจากน้ำธรรมชาติบริสุทธิ์ที่ไหลมากจากตีนเขาของภูกเขา Afuri นั่นเองในจังหวัดคานากาว่า แค่วัตถุดิบหลักที่นำมาใช้ทำน้ำซุปก็โหดแล้วใช่มั้ยครับ แต่ที่นี่ยังเสริมและเพิ่มเติมบางอย่างเข้าไปในน้ำซุปให้สามารถทานได้โดยไม่เลี่ยน นั่นก็คือคือ “ส้มยูซุ” นั่นเอง
-กดเมนูที่อยากทานแล้วจะได้บัตรหน้าตาแบบนี้มาครับ จากนั้นก็รอที่นั่งว่าง-
กล่าวแบบนี้ก่อนละกันคือ ปกติแล้วน้ำซุปราเม็งส่วนใหญ่นั้นจะเป็นน้ำซุปกระดูกหมูครับหรือที่เราเรียกกันว่า “ทงคตสึ” ซึ่งเข้มข้นและรสชาติหนักแน่นกว่า “ซัปปะริ” หรือน้ำซุปชนิดเบาและใสกว่า ซึ่งที่นี่เลือกใช้น้ำซุปจากมันไก่และส้มยูซุเป็นหลัก บอกเลยว่าหอมได้ใจจริงๆ เริ่มต้นเดินเข้าร้านนั้น ต้องทำการกดอาหารจากตู้กดเสียก่อน (ถือเป็นธรรมเนียมไปเสียแล้วครับผม) อยากทานอะไรก็จิ้มไปเลย
สิ่งแรกที่เราเลือกกดเลยก็คือ “เหล้าจากส้มยูซุผสมโซดา” ฟังดูแล้วไม่ธรรมดาเลยใช่มั้ยครับ ซึ่งก็ถือว่าจริง แก้วนี้ถือว่าอร่อยมากทีเดียว หอมกลิ่นส้มชื่นใจมากๆ เหมือนช่วยเติมพลังจากวันที่ลากขาเดินราว 10 กิโลเมตรทั้งวันได้เป็นอย่างดี
-ทานกับไข่ต้มยางมะตูม อร่อยอย่าบอกใครเลยจริงๆ-
ต่อมาคือตัวเด็ดของวันนี้เลยนั่นก็คือ “ราเม็งซุปใส” ที่นี่มีซุปให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 แบบครับได้แก่ รสเกลือ / รสส้มยูซุ / รสเผ็ด ที่เรากดสั่งไปน่าจะเป็นรสส้มยูซุครับ (จำได้ว่าเข้าไปแบบงงๆ แล้วก็กดอะไรก็ตามที่ทางร้านเขียนว่าขายดี ฮาๆ) รสชาติน้ำซุปดีมากครับ หอมอ่อนๆ และไม่เลี่ยนเหมือนซุปข้นแบบกระดูกหมู เส้นถือว่าทำออกมาได้ดี บางแต่นุ่มครับ แถมไม่กระเด็นให้เลอะเทอะอีกด้วย แต่ที่เด็ดทีขาดอยู่ที่หมูชาชูนี่แหละ เพราะทางร้านเลือกที่จะนำมาย่างกับไฟแรงๆ ให้ไหม้นิดๆ หอมแบบสุดๆ (จริงๆ ก็หอมตั้งแต่ยืนรอในร้านแล้วหล่ะครับ
-เตาปิ้งหมูชาชูครับ ย่างด้วยเตาถ่านแบบหอมกำลังดีเลย-
ค่าเสียหายจะอยู่ราวๆ 900 เยนต่อชามครับ ยกเว้นว่าคุณจะสั่งหมูชาชูย่างเพิ่มเติมเป็น Topping แยก ก็จะแพงขึ้นไปอีกหน่อย แต่บอกเลยว่าราคานี้ ได้รสชาติที่แตกต่างไม่ค่อยได้เห็นจากที่ไหนมาก่อน ก็น่าแวะไปลองสักครั้งนะครับ แต่เนื่องจากเราไปลองแบบงงๆ มึนๆ แบบไม่ได้คาดหวังอะไร เลยรู้สึกว่าชามนี้มันอร่อยมากทีเดียว (เมื่อเทียบกับมื้อก่อนหน้านี้) ดังนั้นถ้าใครมีโอกาสได้ไปโตเกียว อย่าลืมแวะไปลองทานกันดูนะครับกับร้าน ‘AFURI Ramen’ รับรองว่าคุณจะต้องชอบ