ด้วยความที่เราชาว MenDetails นั้น ชื่นชอบเสื้อผ้าหรือเครื่องแต่งกายที่ไม่ตกเทรนด์ง่ายๆ เป็นหลัก เราจึงเริ่มต้นศึกษาตัวรองเท้าทรงต่างๆ ที่วางขายในท้องตลาด และก็พบว่า รองเท้าเจ๋งๆ กับประวัติอันยอดเยี่ยมนั้น มีมากมายพอสมควร ยกตัวอย่างเช่น GAT ที่เป็นรองเท้าในกองทัพเยอรมัน หรือรองเท้าอย่าง New Balance รุ่น Classic ต่างๆ เช่น 1500 / 990 เป็นต้น และนี่ก็เป็นอีกคู่หนึ่งครับนามว่า Nike Killshot 2 ที่เราอยากแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกัน
ถือเป็นรองเท้าสุด Hype ที่คนไม่ค่อยรู้จักกัน
ใช่ครับ เราพูดไม่เกินจริงหรอก เพราะนี่คือรองเท้าที่เป็นที่พูดถึงอย่างมากในวงการ Menswear ไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตาม ยกตัวอย่างเช่นใน Reddit หรือแม้แต่ Hypebeast เองก็ตาม แต่ในประเทศไทยนั้นน้อยคนครับที่จะสนใจและให้ความสำคัญกับรองเท้าคู่นี้จริงๆ นั่นเป็นเพราะ ตัวรองเท้ารุ่นนี้เป็นรองเท้าสไตล์เรียบๆ ไม่ได้มีอะไรที่หวือหวาน่าตื่นเต้น ไม่เหมือนรองเท้าแนว Collaboration ต่างๆ ที่วางขายในบ้านเรา หรือมีเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยม ดังนั้น “น้อยคนนักครับที่จะรู้จักรองเท้ารุ่นนี้จริงๆ”
รองเท้า Nike Killshot นั้นเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1979 โดยถูกออกแบบเพื่อเป็นรองเท้าสำหรับกีฬา Tennis / Squash เป็นต้น ด้วยพื้นที่นิ่มมากกว่ารองเท้าวิ่งทั่วๆ ไปในช่วงนั้น ทำให้การเคลื่อนที่ในสนามทำได้ง่ายดายกว่ามากนั่นเอง
รองเท้ารุ่นนี้ถูกนำกลับมาปัดฝุ่นใหม่อีกรอบ และมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดรองเท้าเล็กน้อย จนกลายเป็น Killshot Version ที่ 2 ที่มีจุดเด่นคือพื้น Gum Sole (ไม่มีในรุ่นแรก) และทรงที่ดูเรียบร้อย สะอาดตามากขึ้น เปลี่ยนหน้าผ้าจากผ้า Mesh มาเป็น Leather แทน เพื่อให้ได้ความ Premium มากขึ้น
เรียบ / ดูดี / ใส่ได้หลากหลาย และไม่ตกเทรนด์
ถึงแม้ว่าจะเป็นรองเท้าที่มีความต้องการในตลาดสูงมากๆ แต่ก็ดังอยู่ในวงแคบๆ ครับ วงที่ทุกคนต่างให้ความสำคัญกับสไตล์ที่เรียบหรูดูดี เป็นหลัก ไม่ได้ตามเทรนด์หวือหวาของรองเท้าในวงการ Sneakerhead อย่างที่เห็นกัน ณ ปัจจุบัน หากจะให้ยกตัวอย่าง รองเท้าคู่นี้คงมีกระแสการตอบรับคล้ายๆ กับ Common Projects นั่นแหละครับ (แต่ถูกกว่าหลายเท่าตัวมากทีเดียว โดยสนนราคาอยู่ที่คู่ละ $90 เท่านั้น)
ด้วยวัสดุ Leather Upper ตัดกับหนัง Suede ช่วง Toe Box และ Heel Cup รวมถึงรูร้อยเชือก ทำให้ตัวรองเท้าดูเรียบแต่มี Texture ต่างๆ ที่น่าสนใจ พร้อมกับ Nike Swoosh อันใหญ่แปะด้านข้างของตัวรองเท้าเป็นสีน้ำเงิน ตามแบบฉบับ Original ของทรง Killshot ปิดท้ายด้วยพื้น Gum Sole ทำให้รองเท้าคู่นี้ โดดเด่นแต่ไม่แย่งสายตาทุกคนให้หันมาสนใจรองเท้ามากนัก “เรียบแบบดูดี”
เป็นทรง Exclusive ที่ทาง Nike วางขายร่วมกับ J-Crew เท่านั้น
ไม่ใช่ว่าถ้าอยากจะได้ก็สามารถเดินไปซื้อตามร้านทั่วไปได้เลยนะครับผม เพราะตัวรองเท้า Nike Killshot 2 นั้นเป็นรุ่น Exclusive ที่ทาง Nike วางขายผ่านทางแบรนด์ J-Crew ของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น กล่าวคือ จะไม่มีการวางขายใน Shop ของ Nike เองโดยตรง และก็จะไม่วางขายที่ Shop อื่นใดนอกจาก J-Crew นั่นเอง ซึ่งช่วงแรกๆ ที่รองเท้า Nike Killshot 2 ออกวางขายนั้น ตัวรองเท้าก็ Sold Out ออกไปอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นที่พูดถึงบนโลก Online จนน่าตกใจ
ช่วงแรกที่ Nike วางขายรองเท้าทรงนี้แบบ Exclusive กับ J-Crew นั้น ตัวรองเท้าถูกปั่นราคา Resale พุ่งขึ้นไปสูงถึง $250 เลยนะครับ สาเหตุหลักมาจากทาง J-Crew ประกาศว่าขายหมดเกลี้ยง และต้องรอ Restock อีกนานเลยทีเดียว จนความต้องการในตลาดก็พุ่งสูงจนราคาวิ่งไปแตะเกือบ 3 เท่าของราคาเริ่มต้น
ณ ปัจจุบัน Nike ได้เริ่มปรับวิธีการวางขายโดยเริ่มผลิตรองเท้าให้สามารถ Restock ได้เร็วขึ้น และเพิ่มสีแดงและเขียวให้กับทรงดังกล่าว แต่ความต้องการรองเท้าก็ยังคงสูงอยู่ดี (แต่ก็ยังเป็นวงแคบๆ ไม่ได้โด่งดังระดับงาน Collaboration แต่อย่างใด)
ถึงแม้ J-Crew จะมี Online Store แต่ไม่ส่งมาไทยนะครับ!
อ่านมาถึงจุดนี้ คุณอาจจะเริ่มต้นค้นหาตัวรองเท้าบนโลก Online แล้ว แต่ต้องแจ้งให้ทราบก่อนเลยนะครับว่า Nike Killshot 2 ที่วางขายใน J-Crew นั้น จะสั่งซื้อได้เฉพาะภายในสหรัฐอเมริกา จึงไม่มีการส่งออกนอกประเทศนะครับ แปลว่า คุณจะต้องสั่งผ่านใครสักคนให้หิ้วรองเท้าดังกล่าวกลับมาเอง หรือไม่ก็ต้องบินไปซื้อด้วยตัวเองที่อเมริกาเท่านั้น และก็ต้องเป็นจังหวะเวลาที่รองเท้ายังไม่ Sold Out ด้วยนะครับ ถึงจะซื้อได้ ซึ่งฟังดูเป็นเรื่องหนักหนาเอาการทีเดียว กับรองเท้าราคาราวๆ 3 พันกว่าบาทคู่นี้
แต่อย่างที่ทุกท่านเห็นครับ เรากล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า รองเท้าคู่นี้สวยและดูเรียบหรูไม่แพ้คู่เจ๋งๆ ในท้องตลาดเลยสักคู่เดียว (แม้แต่ Common Projects ก็ตาม) ดังนั้นถ้าคุณมีโอกาส เราขอแนะนำให้คุณลองค้นหาและซื้อมาติดตู้รองเท้าไว้สักคู่ครับ เพราะ Nike Killshot 2 คู่นี้ มัน Hype ในหมู่คนกลุ่มเล็กๆ ที่รู้จักเท่านั้น ใส่แล้วไม่เหมือนใครง่ายๆ และไม่มีวันตกเทรนด์แน่นอน