1. รายได้ของตัวเอง และความรู้ในการบริหารเงิน
ผู้ชายเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ไม่ควรนั่งงอมืองอเท้าขอเงินพ่อแม่ใช้ แต่ควรมีรายได้เป็นของตัวเอง และรู้จักที่จะเก็บออม รวมไปถึง บริหารเงินรายได้ เหล่านั้น หรือนำไปลงทุนให้เงินนั้นงอกเงยได้เพิ่มขึ้นในอนาคต ไม่ใช่ว่ามีเท่าไหร่ก็ใช้จนหมดแบบนั้นไม่ดีแน่ครับ
2. หนังสือเดินทาง
อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าชาตินี้จะไม่เดินทางไปต่างประเทศเด็ดขาด ก็เลยไม่คิดจะไปทำหนังสือเดินทางแบบคนอื่นเขา นั่นก็เพราะว่าอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเดินทางด้วยเรื่องงาน หรือพาครอบครัวไปท่องเที่ยว หรือเพื่อนฝูงชวนไปต่างประเทศ เรื่องพวกนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้น ถ้าผู้ชายคนไหนที่ยังไม่มีหนังสือเดินทาง ควรหาเวลาไปทำเสียก่อน ไม่ใช่ต้องรอให้จำเป็นต้องใช้ค่อยรีบเร่งไปทำ
3. ถุงยางอนามัย
การที่ผู้ชายมีถุงยางอนามัยติดตัวไม่ได้เป็นการบ่งบอกว่าคุณหมกมุ่นในเรื่องทางเพศ แต่เป็นการบอกให้ผู้หญิงได้รู้ว่าคุณเป็นคนมีความรับผิดชอบ ไม่มั่ว และรู้จักการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยทั้งต่อเธอและตัวคุณเอง ดังนั้นพกไว้เถอะครับ ไม่ใช่เรื่องน่าอายใดๆทั้งสิ้น กลับน่าชื่นชมด้วยซ้ำไป
4. เครื่องแต่งกายดีๆ (อย่างละ 1-2 ชิ้นก็พอแล้ว)
เอาเครื่องแต่งกายแบบเด็กๆทั้งหลายไปบริจาค แล้วเริ่มซื้อเครื่องแต่งกายที่เหมาะกับผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวมาใช้ได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น สูทหรือเบลเซอร์แบบสั่งตัดสักชุด, กระเป๋าสตางค์ทำจากหนังแบบเรียบๆสวยๆ, รองเท้าหนังคุณภาพดีสักคู่, เสื้อยืดและเสื้อเชิ้ตที่ไม่มีตัวการ์ตูนหรือข้อความประหลาดๆ บนตัวเสื้อ หรือแม้แต่กางเกงในก็เลิกใช้กางเกงในลายแบทแมนได้แล้วนะครับ
5. กาลเทศะ และมารยาททางสังคม
เมื่อรู้ตัวว่าเราไม่ใช่เด็กๆอีกต่อไป ก็ควรจะเรียนรู้การปฏิบัติตัวที่เหมาะสมถูกต้องตามกาลเทศะแบบที่สุภาพบุรุษพึงกระทำ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายตามกาลเทศะ, เลิกทำตัวส่งเสียงดังโวยวายในสถานที่สาธารณะ, ขับรถให้ถูกกฏจราจร และคำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวม พูดเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ถามจริงๆเถอะว่า “วันนี้คุณได้ทำอะไรดีๆให้สังคมหรือยังครับ?”