สิ่งที่พิเศษสุดสำหรับแต่คน อาจไม่เหมือนกัน เพราะแต่ละท่าน มีมาตรวัดคุณค่าที่ต่างกันออกไป ไม่เหมือน และไม่มีกฏเกณฑ์ที่ตายตัว นั่นอาจหมายความว่า “ความพิเศษ” เป็นเรื่องที่ปัจเจกพอสมควร แต่ในความหลากหลายนี้ ย่อมมีสิ่งที่เห็นพ้องต้องกัน นั่นก็คือ ความหายาก และการจำกัดจำนวนที่ออกสู่ตลาด หรือความสามารถในการหาได้ไม่มาก ไม่ได้พบเห็นได้ตามสถานที่ปกติ และหากจะกล่าวถึงความยาก MenDetails อยากให้ทุกท่านลองจินตนาการถึงจำนวนเพียง 1 ใน 25,000 ดูครับว่า ความจำกัดดังกล่าว มีความยากเพียงใด เพราะนี่คือความพิเศษ สำหรับ Elusive Umami โดยเฉพาะ
1 : 10,000
อย่างที่เราพอจะทราบกันอยู่บ้างครับว่า Blended Scotch นั้น คือการนำเอา Scotch Whiskey จากหลากหลายแหล่งที่มา นำมาผสมจนกลายเป็นรสชาติที่ผู้ปรุงเห็นว่าได้ตามความต้องการ ซึ่งไม่ได้จำกัดว่าจะต้องมาจากโรงกลั่นใดเป็นพิเศษ ขอเพียงแค่เป็นโรงกลั่นที่ตั้งอยู่ในประเทศสก๊อตแลนด์ ก็เพียงพอที่จะนำมาผสมได้แล้ว แต่ไม่ใช่สำหรับ Blue Label
จากจำนวนถังมากกว่า 10,000 ถัง มีเพียง 1 เท่านั้น ที่ทางแบรนด์เลือกใช้ และนำมาเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผสม ตัวเลขดังกล่าว เปรียบเสมือนความพิเศษสุด ที่ต้องผ่านการคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน และนั่นทำให้ Blue Label พิเศษกว่าใคร
Umami
ถือเป็นครั้งแรกที่ Chef Kei Kobayashi หรือ Chef ระดับ Michelin Star 3 ดาว มาเป็นผู้ร่วมออกแบบความพิเศษตั้งแต่เริ่มต้น โดยร่วมมือกับ Emma Walker หรือ Master Blender ของทางแบรนด์ โดยทั้งคู่เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นสุดพิเศษนี้ว่า “สิ่งแรกที่ผมบอกกับ Emma ก็คือ ผมต้องการเริ่มใหม่ทั้งหมด” Chef Kei กล่าวก่อนเสริมว่า “เราควรลืมไปก่อนว่า Blue Label คืออะไร แล้วเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ได้ความเฉพาะตัวที่ไม่เคยมีมาก่อน”
“เราเริ่มต้นจากการชิมอาหาร และวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ร้านอาหารของ Chef Kei” Emma พูดขึ้น “เพื่อให้เข้าใจโลกของอาหาร และรสชาติที่หลากหลาย จากวัตถุดิบที่มีมากกว่า 20,000 ชนิด ก่อนการร่วมมือกันใน Project สุดพิเศษครั้งนี้”
1 : 25,000
จากจำนวนถังที่มาจากโรงกลั่นซึ่งได้เลือกจากกว่า 25,000 ถัง มีเพียง 1 เดียวเท่านั้น ที่สามารถเป็นตัวแทนระหว่าง Chef Kei และ Emma ได้ และครั้งนี้ ถือเป็นความพิเศษสุด ที่พวกเราทีมงาน MenDetails ได้มีโอกาสลิ้มรสชาติอาหารที่ Chef Kei รังสรรค์ขึ้นโดยเฉพาะ และถือเป็นครั้งแรกกับการได้ลองทานอาหารจากเชฟ Michelin 3 ดาว ซึ่งบินมาปรุงอาหารสุดพิเศษนี้ ด้วตัวเองเช่นกัน
“ผมคิดถึงภูเขา ป่าไม้จากจังหวัดที่ผมเติบโตมาอย่าง นากาโนะ” Chef Kei กล่าว “แต่ป่าไม้ในความคิดของผม กับท่านอื่น ๆ ก็คงจะไม่เหมือนกัน นั่นคือความยากที่จะสร้างเมนูอาหาร ที่ดึงเอาความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ให้ออกมาในรูปแบบที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้ และเข้าถึงได้เหมือน ๆ กัน”
3 Courses with Chef Kei
เริ่มต้นด้วย Waffle กรอบ Top ด้วยไข่ปลาคาเวียร์ ราดด้วยซอสครีมแซลมอนรมควัน “แน่นอนว่าเมนูนี้ค่อนข้างท้าทาย เพราะไม่ใช่เมนูที่เข้าคู่กับกลิ่นรมควันสักเท่าไรนัก” Chef Kei เสริมก่อนเพิ่มเติมว่า “แต่ถือเป็นการเปิดรสในปาก และสร้าง Texture ที่หลากหลายได้ด้วย Waffle อบกรอบ ซึ่งผมเองรู้สึกดีใจมาก ๆ ที่เห็นทุกท่านทานจนหมดจานเช่นนี้” แน่นอนว่า ความกรอบ ถือเป็น Texture ที่ใคร ๆ ก็ชื่นชอบ แต่ไม่ใช่ทุกอย่างจะเข้ากับไข่ปลาคาเวียร์ และนี่คือหนึ่งในจานเปิดที่ยอดเยี่ยมจาก Chef Kei
จานต่อมาคือ Hay-Smoked Lobster กับกุ้ง Lobster ขนาดกำลังดี มาพร้อมเห็ด Shitake ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ นำมาราดบนเปลือกกุ้ง ซึ่งช่วยทำให้การเกาะเปลือกทำได้ง่ายขึ้น Lobster มาพร้อมกลิ่น Smoky นิด ๆ ตัวเนื้อ Lobster นุ่มเด้ง และรสชาติดีเยี่ยมอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งแน่นอนว่า เข้าคู่กับเครื่องดื่มได้เป็นอย่างดี
จานสุดท้ายคือของหวานอย่าง Chocolate Tart ที่บอกได้คำเดียวว่า “อร่อยสุด ๆ” นี่คือ Chocolate Tart ที่นุ่มและกลมกล่อม Umami อย่างไม่น่าเชื่อ “Chocolate ถือเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่เราทั้งคู่เลือกสำหรับ Project นี้” Chef Kei กล่าว “ด้วยความนุ่มลึกและรสชาติที่หนักแน่น ส่งให้ความเค็มมีรสที่โดดเด่นขึ้นมากกว่าเดิม” ไม่เกินจริงเลยสักนิดครับ เพราะนี่คือรสชาติที่ยอดเยี่ยม และผสมรวมได้อย่างดีกับความกรอบของแป้ง Tart ด้านล่าง แถมช่วยเสริมความเค็มเล็ก ๆ มห้เด่นชัดขึ้น และลงตัวมากยิ่งขึ้น
“ถือเป็น Project ที่ใช้เวลาในการพัฒนามาอย่างยาวนาน” Emma กล่าว “เราใช้เวลาในการปรับประสบการณ์ที่ 5 ของทุกคนให้เด่นชัดมากขึ้น กับคำว่า Umami ซึ่งต้องขอบคุณ Chef Kei สำหรับการร่วมมือที่ยอดเยี่ยมในครั้งนี้ และนี่จะเป็นความพิเศษสุด จากทาง Blue Label ที่ไม่เคยมีมาก่อน กับ Elusive Umami”
แล้วสำหรับคุณล่ะ ความพิเศษสุดของคุณ คืออะไร?