นี่อาจเป็นนาฬิกาที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Tissot (ทิสโซต์) มากที่สุดประจำปีนี้เลยก็ว่าได้ กับ Tissot PRX นาฬิกาที่กลายเป็นกระแสทั่วโลกและสร้างยอดขายสูงที่สุดของ Tissot โดยหยิบเอารุ่น Seastar ในช่วงยุค 1970s มาปรับให้ทันสมัยขึ้น เพิ่มสีสันบนหน้าปัดให้เข้ากับตลาดยุคปัจจุบัน ภายในติดตั้งกลไกอัตโนมัติ Powermatic 80.111 สำรองพลังงานเดินเข็มได้ถึง 80 ชั่วโมง จึงไม่แปลกใจเลยที่หลาย ๆ คนจะพูดถึงนาฬิกาเรือนนี้อยู่ตลอดเวลา
แต่สิ่งเดียวที่ทำให้ MenDetails อยากรออีกสักนิดก็คือ ข่าวลือที่ว่า Tissot จะเปิดตัวขนาดที่เล็กลงจาก 40mm เหลือเพียง 35mm ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะอย่างยิ่งกับข้อมือผู้ชายเอเชีย และวันนี้ก็มาถึงครับ กับ Tissot PRX 35mm นาฬิกาที่คุ้มค่าและขนาดยอดเยี่ยมที่สุดประจำแบรนด์ Tissot
P – R – X
โลกของนาฬิกาสไตล์ Luxury Sport Watch นั้น เป็นกระแสความนิยมที่ได้รับการตอบรับอย่างดีมาตั้งแต่ยุค 1970s กับนาฬิกาหลากหลายรุ่นที่ได้รับการออกแบบจาก Gerald Genta ส่งให้ตลาดนาฬิกาเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกของ stainless steel และงานออกแบบที่แปลกตามากขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่า การเข้าถึงนาฬิการะดับสูงนั้น เป็นไปได้ยาก ทำให้มีแบรนด์ขนาดกลางอย่าง Tissot ขยับเปิดตัวนาฬิกาคุณภาพเยี่ยมบนราคาที่จับต้องได้ออกสู่ตลาดให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
ตัวย่อ P-R-X มีที่มาจาก P คือ ความแม่นยำ (Precise) ส่วน R คือ ความทนทาน (Robust) และ X คือเลข 10 ในระบบตัวอักษรโรมัน แทนค่าการกันน้ำที่ 10 bars water-resistance โดย Tissot ตั้งชื่อนี้เพื่อใช้แทนชื่อรุ่น Seastar Quartz Ref.40205 เมื่อปี 1978 และได้นำเอา PRX กลับมาวางขายอีกครั้งในปี ค.ศ. 2021 กับกลไก Quartz Movement ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ต่อมาจึงเพิ่มเติมกลไก Powermatic 80 เข้ามาในปีเดียวกัน ยิ่งทำให้ PRX กลายเป็นเรือนเวลาที่น่าสนใจขึ้นไปอีก เพราะมาในราคาที่จับต้องได้กับราคา 26,500.- กับขนาด 40mm ก่อนจะเปิดตัวขนาดเล็กลงในปีนี้
35mm คือขนาดที่เหมาะที่สุด
ในใจของ MenDetails อยากจะสรุปฟันธงว่า เรือนนาฬิกาไซส์ประมาณนี้ถือเป็นขนาดที่เหมาะที่สุดสำหรับข้อมือผู้ชายเอเชียโดยแท้จริง กอปรกับงานออกแบบของ Tissot PRX ที่โดดเด่น เราแนะนำให้เลือกเป็นไซซ์เล็กอย่าง 35mm เป็นหลักเลยครับ
เหตุผลที่หนึ่ง คือสายนาฬิกาข้อแรกสุดที่ติดกับตัวเรือนนั้นไม่สามารถงอได้ ส่งผลให้ขนาดวัดจาก Lug to Lug ของรุ่น PRX จะยาวกว่านาฬิกาทั่ว ๆ ไป โดยขนาด Lug to Lug ของไซซ์ 40mm นั้น ยาวถึง 51mm เลยทีเดียว ดังนั้นพอเป็นขนาดตัวเรือนที่เล็กลงมาที่ 35mm ขนาด Lug to Lug จะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 44.9mm ซึ่งถือเป็นขนาดที่กำลังดี โค้งรับเข้ากับข้อมือได้สวยงาม นอกเหนือจากนั้นแล้วหน้าปัดที่เล็กลงมาอยู่ที่ 35mm (37.8mm เมื่อรวมเม็ดมะยม) เป็นขนาดที่ Classic ย้อนยุคกลับสู่ขนาดนาฬิกาที่ควรจะเป็นและเหมาะสมสำหรับข้อมือผู้ชายไทยจริง ๆ
Powermatic 80.111
Tissot PRX ขนาด 35mm เรือนนี้ มาพร้อมกลไก Powermatic 80.111 ซึ่งเป็นตัวเครื่องเดียวกันกับตัวเรือนขนาด 40mm เรียกว่าเป็นเครื่องเดียวกันในไซซ์ที่เล็กลง ส่วนความหนาของตัวนาฬิกานั้น ยังคงเท่าเดิมคือ 11mm ตัวกลไกอัตโนมัติสามารถเก็บพลังงานได้สูงสุด 80 ชั่วโมง ความถี่ 21,600 Vibrations ต่อชั่วโมง ซึ่งถือเป็นกลไกที่ยอดเยี่ยมที่สุดกลไกหนึ่งของ Tissot เลยก็ว่าได้
ตัวหน้าปัดตกแต่งลวดลายตารางนูน หรือ Petite Tapisserie (เปอตี๊ด ตาปีเซอครี) มาพร้อมเข็มบนตัวเรือนทั้งหมด 3 เข็มครบครัน และช่องบอกวันที่ฝาหลังโชว์ตัวเครื่องผ่าน Sapphire Crystal Case Back ทำให้เห็นสีสันและลวดลายต่าง ๆ ที่ทางแบรนด์แกะบนชิ้นส่วนต่าง ๆ ของตัวเครื่อง และถึงแม้ว่าจะเป็นเพียง Gimmic เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็ถือเป็นจุดสร้างความน่าสนใจให้กับตัว PRX ได้เป็นอย่างดีครับ
ขนาดเล็ก ที่ลงตัว
หากพูดถึงนาฬิกายอดนิยมหลาย ๆ รุ่น มักจะมีการขยับขนาดเพื่อออกวางขายในไซซ์ที่ต่างกันเล็กน้อย ยกตัวอย่างเช่น Rolex Explorer I ที่ปรับจาก 36mm ไปเป็น 39mm แต่การขยับขนาดหน้าปัดในบางครั้ง กลับทำออกมาได้ไม่ลงตัวสักเท่าไรนัก ทว่า PRX เรือนเล็กเรือนนี้ ทำการบ้านทุกอย่างมาได้ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลายบนหน้าปัดแบบตารางนูน Petite Tapisserie ที่ขยับขนาดตารางให้เล็กลง และปรับขนาดของ Marker ให้สั้นลงเล็กน้อย ทั้งหมดทำออกมาสอดคล้องกันได้เนียนตาดีเลยทีเดียว
ตัวเรือนยังสามารถกันน้ำได้สูงสุดที่ 10 bars ซึ่งถือเป็นมาตราฐานของนาฬิกาแนว Sport Watch เพื่อให้สามารถว่ายน้ำได้ ใส่อาบน้ำ ล้างมือ หรือจะลงไปว่ายบนผิวน้ำในทะเลก็ได้เช่นกัน
ในทัศนะของเรานั้น Tissot PRX ขนาด 35mm คือขนาดที่ลงตัวที่สุด มาพร้อมลายตารางนูนโดดเด่นที่เราพบเห็นได้บนนาฬิกาแบรนด์หรูระดับราคาหลายล้านบาท ผนวกเข้ากับตัวเครื่อง Powermatic 80.111 ซึ่งช่วยให้การใช้ชีวิตนั้นง่ายขึ้นมาก ตัวเครื่องและสาย stainless steel กับสัดส่วนและเส้นสายต่าง ๆ ที่ดูพอดิบพอดีเมื่อสวมใส่อยู่บนข้อมือ และที่สำคัญคือราคาเหมาะสมจับต้องได้ที่ 26,500 บาท เรียกได้ว่ารอบนี้ Tissot เข้าใจตลาดมากขึ้น ปรับขนาดมาให้เหมาะกับความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าคุณเองเป็นคนข้อมือใหญ่ หรือชอบนาฬิกาขนาดใหญ่สักหน่อย ทางแบรนด์ก็มีขนาด 40mm ให้เลือกซื้อเช่นเดียวกันครับ
ใครสนใจอยากลองทาบบนข้อมือ สามารถไปลองได้ที่ร้าน Tissot ทุกสาขา หรือจะสั่งซื้อผ่านช่องทาง Online ของ Tissot watches ก็ได้เช่นเดียวกันนะครับ