หากพูดถึง Classic Sneaker เจ๋ง ๆ เชื่อว่าแฟนบาสเกตบอลและเหล่า sneakerhead ทุกคน ล้วนจำสุดยอดไลน์อัพสนีกเกอร์ของนักบาสเกตบอลในตำนานยุค 90s กันได้ครับ เริ่มตั้งแต่ Air Jordan รองเท้าซิกเนเจอร์ของ Michael Jordan (ไมเคิล จอร์แดน), Air Max2 CB ‘94 และ Air Max CB34 ที่ Charles Barkley (ชาร์ล บาร์คลีย์) ใส่, Air Zoom Flight ‘98 “The Glove” ที่ Gary Payton (แกรี เพย์ตัน) ใส่ และที่ขาดไม่ได้อีกหนึ่งคู่ คือ Nike Air More Uptempo รองเท้าคู่ใจที่กลายเป็นซิกเนเจอร์ของ Scottie Pippen (สกอตตี้ พิพเพน) สมาชิกทีม Chicago Bulls ที่ใส่ในการแข่งขันรอบ Championship และ Olympics ปี 1996 วันนี้ MenDetails จะพาทุกคนย้อนกลับไปดูเรื่องราวที่ทำให้รองเท้าคู่นี้กลายเป็นตำนานครับ
Scottie Pippen กับรองเท้าซิกเนเจอร์คู่ใจ
Scottie Pippen เป็นนักบาสเกตบอล NBA ของทีม Chicago Bulls ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจาก ยุคสมัยของจอร์แดน (Jordan-Era) ครับ ช่วงนั้นทีม Chicago Bulls กลายเป็นทีมโปรดและผู้เล่นในทีมล้วนเป็นที่รักของชาวอเมริกันเพราะคว้าแชมป์ได้ถึง 6 สมัย สมาชิกทีม (ไม่นับรวม Horace Grant และ John Paxson) ทุกคนต่างสวมรองเท้าสนีกเกอร์ Nike ในการลงแข่ง ดังนั้นพวกเขาจึงมีรองเท้าคู่ใจเป็นไอคอนิกของตัวเอง สำหรับรุ่น Air More Uptempo กลายมาเป็นรองเท้าซิกเนเจอร์ของพิพเพน ผู้เล่นตำแหน่ง small forward ประจำทีมนั่นเองครับ
จุดแข็งของพิพเพนอยู่ที่มีช่วงแขนที่ยาวมาก ดังนั้นเขาจึงสามารถสร้างเกมรุก และเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นหนึ่งใน Big Three ของทีม Chicago Bulls นั่นเอง
ย้อนกลับไปในช่วงปี 1996 พิพเพนน่าจะอยู่ในช่วงเป็นดาวรุ่งในวงการบาสเกตบอล เพราะเป็นช่วงเวลาที่ หลายปีผ่านไปโดยไม่มีจอร์แดน (ที่กำลังเล่นให้กับทาง MLB) ทำให้ทักษะความเป็นผู้นำและมุมมองในสนามของเขาแกร่งขึ้น ในพาร์ทของการออกสื่อ พิพเพนมีรายการโชว์ ER ในช่วงเวลาไพร์มไทม์ด้วย ซึ่งพูดได้ว่าพิพเพนกลายเป็นหน้าเป็นตาของวงการ NBA อีกคนหนึ่ง และหลังจากการแข่งขันกับ Seattle ผ่านไปก็ถึงช่วงเวลาการแข่งขันโอลิมปิก
ถือว่าเป็นโอกาสที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับทุกแบรนด์ เมื่อ Dream Team OG ของกีฬาบาสเกตบอลกลับมาเยือนสหรัฐอีกครั้งหลัง ซึ่งในช่วงเวลานั้นทาง Nike ลงทุนกับพิพเพนไปไม่น้อย ทั้งแต่งตั้งให้เป็นเจ้าของไลน์ Air More Uptempo และสร้างแคมเปญของเขาตลอดช่วงการแข่งขันโอลิมปิก
โดยในปี 1996 นั้นเองเป็นปีแรกที่ Nike ปล่อยรองเท้ารุ่น Air More Uptempo ออกมา ในปีนั้นทีม Chicago Bulls กำลังจะคว้า 3 แชมป์รอบสอง เรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่คนต่างจับตามอง ทำให้รองเท้า Air More Uptempo ได้รับความนิยมอย่างมากใน Hollywood และกระจายไปยังต่างประเทศครับ เป็นอิทธิพลที่เกิดจากการที่พิพเพนใส่รองเท้าลงในสนามแข่ง กอปรกับวัฒนธรรม Pop culture ที่เป็นกระแสในยุคนั้น ที่ผู้คนนิยมแต่งตัวตามสไตล์คนดัง
แรงบันดาลใจของรองเท้ารุ่น Air More Uptempo
photo from : Sneaker Politics
สำหรับ Air More Uptempo ตัวรองเท้าโดดเด่นด้วยตัวอักษร AIR ขนาดใหญ่ ใช้ Air Max เต็มความยาวเท้าซัพพอร์ตโชว์ให้เห็นชัดเจน ถือเป็นสนีกเกอร์รุ่นหนึ่งที่ปฏิวัติวงการรองเท้าในหลาย ๆ ด้าน
โครงร่างแรกของรองเท้านั้นเกิดจากความตั้งใจของ Wilson Smith (วิลสัน สมิธ) ดีไซเนอร์ของ Nike ที่ต้องการจะโชว์ถึงเทคโนโลยี Air ตัวใหม่ ในด้านดีไซน์ของรองเท้านั้นได้รับแรงบันดาลใจจากความสมบูรณ์แบบของยุค 90
“ผมคิดว่าช่วงกลางของคริสต์ทศวรรษ 90 เป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจ” วิลสัน สมิธ กล่าวไว้และได้ถ่ายทอดความรู้สึกเหล่านั้นผ่านรองเท้ารุ่น Air More Uptempo ตัวรองเท้าได้สะท้อนช่วงทศวรรษ 90 อักษร AIR ตัวใหญ่ตรงส่วน Upper ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะ Pop Art และ Graffiti ส่วนระยะ heel to toe ของ Air bubble run สะท้อนถึงขนาดโอเวอร์ไซส์ของรถยนต์และยีนส์ที่เป็นกระแสในยุค 90 กล่าวได้ว่า ดีไซน์ทั้งหมดล้วนสะท้อนถึงสภาพแวดล้อมในช่วงปีที่ผลิตรองเท้าขึ้นมา และถือว่าเป็นรุ่นที่เหมาะกับผู้เล่นที่ต้องเน้นการป้องกัน เน้นการกระโดดที่ต้องการการรองรับแรงกระแทกมาก
แรกเริ่มเรื่องโทนสีรุ่น Air More Uptempo มีไอเดียในเชิงแนว Maximalism คือเน้นความเยอะ เต็มพื้นที่ สีสันและลวดลายฉูดฉาด เพื่อที่จะได้เป็นที่จดจำในความรู้สึกของผู้สวมใส่ แต่กลายเป็นว่ารุ่นที่ได้รับความนิยมจากแฟนแบรนด์มักจะเป็นสีเรียบ ๆ คลาสสิก เช่น รุ่น OG ปี 1996 Black-on-black ที่มาด้วยสีดำเกือบล้วนยกเว้นมีการตัดขอบขาวรอบคำว่า AIR กลายเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของ Retro basketball sneaker เลยทีเดียว และอีกรุ่น คือ Olympic ปี 1996 ที่พิพเพนใส่ เป็นคู่ที่มาด้วยคู่สีกรมท่าและขาวตัดกัน เรียกว่าเป็นอีกคู่ที่คนจดจำในฐานะรองเท้าของพิพเพน และเมื่อการแข่งขันนัดนั้นถ่ายทอดออกได้สนีกเกอร์จากไนกี้ก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลานทั้งในและนอกอเมริกาเลยทีเดียวครับ
ความนิยมของ Nike Air More Uptempo ในยุค 90s
photo from : MisZapas.net
แม้ว่า พิพเพน มีรุ่นรองเท้าเป็นของตัวเอง คือ Nike Air Pippen ไปจนถึง Nike Air Pippen V เหมือนอย่างไลน์ Air Jordan แต่ทว่าเมื่อพูดถึงพิพเพนแล้ว คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงและรู้สึกคุ้นเคยกับสนีกเกอร์รุ่น Air More Uptempo เสียมากกว่า ชื่อของพิพเพนคงจะกลายเป็นคาแรคเตอร์ของรองเท้ารุ่นนี้ไปแล้วล่ะครับ
ไนกี้สร้างภาพจำของแบรนด์ได้จากเครื่องหมาย Swoosh ที่เป็นโลโก้แบรนด์ คนจะเข้าใจเห็นสัญลักษณ์นี้ คือ อุปกรณ์และรองเท้ากีฬาจากไนกี้ และหลังจากนั้นก็เริ่มสร้างเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง Nike AIR ซึ่งเมื่อใส่ในรองเท้าจะช่วยลดแรงกระแทกขณะกระโดด และตัวพื้นรองเท้าจะคืนรูปทรงและระดับเดิมทันทีเพื่อพร้อมรับแรงกระแทกครั้งต่อไป เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยผลักดันให้ไนกี้ก้าวไปสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง
Air More Uptempo ไม่ได้เอาชนะได้เพียงพื้นไม้แข็ง ๆ ในสนามแข่ง แต่ยังเป็นหนึ่งในรองเท้ารุ่นที่ทำการตลาดและแคมเปญโฆษณาได้ดีมาก ๆ โดยสร้างสรรค์ออกมาในแบบตารางธาตุในสไตล์กีฬาบาสเกตบอล มีสัญลักษณ์ธาตุแทนชื่อผู้เล่นของผู้เล่น NBA เช่น Mj 23 คือ Jordanium, Pi 33 คือ Pippenium (เลข 33 เป็นเลขประจำตัวของพิพเพน) , และ Ba 34 คือ Barkleyum เป็นต้น และยังมี pre-flight takeoff checklist ก่อนจะลงสนามด้วยว่าต้องเตรียมการอย่างไรบ้าง ซึ่งการสวม Air More Uptempo เป็นหนึ่งข้อที่ต้องทำในลิสต์
และแน่นอนว่าการจะโฆษณาโปรดักส์สักชิ้นหนึ่งในอเมริกายุค 90 การให้คนมีชื่อเสียงใส่ตามกระแสวัฒนธรรมแบบ Pop Culture ดูจะเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลที่สุดครับ ในปี 1997 นักแสดง Brendan Fraser (เบรนแดน เฟรเซอร์) ตัวเอกจากภาพยนตร์เรื่อง George of the Jungle สวมใส่ Air More Uptempo ในภาพยนตร์นั่นเอง มีฉากหนึ่งที่ตัวเอกอยู่ในลังไม้กล่องใหญ่ เขาโยนกล่องรองเท้าลงพื้นแล้วคว้า Air More Uptempo รุ่น OG ขึ้นมา ก่อนจะใส่แล้ววิ่งเข้าไปในป่าแอฟริกา เรียกว่าเป็นหนึ่งในฉากเกี่ยวกับสนีกเกอร์ที่ผู้คนจดจำกันได้ดีทีเดียว
ปีนี้ Air More Uptempo รุ่น OG จะกลับมาวางขายอีกครั้ง
กว่า 24 ปีหลังจากการผลิตครั้งแรกของรองเท้า Air More Uptempo ที่ถูกหยิบกลับมาผลิตใหม่ในโทนสีและวาระที่แตกต่าง มีทั้งการ Collab ร่วมกันแบรนด์อื่น การปล่อยคอลเลคชั่นฉลองปีที่ครบรอบ สำหรับปี 2020 นี้ Nike ก็นำความคลาสสิกกลับมาให้เรากันอีกครั้งครับ ไม่ใช่สีใหม่ แต่เป็นตัว Air More Uptempo สี OG ที่ได้รับความนิยมมาตลอด ไนกี้หยิบกลับมาผลิตใหม่ก็ขายหมดอย่างรวดเร็ว หากใครที่ตั้งตารออยู่ หรือว่ายังไม่เคยมีในครอบครอง นี่ก็เป็นโอกาสเหมาะแล้วครับ
จากรองเท้าบาสเกตบอลสู่การเป็นสนีกเกอร์คลาสสิกในตำนาน แม้ว่าชื่อรุ่นของ Air More Uptempo จะไม่ใช่ชื่อ Product Line ของพิพเพน แต่เราเชื่อว่าหากพูดถึงรองเท้ารุ่นนี้ขึ้นมา ใคร ๆ ก็ยังคงรู้ถึงความเก่งกาจของเขาอย่างแน่นอน สำหรับใครที่สนใจ รอติดตามรายละเอียดการวางขายได้ที่ Seek Thailand เร็ว ๆ นี้ครับ