“ผู้ชายทุกคนมีกล้ามท้องอยู่แล้ว” เรื่องนี้คือความจริงที่ผู้ชายหลายคนมองข้ามและเชื่อว่าการทำ Sit-up หรือ Crunch เพื่อบริหารกล้ามท้องอย่างเอาเป็นเอาตาย จะทำให้เกิด “ลายกล้ามท้อง” หรือที่เราเรียกว่า “Six Packs” โผล่ขึ้นมาให้เห็นได้เอง แต่จนแล้วจนรอดไม่ว่าเราจะพยายาม Sit-up อย่างหนักหน่วงแค่ไหนก็ตาม แต่เจ้า Six Packs ก็ไม่มาสักที เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะศัตรูตัวสำคัญที่เรียก “ไขมัน” ที่พอกอยู่ตามหน้าท้องนั่นแหละครับที่อยู่ชั้นนอกและปิดบัง “ลายกล้ามท้อง” ของเราเอาไว้ เพราะฉะนั้นกุญแจสำคัญไม่ได้อยู่ที่การบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง แต่อยู่ที่การ “ลดไขมันบริเวณหน้าท้องลง” ต่างหาก
ข่าวร้ายที่ตามมาก็คือ ด้วยวิธีการตามธรรมชาติที่ไม่ใช่การศัลยกรรมนั้น เราไม่สามารถที่จะลดไขมันแบบ “เฉพาะจุด” ได้ นั่นแปลว่า ถ้าจะลดไขมันนั่นก็คือเราก็ต้องลดทั้งตัว ไม่สามารถเลือกลดเฉพาะช่วงหน้าท้อง โดยที่ร่างกายส่วนอื่นยังมีไขมันพอกอยู่ได้หรอกนะครับ ดังนั้นผู้ชายคนไหนที่กำลังตั้งเป้าว่าจะมีกล้ามท้องแบบ Six packs ให้ได้ในชีวิตนี้ พวกเราต้องลดไขมันทุกส่วนในร่างกายจนถึงระดับที่ดึงให้ไขมันที่พุงคุณหายไปด้วย เมื่อนั้นถึงจะมีลุ้นให้เห็น Six Packs Abs นะครับ และนี่คือกฎเหล็กเพียง 3 ข้อเท่านั้นเองที่ผู้ชายควรทำตาม เพราะถ้าทำให้ได้จริง ทำให้ครบจริง รับรองว่าจะมี Six packs ได้แน่นอนครับ
ควบคุมอาหารให้ร่างกายได้รับแคลอรี่ต่ำกว่าที่เราใช้ออกไปในแต่ละวัน
ที่มาของไขมันส่วนเกินที่พอกขึ้นมาตามร่างกายรวมถึง “พุง” ของเรา นั่นก็คือแคลอรี่ส่วนเกินที่ร่างกายรับเข้ามาผ่านของกินทั้งหลายที่เราเอาเข้าปาก แต่กลับไม่ได้ใช้หรือเผาผลาญออกไปให้หมดในแต่ละวัน แคลอรี่ส่วนเกินเหล่านั้นก็จะแปรเปลี่ยนเป็นก้อนไขมันไปบดบังกล้ามเนื้อตามร่างกายของเรา ดังนั้นถ้าอยากจะลดไขมัน สิ่งที่เราควรทำมากที่สุดก็คือ “การควบคุมของกินทั้งหลายที่เราเอาเข้าปาก” ให้มีแต่ของดีมีประโยชน์ และที่สำคัญต้องมีปริมาณแคลอรี่ที่ต่ำกว่าที่เราจะเผาผลาญในแต่ละวันให้ได้ครับ โดยปกติแล้วร่างกายของผู้ชายเราจะมีการใช้พลังงานในแต่ละวันประมาณ 2,000 แคลอรี่เพื่อการดำรงชีพและทำกิจกรรมตามปกติโดยไม่ได้ออกกำลังกาย ดังนั้นถ้าเราสามารถจำกัดอาหารที่เรากินให้มีแคลอรี่ประมาณ 1,500 แคลอรี่ต่อวันได้จริง ส่วนต่าง 500 แคลอรี่ตรงนี้นี่แหละที่จะทำให้ร่างกายจำเป็นต้องกลับไปดึงไขมันที่เคยสะสมอยู่ออกมาใช้แทน นานวันเข้าเจ้าไขมันทั้งหลายตามร่างกาย รวมถึงที่ “พุง” ของเราก็จะลดลงเองในที่สุดครับ
ออกกำลังกายทั้ง Aerobic และ Weight Training เป็นประจำ
ถ้าเราต้องการจะลดพุงอย่างเดียวเท่านั้นจริงๆ เราก็ไม่ต้องออกกำลังกายก็ได้ครับ เพราะแค่เราควบคุมการกินอย่างมีวินัย กินให้ได้ไม่เกินวันละ 1,500 แคลอรี่หรือน้อยกว่านั้น (แต่อย่าให้น้อยเกินไป เพราะทางสายกลางดีที่สุดนะครับ) ทำเช่นนั้นไปเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง น้ำหนักของเราก็จะค่อยๆลดลง พุงก็จะค่อยๆหายไป โดยที่เราไม่ต้องออกกำลังกายใดๆเลย เพียงแค่ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติก็พอ แต่การลดน้ำหนักแบบนี้มีข้อเสียก็คือร่างกายไม่ได้รับการบริหารให้มีความแข็งแรงขึ้นเลย เรียกว่า “หุ่นดีแต่ร่างกายอ่อนแอ” ดังนั้นเราจึงควรออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยโดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความแข็งแรงของร่างกายทั้งภายในและภายนอก โดยในส่วนภายนอกคือกล้ามเนื้อสามารถบริหารได้ผ่านการเล่น Weight Training เช่น ยกน้ำหนัก หรือ Body Weight Traning เช่น วิดพื้น, ดึงข้อ ฯลฯ และที่สำคัญคือการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นประจำ เช่น sit-up หรือ Plank เป็นต้น ส่วนภายในคือระบบหายใจและการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย ผ่านการอกกำลังกายแบบ Aerobic เช่น การวิ่ง หรือว่ายน้ำ เป็นต้น แต่อย่ามุ่งหวังว่าการออกกำลังกายอย่างหนักจะลดพุงให้เราได้โดยอัตโนมัติ เพราะถ้าคุณยังกินเยอะ และละเลยกฎข้อแรก ต่อให้ออกกำลังกายหนักแค่ไหนก็ไม่ผอมลงหรอกนะครับ
ทำทั้งสองข้อข้างต้นให้เป็นนิสัยอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำแล้วเลิก
การพยายามตั้งใจลดน้ำหนัก จำกัดอาหารและออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงในช่วงระยะเวลาสั้นนั้น มักไม่ได้ผลในระยะยาว สาเหตุไม่ได้เกิดจากหลักการที่ผิด แต่การจากการหักโหมและกดดันมากเกินไปจนใจเราทนไม่ได้และล้มเลิกความตั้งใจ กลับไปใช้ชีวิตและมีพฤติกรรมการกินแบบเดิมๆ เป็นที่มาของสิ่งที่เรียกว่า “Yoyo Effect” ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนถ้าหากหักโหมมากเกินไปในช่วงแรกจนยืนระยะไม่ได้ครับ ทางที่ดีคือเราควรหาจุดสมดุลให้พบ และน้อมรับเอาวิถีการกินแบบ Healthy และออกกำลังกายเป็นประจำ มาเป็นส่วนหนึ่งของอุปนิสัยส่วนตัวของตัวเอง พูดง่ายๆคือตั้งใจเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองตลอดไปเพื่อสุขภาพของตัวเองเป็นสำคัญ อย่ามุ่งหักโหมมากไปจนทำให้เหนื่อยและท้อ แต่ก็อย่าปล่อยตัวเองนานเกินไปเช่นกัน เพราะการสร้างสุขภาพที่ดี, รูปร่างที่ดี และ Six packs ที่พวกเราอยากได้นั้น ไม่ใช่การวิ่ง 100 เมตร แต่เป็นการ “วิ่งมาราธอน” ต่างหากครับ
อย่าไปเชื่อมากว่าท่าออกกำลังกายแบบไหนที่จะทำให้คุณมีกล้ามท้อง Six Packs ได้ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะถ้าเราละเลยไม่ทำตามกฎเหล็ก 3 ข้อข้างต้นนี้ ย่อมไม่มีทางที่เราจะมีรูปร่างที่ดีจนเห็น Six Packs Abs ได้แน่นอนครับ ผู้ชายคนไหนที่กำลังมองหาหนทางสู่ Six Packs ในระยะเวลาสั้นๆ ควรเปลี่ยนไปมองเป็นระยะยาว ค่อยๆทำตาม 3 ข้อข้างต้นอย่างใจเย็น และหาจุดที่ลงตัวของตัวเองให้เจอที่จะทำให้เราอยู่กับพฤติกรรมแบบนี้ได้นานๆ รับรองว่าสุขภาพและรูปร่างที่ดีรวมทั้ง Six Packs Abs จะมาหาคุณแน่นอนครับ