สูทสไตล์อิตาลี คือหนึ่งในสไตล์ของสูทที่ผู้ชายไทยเริ่มให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากที่พวกเราถูกหล่อหลอมและเหมารวมให้เข้าใจกันโดยร้านสูททั่วประเทศไทย (ที่เน้นตัดสูทให้ ราคาถูกที่สุด และเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้) ว่า “สูทผู้ชาย” มีแบบเดียว คือจะต้องเข้ารูปรัดติ้ว, ตัวเสื้อสั้น, ไหล่ตั้ง และทำให้ผู้ชายดูตัวใหญ่และ “ตัน” มากขึ้นกว่าเดิมเพื่อเพิ่มความภูมิฐาน ซึ่ง MenDetails ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า “ไม่จำเป็นเลย”
เราได้พูดถึง สูทสไตล์อิตาลี 2 แบบ 2 สไตล์กันแบบ “แยกส่วน” ไปบ้างแล้ว โดยเริ่มต้นที่สไตล์ของเมืองเนเปิ้ลส์ (Naples) หรือ นาโปลี (Napoli) ที่มีชื่อว่า “นีอาโปลีตาน” (Neapolitan) โดยมีสำนักตัดชุดสูทที่มีชื่อเสียงอย่าง Orazio Luciano (ออราซิโอ้ ลูชิอาโน่), Rubinacci (รูบีนาชชี่), Cesare Attolini (เชซาเร่ อั๊ตโตลีนี่), Sartoria Dalcuore (ซาโทเรีย ดาลคูโอเร่) เป็นต้น และต่อเนื่องมาด้วยสูทในสไตล์ของเมืองฟลอเรนส์ (Florence) หรือ ฟีเรนเซ่ (Firenze) ที่มีชื่อว่า “ฟลอเรนทีน” (Florentine) ซึ่งมีสองช่างตัดสูทรุ่นเก๋าชาวอิตาเลี่ยนแท้ ๆ ที่ยังมีลมหายใจ อย่าง Antonino Liverano จากห้องเสื้อ Liverano & Liverano (ลิเวราโน่ เอ ลิเวราโน่) กับ Loris Vestrucci จาก Sartoria Vestrucci (ซาโทเรีย เวซทรุชชี่) เป็นที่เชิดหน้าชูตาของเมือง
ในวันนี้ MenDetails จะมาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ อีกสักครั้งว่า ชุดสูทสไตล์ Florentine และ Neapolitan นั้น มีความคล้ายคลึง และความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง รวมทั้งจะมาสรุปความคิดเห็นส่วนตัวของ MenDetails ว่า เราชอบสไตล์ไหนมากกว่ากัน
Structure โครงสร้างของ สูทสไตล์อิตาลี
ภาพแรกที่เราควรจะสลัดทิ้งออกจากหัวให้ได้เสียก่อน นั่นคือภาพของความเชื่อที่ว่า สูทสไตล์อิตาลี คือสูทแฟชั่นเข้ารูปแบบตึง ๆ และไม่มีผ่าหลัง (vent) ซึ่งหลายคนอาจจะเคยได้ยินหรือได้อ่านมาจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ อันสันนิษฐานว่ามีอิทธิพลจากเหล่าบรรดายี่ห้อแฟชั่นแบรนด์เนมสัญชาติอิตาลีทั้งหลายนั่นเอง ซึ่งแท้ที่จริงแล้วสูทที่เป็นรูปแบบดั้งเดิมของผู้ชายชาวอิตาเลี่ยนจริง ๆ นั้น มีความอนุรักษ์นิยมและธรรมเนียมปฏิบีติมากกว่านั้นพอสมควรทีเดียว
– Loris Vestrucci จาก Sartoria Vestrucci ในเมือง Florence ประเทศอิตาลี –
เสื้อสูทแบบ Florentine จะมีโครงสร้างของเสื้อที่เห็นได้ค่อนข้างชัดเจนจากภายนอก และโครงสร้างของเสื้อสูทดังกล่าวนั้นจะทำหน้าที่ “นำทางให้ร่างกาย” โดยเสริมจุดที่ขาด และลดส่วนที่เกิน ทั้งนี้เพื่อทำให้ผู้สวมใส่ดูมีความภูมิฐานให้มากที่สุดโดยยังไม่สูญเสียทรวดทรงที่ดูเป็นธรรมชาติของร่างกายของผู้สวมใส่เอง ซึ่งลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของสูท Florentine คือการยื่นแนวไหล่ให้กว้างกว่าปกติเล็กน้อย (Extended Shoulder) เพื่อสร้างลักษณะ V-Shape เข้าหาช่วงอก ช่วยพรางตาทำให้เราใส่แล้วไหล่ดูกว้างขึ้นกว่าเดิม กลับกันสูทสไตล์ Neapolitan จะเน้นให้ร่างกายของเราเป็นพระเอกหลัก แล้วออกแบบเสื้อสูทให้เหมือน “ผิวหนังชั้นที่สอง” (Second Skin) ให้สองคล้องกับรูปร่างที่เป็นธรรมชาติของเรา มากกว่าที่จะพยายามเข้าไปปรับแต่งให้ดูเปลี่ยนแปลงไปโดยใช้โครงสร้างของสูทมาช่วยปิดบัง ในกรณีนี้สูทแบบ Florentine จะใกล้เคียงกับสูทสไตล์อังกฤษมากกว่า แต่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งสองสไตล์ไม่มีใครเน้นทำสูทให้ “เข้ารูปตึงกับร่างกาย” มากเกินไปอย่างที่ใครหลายคนอาจเคยเชื่อกันมานมนานก่อนหน้านี้นะครับ
Sleevehead การขึ้นแขนสูทเข้าหัวไหล่ที่แตกต่างกัน
ลักษณะเด่นที่สำคัญอย่างหนึ่งของเสื้อสูทในสไตล์ Neapolitan คือลักษณะการเย็บแขนเสื้อสูทเข้ากับหัวไหล่ที่เรียกว่า Spalla Camicia หรือการเข้าแขนสูทแบบเสื้อเชิ้ต (Shirt Shoulder) โดยใช้เทคนิคการค่อย ๆ เย็บแขนเสื้อขนาดใหญ่เข้าไปในรูของตัวเสื้อที่เล็กกว่า ผลที่เกิดคือรอยจีบเล็ก ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ และความกว้างของช่วงหัวไหล่ที่ทำให้ผู้สวมใส่สามารถขยับแขนและไหล่ได้อย่างสะดวกสบายไม่อึดอัด ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่เห็นได้ชัดของ Neapolitan แต่สำหรับสไตล์ Florentine นั้น พวกเขาไม่ได้คลั่งไคล้ในหัวแขนแบบ Spalla Camicia มากเท่านีอาโปลีตาน เสื้อสูทแบบ Florentine มักจะเย็บแขนเสื้อแบบปกติ หรือใช้เทคนิคอีกแบบที่เรียกว่า Con Rollino เพื่อสร้างเนินเล็ก ๆ บนหัวแขน ซึ่งจะดูเป็นทางการและสำอางมากกว่าไหล่กลมเกลี้ยง และมีรอยจีบผ้าเป็นริ้ว ๆ แบบ Neapolitan นั่นเอง
– ไหล่กลมเกลี้ยง และมีรอยจีบเป็นริ้ว ๆ ของ Neapolitan ดูสบาย ๆ แต่ไม่ภูมิฐานนักมุมมองของ Florentine –
Dart สาบเสื้อสูท ใครว่าไม่สำคัญ?
– สูทในสไตล์ Florentine จาก Sartoria Vestrucci ในเมือง Florence ประเทศอิตาลี –
หากผู้อ่านมีเสื้อสูทแขวนอยู่ใกล้ ๆ MenDetails อยากให้คุณลองมองไปที่ด้านหน้าของเสื้อสูท เราจะเห็นว่ามีรอยเย็บเป็นเส้นตรง เป็นแนวตั้งที่พาดผ่านกระเป๋าอกลงไปถึงกระเป๋าด้านล่างของตัวเสื้อสูท บางตัวก็อาจจะยาวทะลุกระเป๋าล่างลงไปถึงชายเสื้อเลยก็มี ซึ่งเราเรียกรอยเย็บนี้ว่า “สาบเสื้อสูทด้านหน้า” (Front Dart) ซึ่งสำหรับสูทสไตล์ Neapolitan นั้นจะมีสาบเสื้อแบบนี้พาดผ่านอยู่เสมอ แต่สำหรับสูทแบบ Florentine จะตัดสาบเสื้อสูทตรงนี้ออกไป หรือไม่ก็จะพยายามเบี่ยงหรือทำเป็นเส้นเฉียงออกด้านข้างมากกว่าที่จะตัดผ่านกระเป๋าลงมาตรง ๆ ยกตัวอย่างเช่นสูทจาก Sartoria Vestrucci จะใช้วิธีเอียงสาบเสื้อสูทให้หลบไปอยู่ด้านข้างดังที่เห็นในรูปตัวอย่างด้านล่างนี้
– สาบเสื้อจาก Sartoria Vestrucci ในสไตล์ Florentine ถูกหลบเข้าไปอยู่ด้านข้าง แทนที่จะอยู่ด้านหน้าแบบคนอื่นเขา –
Qemal Selimi ช่างตัดสูทผู้ที่เคยเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิของห้องสูท Liverano & Liverano จากฟลอเรนส์ ได้เคยบอกกับ MenDetails ว่า การลดทอนสาบเสื้อสูทด้านหน้าออกไป คือเอกลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของความเป็นสูทในสไตล์ Florentine ก็ว่าได้ เพราะสิ่งอื่นนอกเหนือจากนั้นมันสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้าอยู่แล้ว แต่จะหวังให้ Florentine Tailor ทำสาบเสื้อตรง ๆ ลงมาแบบเสื้อสูททั่วไปนั้น Qemal บอกกับเราว่า “อย่าเลย”
– สังเกตสาบเสื้อเป็นแนวตั้งจากกระเป๋าอกจรดกระเป๋าด้านล่างของ Orazio Luciano ในสไตล์ Neapolitan –
Lining ซับในเสื้อ สูทสไตล์อิตาลี กับสภาพอากาศที่ต่างกัน
ฉายาคาบสมุทรรองเท้าบู๊ตของประเทศอิตาลีได้มาจากลักษณะภูมิประเทศที่เป็นดินแดนรูปร่างคล้ายรองเท้าบู๊ตที่ล้อมรอบด้วยทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ส่งผลให้ภูมิอากาศของอิตาลีโดยเฉพาะทางตอนใต้ในช่วงฤดูร้อนนั้นช่างร้อนและชื้นไม่ต่างจากประเทศในแถบเส้นศูนย์สูตรอย่างเมืองไทยเลยทีเดียว
เรื่องของสภาพภูมิอากาศของอิตาลีตอนใต้ที่ร้อนจัดในหน้าร้อน ทำให้เสื้อสูทในสไตล์ Neapolitan มักออกแบบให้บางเบาและใส่สบายที่สุดเท่าที่จะทำได้ เริ่มต้นตั้งแต่เนื้อผ้าที่ต้องเบาและโปร่งลม เช่นผ้าวูลแบบ High Twist หรือผ้าลินิน เป็นต้น ต่อมาคือเรื่องของการใส่ซับใน (Lining) ที่เสื้อสูทในสไตล์นีอาโปลีตานนั้นแทบไม่มีซับในรองรับอยู่เลย ทั้งนี้เพื่อให้เสื้อสูทใส่สบาย และเย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้นั่นเอง
– สำหรับ Neapolitan แล้วนั้น Unlined หรือการไม่ทำซับในสูท ถือเป็น ลายเซ็นประจำตัว ของพวกเขาได้เลย –
เสื้อสูทที่ไม่มีซับในแบบนีอาโปลีตานนั้น แม้จะใส่สบาย แต่ก็มีข้อเสียในเรื่องของ “ความเนี้ยบ” เนื่องจากซับในที่มีลักษณะเรียบลื่นนั้นจะช่วยทำให้เสื้อสูททิ้งตัวได้ดีจากภายใน ไม่เกาะติดตามเสื้อเชิ้ตซึ่งจะทำให้เกิดรอยยับย่นขณะที่ใส่ เสื้อสูทในสไตล์ฟลอเรนทีนที่เน้นในเรื่องความเนี้ยบมากกว่าจึงให้ความสำคัญกับการใส่ซับในอย่างเหมาะสม อีกทั้งเมืองฟลอเรนส์ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลีซึ่งมีอากาศโดยทั่วไปเย็นสบายกว่าทางตอนใต้ ทำให้การใส่ซับในในสูทนั้นไม่เป็นปัญหาเรื่องใส่แล้วร้อนเท่าไหร่นัก นี่เองจึงทำให้ Florentine ไม่ได้ “ตั้งแง่” กับซับในมากเท่ากับ Neapolitan ครับ
Comfort vs Elegance อยากเน้นอะไรมากกว่ากัน?
– มุ่งเน้นที่ความสง่างาม (Elegance) ในสไตล์ Florentine จาก Liverano & Liverano –
ภูมิศาสตร์สังคมของประเทศอิตาลีค่อนข้างแยกส่วนกันชัดเจนระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ โดยมีกรุงโรมที่อยู่ตรงกลางเป็นเสมือน “เส้นคั่นกลาง” ระหว่างอิตาลีตอนเหนือ และอิตาลีตอนใต้ออกจากกัน เมืองอย่าง Florence, Milan หรือ Turin ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือจะได้รับอิทธิพลจากยุโรปแผ่นดินใหญ่ รวมถึงผลประโยชน์ทางการค้าและความมั่งคั่งที่ภาคเหนือมักได้รับประโยชน์มากกว่าอิตาลีตอนใต้อย่างเมือง Naples, Bari หรือ Sicily เรื่องนี้ส่งผลกระทบมาถึงเรื่องของสไตล์ของสูทได้อย่างไม่น่าเชื่อ กล่าวคือ สูทแบบ Florentine มักให้ความสำคัญกับความ “สง่างาม” (Elegance) ใส่แล้วดูเป็นผู้ชายสำอางและมาดดี ดูเป็น ชายหนุ่มร่ำรวยจากชนชั้นสูง เมื่อเปรียบเทียบกับสูทจากทางใต้อย่าง Neapolitan ที่เน้นหนักในเรื่องของความสะดวกสบายในการสวมใส่เป็นหลัก ใส่แล้วต้องขยับตัวง่าย ไม่รู้สึกอึดอัดหรือร้อนอบอ้าว เน้นให้ดูดีในแบบเป็นธรรมชาติ สูทจะดูเบาและพลิ้วไหว แลดูสบาย ๆ เป็น ชายหนุ่มเจ้าสำราญ ที่ใส่ใจในพิธีรีตองน้อยกว่าเมื่อเทียบกับสไตล์ของภาคเหนือนั่นเอง
– แจ็กเก็ตที่ดูพลิ้วเบา กับรอยจีบตรงหัวแขน ตามสไตล์ Neapolitan ให้ความรู้สึกที่ลำลองมากขึ้น –
เลือกแบบไหนดี?
สำหรับ MenDetails แล้วนั้น เราเชื่อว่ามาตรฐานการพิจารณาชุดสูทหรือเสื้อผ้าประเภททางการสำหรับผู้ชายไทยยังไม่ได้ลงลึกหรือถึงขั้นที่จะมีพิธีรีตองใด ๆ มากมายนัก ผู้ชายไทยยังสามารถแต่งกายแบบ “ง่ายเข้าไว้” โดยไม่ถูกตัดสินว่าแต่งกายไม่เรียบร้อยหรือไม่สง่างาม ซึ่งเรื่องนี้ต่างจากผู้หญิงไทยที่จะได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้มากกว่า ดังนั้นคำว่า “ลำลอง” ในสไตล์แบบ Neapolitan นั้น อาจจะดูลำลองในมาตรฐานของผู้ชายที่เข้าอกเข้าใจในพิธีการของเสื้อผ้า แต่ทว่ามันก็ยังดูหรูหราในสายตาของผู้ชายไทยทั่วไปอยู่ดีนั่นแหละ
– Prologue จับเอาหลาย ๆ ส่วนของแต่ละสไตล์มาผสมให้กลมกลืนกัน –
ช่องโหว่ดังกล่าวแม้ฟังดูไม่ดีต่อภาพพจน์ของผู้ชายไทย แต่ในทางกลับกันทำให้เป็นเรื่องง่ายดายที่ผู้ชายไทยที่ “รู้เรื่อง” จะแต่งกายได้ดีกว่าผู้ชายส่วนใหญ่อย่างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้นจะเป็นสไตล์ Florentine ก็ดี หรือ Neapolitan ก็ดี หากตัดเย็บออกมาได้สวยงามด้วยฝีมือของห้องเสื้อชั้นนำ เราเชื่อว่าในสายตาของคนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถแยกออกได้อย่างชัดเจนนัก ว่าสไตล์ใดดูงามสง่ากว่า สไตล์ไหนดูสุภาพกว่า และสไตล์ไหนใส่แล้วเคลื่อนไหวได้สบายตัวกว่า ที่เหลือจึงเป็นแค่ความชื่นชอบส่วนตัวที่แต่ละคนน่าจะมีไม่เหมือนกัน
– สามารถตัดสูท Liverano & Liverano สั่งตรงจากอิตาลี ได้ที่ The Somchai ทองหล่อ ซอย 11 –
สำหรับ MenDetails แล้วนั้น เรามองว่าสไตล์ Neapolitan เหมาะสมสำหรับ เสื้อสปอร์ตโค้ต หรือเบลเซอร์ ที่เราวางแผนจะเอามาใส่คู่กับกางเกงลำลองแบบอื่น ๆ (Separate) ไม่ว่าจะเป็นยีนส์ผ้าดิบ, ผ้าฟอก หรือกางเกงชีโน่ที่มีสีสันไม่เหมือนกับตัวเสื้อ ส่วนสไตล์ Florentine ก็น่าจะเหมาะกับการตัดเป็นชุดสูทที่ต้องการสีและผ้าชนิดเดียวกันหมดทั้งตัวเสื้อแจ็กเก็ตและกางเกง ทั้งนี้เพื่อความเป็นทางการและความสง่างามหรือ “Elegance” ที่มากขึ้นกว่าเดิม
แต่สำหรับผู้อ่านจะเห็นด้วยกับเราหรือไม่ หรือมีสไตล์ความชอบที่ต่างออกไป ไม่ถือว่าผิดกติกาใด ๆ ทั้งสิ้น ขอเพียงเรามีความรู้และมีความเข้าใจ อย่างไรคุณก็จะผู้ชายที่แต่งกายดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน ไม่ว่าจะเลือกสไตล์ใดก็ตามนะครับ