หากพูดถึงการใส่สูท เชื่อว่าผู้ชายหลายคนคงคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ “เยอะเกินไป” และไม่เหมาะกับเมืองไทย เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน แต่ทว่านั่นเป็นความคิดที่ถูกเพียงครึ่งเดียว เพราะในโลกเรานี้มีการตัดสูทหลายสไตล์ที่ผู้ชายไทยอาจจะยังไม่รู้จัก และบางสไตล์ก็เหมาะที่จะนำมาใส่ในภูมิอากาศร้อนอย่างบ้านเราได้เช่นกัน เสื้อสูทประเภท ‘Neapolitan’ (นีอาโปลิตาน) คือเสื้อสูทอีกแบบหนึ่งที่เหมาะมากสำหรับเมืองร้อน และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับ “ผู้ชายสายชิลล์” ที่อยากจะใส่สูทให้ดูดี แต่ต้องใส่สบายไม่ร้อน และไม่ดูแข็งเกร็งเป็นทางการมากเกินไป วันนี้ MenDetails จะมาพูดถึง “เสื้อสูทนีอาโปลิตาน” (Neapolitan Jacket) ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไรและทำไมเราจึงสนับสนุนให้ผู้ชายไทยหันมาใส่สูทแบบนี้กันให้มากขึ้นด้วยนะครับ
เสื้อสูท Double-Breasted สไตล์ Italian Neapolitan จาก The Decorum และนาฬิกาจาก Tissot
ประวัติโดยสังเขปของ Neapolitan Jacket Style
ย้อนหลังไปกว่า 700 ปีก่อนสมัยคริสตศตวรรษที่ 14 ณ เมืองเนเปิ้ลส์ ประเทศอิตาลี คือถิ่นกำเนิดของสมาคมการตัดเย็บเสื้อผ้าที่เก่าแก่ที่สุดในอิตาลี นามว่า “Confraternita dell’arte dei Giubbonai e Cositori” ผลงานของสมาคมนี้สร้างสรรค์เสื้อผ้าที่เป็นแบบพร้อมใส่ หรือ Ready To Wear (RTW) ส่งไปยังเหล่าขุนนาง ปัญญาชน และเชื้อพระวงศ์กษัตริย์ทั้งหลายทั่วยุโรปใต้เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามยังไม่มีการตั้งสมญาว่า Neapolitan ในยุคดังกล่าวแต่อย่างใด จนกระทั่งให้หลังมาในช่วงคริสตศตวรรษที่ 19 นี้เอง ที่เริ่มมีการพูดถึงสูทที่ตัดเย็บด้วยสไตล์ และจิตวิญญาณของช่างชาวอิตาลีที่เมืองเนเปิลส์ ว่าเป็น Neapolitan Suit หรือ Neapolitan Jacket ในที่สุด
ภาพถ่ายในปี ค.ศ.1930 Domenico Caraceni (ขวาสุด) กับช่างตัดสูทกลุ่มสำคัญที่มีส่วนช่วยสร้างสไตล์ Neapolitan ให้กับชุดสูทของอิตาลี | IPS Community: A Golden Age of Italian Tailoring
Domenico Caraceni (โดเมนิโก้ คาราเชนี่) และ Vincenzo Attolini (วินเซ็นโซ่ อั๊ตโตลินี่) คือช่างตัดเสื้อสูทคนสำคัญที่มีส่วนในการวิวัฒนาการและเปลี่ยนแปลงเสื้อสูทจากแบบ English Cut ที่มีฟองน้ำหนุนไหล่สูง, มีซับในทั่วตัวเพื่อกันลมหนาว และมีช่วงอกที่ลู่แคบ (Drape) ลงชัดเจน เปลี่ยนเป็นสไตล์ Neapolitan ด้วยการดึงเอาฟองน้ำที่ไหล่ออกจนหมด, ตัดซับในที่ไม่จำเป็นออกจนเหี้ยนเตียน ทำให้เสื้อสูทแบบ Neapolitan ทั้งบางและเบาลงกว่าสูทแบบดั้งเดิมจากอังกฤษหลายเท่า จนเข้ากับสภาพภูมิอากาศในเมืองเนเปิ้ลส์ที่มีอากาศร้อนกว่าอังกฤษ และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มสุภาพบุรุษชาวอิตาเลี่ยน ที่โดยวัฒนธรรมและนิสัยใจคอแล้วพวกเขาเป็นผู้ชายที่โรแมนติกกว่า, เจ้าสำราญกว่า และที่สำคัญ “ชิลล์กว่า” ผู้ชายชาวอังกฤษครับ
ลักษณะของ Neapolitan Jacket
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าถ้าเราไปตัดสูทที่เมืองเนเปิ้ลส์ ประเทศอิตาลี แล้วจะได้สูทแบบ Neapolitan เสมอไปหรอกนะครับ เพราะ Neapolitan นั้นเป็นคอนเส็ปต์และลักษณะของสูทที่มีจิตวิญญาณในแบบของตัวเอง ซึ่งต้องการความเข้าใจทั้งจากคนใส่ และจากช่างที่ตัดเย็บเสื้อสูทให้เราด้วยครับ ซึ่งลักษณะเด่นของเสื้อสูทแบบ Neapolitan ที่แตกต่างจากสูทแบบ English Jacket นั้นมีดังต่อไปนี้ครับ
1. ไม่มีฟองน้ำหนุนที่ไหล่
ลืมไปได้เลยสำหรับฟองน้ำที่หนุนไหล่ให้ดูตั้งขึ้นมาแบบฝืนธรรมชาติ เพราะเสื้อสูทแบบ Neapolitan จะกำจัดฟองน้ำเหล่านี้ออกจนหมด และทำให้ช่วงไหล่ของผู้สวมใส่นั้น “ลาดเอียงลงอย่างเป็นธรรมชาติ” (Natural Shoulder) มากกว่าอย่างชัดเจน
สูทสไตล์ Neapolitan จะไม่มีการหนุนฟองน้ำที่ไหล่ ทำให้ไหล่ดูลาดลงและเป็นธรรมชาติมากกว่า | rantingthetide.tumblr.com
2. ต้นแขนแบบมีจีบ ‘Spalla Camicia’
ไม่มีอะไรจะตะโกนคำว่า ‘Neapolitan’ ได้ดีไปกว่าการอยู่ด้วยกันของ Natural Shoulder กับลักษณะการเย็บแขนเสื้อเข้ากับหัวไหล่ด้วยมือ เพื่อให้มีรอยจีบเล็กน้อยที่ต้นแขนเสื้ออย่างจงใจ ซึ่งภาษาอิตาลีเรียกรอยจีบเหล่านี้ว่า Spalla Camicia (สะปาลล่า คามีเชีย) นอกจากนี้ยังมีต้นแขนอีกแบบหนึ่งที่เรียกว่า Con Rollino (กอน โรลลิโน่) ที่เกิดขึ้นจากการเย็บแขนเสื้อม้วนคร่อมปลายไหล่จนทำให้ต้นแขนของเสื้อสูทยกตัวขึ้นเป็นยอดเล็กๆ ซึ่งเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเสื้อสูทแบบ Neapolitan เช่นกันครับ
ต้นแขนของเสื้อสูทแบบ Neapolitan มักจะมีจีบเล็กๆ หรือที่เรียกว่า ‘Spalla Camicia’
3. กระดุมเสื้อแบบ ‘3 Roll 2’
ดูเหมือนชาวอิตาลีจะให้ความสำคัญกับรูปทรงม้วนๆกลมๆเป็นพิเศษ เนื่องด้วยความที่ทรงกลมแลดูเป็นธรรมชาติมากกว่านั่นเอง กระดุมเสื้อสูทสไตล์ Neapolitan จึงมักเป็นแบบ 3 Roll 2 หรือ “สามกระดุมม้วนเป็นสอง” ด้วยการเสริม Canvas บริเวณปกสูทเพื่อให้ปกสูทม้วนตัวปิดบังกระดุมเม็ดบนสุดไว้ แล้วผู้ใส่จะเลยไปกลัดกระดุมเฉพาะเม็ดที่สองแทน และปล่อยเม็ดที่สามทิ้งไว้โดยไม่ต้องกลัด
ปกสูทโค้งสวยได้รูป และปิดกระดุมเม็ดบนสุดเอาไว้ ให้ผู้ชายเลยไปกลัดเม็ดกลางเพียงเม็ดเดียวแทน
4. มีซับในเท่าที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น
เสื้อสูทแบบ Neapolitan จะใช้ซับในที่ทำจากผ้าไหม และจะเย็บซับในเฉพาะเท่าที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น ได้แก่ส่วนด้านหน้าลำตัวที่มี Canvas เย็บติดอยู่ นอกนั้นปล่อยโล่งหมดโดยไม่มีซับในเย็บติดอีกเลย การไม่มีซับในให้มากความทำให้เสื้อสูทแบบ Neapolitan นั้นเบาลงกว่าปกติ แถมใส่สบายไม่ร้อนอีกต่างหาก
ลดเนื้อที่ของซับใน (lining)ให้น้อยลง ทำให้สูทเบาลง และใส่แล้วเย็นสบายยิ่งขึ้น | parisiengentleman.fr
5. กระเป๋าเสื้อสูทแบบ Patch Pocket ทรงโค้ง ‘Pignata’ และกระเป๋าหน้าอกรูปเรือ ‘Barchetta’
วกมาดูที่ช่องกระเป๋ากันบ้าง กระเป๋าสูทของเสื้อสูทแนว Neapolitan จะเป็นแบบ patch pocket หรือการเย็บติดให้เห็นทรงของกระเป๋าจากด้านนอก รูปทรงของกระเป๋าจะเป็นทรงโค้งคล้ายแก้ว วิสกี้ ส่วนกระเป๋าตรงหน้าอกจะมีรูปคล้ายเรือหรือที่เราเรียกว่า Barchetta (บาเช็ตต้า) ซึ่งจะมีลักษณะเป็นกระเป๋าที่โค้งและะเฉียงขึ้นเล็กน้อย
กระเป๋าสูทแบบ Patch Pocket ที่เย็บให้เห็นรูปทรงกระเป๋าได้จากด้านนอก | Streetxsprezza.wordpress.com
กระเป๋าหน้าอกสูท Neapolitan รูปทรงเรือ (Barchetta) | handsewncanvas.wordpress.com
6. รอยเย็บแบบ Pick Stitching ที่ปกและกระเป๋าเสื้อสูท
สูทแบบ Neapolitan จะมีรอยเย็บเล็กๆถี่ๆ ที่เรียกว่า Pick Stitching ไล่ไปตามขอบของปกสูท และกระเป๋าของเสื้อสูททุกใบ อันเป็นรายละเอียดสำคัญของเสื้อสูทที่เย็บอย่างประณีตและต้องใช้เวลาในการทำค่อนข้างนานและระมัดระวัง
รอยเย็บเล็กๆที่เรียกว่า Pick Stitching บนปกและกระเป๋าเสื้อสูท
7. กระดุมแขนเสื้อสูทที่สามารถปลดออกได้ และทับซ้อนกัน
สำหรับเสื้อสูทแนว Neapolitan นั้น กระดุมที่อยู่ตรงปลายแขนเสื้อสูทจะสามารถใช้งาน กล่าวคือมีรังดุมให้ปลดเข้าออกได้ และที่สำคัญคือกระดุมเหล่านั้นจะทับซ้อนกันบางส่วน (Stacked Buttons)
กระดุมตรงแขนเสื้อสูทที่สามารถปลดใช้งานได้ และซ้อนทับกันเล็กน้อยตามสไตล์ Neapolitan | Blacklapel.com
ทั้ง 7 ข้อข้างต้นคือสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของเสื้อสูทที่เรียกว่า Neapolitan Style อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าสูทรูปแบบอื่นๆจะมีลักษณะเหล่านี้ไม่ได้นะครับ แต่ Neapolitan Style คือการประกอบกันของลักษณะเหล่านี้ทั้งหมด และรวมกับอีกสิ่งที่เรียกว่าจิตวิญญาณของคนใส่ หรือ ‘Sprezzatura’ ทั้งหมดจึงจะกลายเป็น Neapolitan Style อย่างแท้จริงครับ
รูปลักษณ์โดยรวมของ Neapolitan Jacket ที่ดูโค้งมนเป็นธรรมชาติมากกว่า สูทตัวนี้จาก Ring Jacket เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นครับ | supplyandadvise.com
‘Sprezzatura’ จิตวิญญาณของเสื้อสูทแบบ Neapolitan
หากกฎระเบียบและความ “เป๊ะ” ทุกกระเบียดนิ้ว คือจิตวิญญาณของสูทแบบ English Jacket จากถนน Saville Row กรุงลอนดอนแล้วล่ะก็ ‘Sprezzatura’ ก็คือจิตวิญญาณผู้ชายที่ตั้งตัวเป็น ‘ขบถ’ และพยายามทำลายขนบธรรมเนียมและกฎเกณฑ์ต่างๆเหล่านั้นลง แต่ยังคงความมีสไตล์ในแบบฉบับของตัวเองได้เป็นอย่างดีโดยที่ไม่ต้อง “พยายาม” ทำตัวให้ดูดีตั้งแต่แรกแต่อย่างใด อ่านถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่า แล้วเราจะมีสิ่งที่เรียกว่า Sprezzatura นี้ได้อย่างไร? ซึ่งเรื่องนี้ MenDetails ได้เคยพูดถึงสิ่งที่เรียกว่า Sprezzatura กันไปอย่างละเอียดแล้ว และเราแนะนำให้ผู้อ่านทุกท่านคลิกที่นี่เพื่อย้อนกลับไปอ่านกันอีกครั้งได้เลยครับ ส่วนการที่เราหยิบ Sprezzatura ขึ้นมาพูดถึงตรงนี้อีกครั้งเพื่อที่จะเน้นย้ำว่า เสื้อสูทก็เป็นเพียงเสื้อสูทเท่านั้น แต่บุคลิกภาพ และความมั่นใจในตัวเองของผู้ชายต่างหากที่จะทำให้ผู้ชายดูดีขึ้นได้มากกว่าหวังจะพึ่งเสื้อสูทแพงเพียงอย่างเดียวครับ
เพราะอะไร MenDetails จึงเชื่อว่าผู้ชายไทยควรสนใจ Neapolitan Suit กันให้มากขึ้น?
จากที่อ่านมาทั้งหมด เราเชื่อว่าผู้อ่านคงเห็นแล้วว่า ชุดสูท มีหลายสำนัก แต่ละสำนักก็มีวิธีการตัดเย็บและสไตล์ของเสื้อสูทที่ต่างกันออกไป สำนักใหญ่ๆที่เรานำมาพูดถึงกันในครั้งนี้ก็ได้แก่ สำนัก Saville Row แบบฉบับอังกฤษ (English Jacket) และสำนัก Neapolitan แบบฉบับอิตาเลี่ยน (Neapolitan Jacket) นั่นเองครับ
ใส่สูทให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วย Neapolitan Style | Hespokestyle.com
ในความเห็นโดยส่วนตัวของ MenDetails นั้น เรามองว่าผู้ชายไทยและสังคมไทยมีความคล้ายคลึงกับสังคมชาวอิตาเลี่ยนมากกว่าสังคมผู้ชายชาวอังกฤษครับ อย่างแรกคือเรื่องของสภาพอากาศ ซึ่งที่อิตาลีมีอากาศที่ค่อนข้างร้อนกว่าประเทศยุโรปส่วนใหญ่ โดยเฉพาะประเทศอิตาลีทางตอนใต้ที่อาจมีอุณหภูมิสูงแตะ 40 องศาได้เลยในช่วงหน้าร้อน นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนอิตาลีจึงตัดสูทที่เบา และบางกว่า ก็เพื่อที่จะสู้กับอากาศร้อนๆในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ได้นั่นเองครับ ซึ่งเรื่องนี้ใกล้เคียงกับประเทศไทยมากเลยทีเดียว ต่างกับทางฝั่งอังกฤษที่อยู่ทางเหนือขึ้นไปไกลพอสมควร อากาศของเขาจึงค่อนข้างหนาวเย็นกว่าตลอดปี การใส่สูทที่มีผ้าหนาๆ หนักๆ เพื่อความอบอุ่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราคนไทยควรหยิบมาทำตามในเมืองไทยนะครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่สอดคล้องกันในความเห็นของเราก็คือ ผู้ชายชาวอิตาเลี่ยน เป็นผู้ชายที่โรแมนติกมากกว่า, เจ้าสำราญกว่า และชิลล์กว่า ผู้ชายชาวอังกฤษ ผู้ชายชาวอิตาเลี่ยนมักไม่ค่อยเคร่งครัดกับกฎระเบียบจนถึงขนาดกระดิกไปไหนไม่ได้ และมีวัฒนธรรมที่สบายๆและช่วยเหลือเกื้อกูลกันมากกว่า แม้แต่ระบบอุปถัมภ์อย่างระบบ “มาเฟีย” ของอิตาลี ก็มีบางสิ่งที่คล้ายคลึงกับระบบ “เจ้าพ่อ” ของเมืองไทยอีกด้วย ซึ่งพอหันมามองที่เมืองไทย ผู้ชายชาวไทยเองนั้นส่วนใหญ่เราก็มักจะชอบความชิลล์ และชอบความสำราญใกล้เคียงกับหนุ่มอิตาเลี่ยนมากกว่าหนุ่มอังกฤษครับ
บทสรุป
ด้วยสูทที่ใส่สบายกว่า เพราะต้องปรับให้เข้ากับอากาศที่ร้อนกว่า รวมถึงอุปนิสัยแบบหนุ่มเจ้าสำราญที่ “ชิลล์” กว่า และชื่นชอบความเป็นธรรมชาติมากกว่า นี่แหละครับที่ทำให้ MenDetails เชื่อว่า ผู้ชายชาวไทยควรสนใจสไตล์ที่เรียกว่า Neapolitan และ Sprezzatura กันให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เพราะอาจจะดีกว่าสไตล์ผ้าหนาๆร้อนๆของอังกฤษที่เราคุ้นเคยกันมาตลอด ไม่แน่ว่าจากที่เราเคยมองว่าชุดสูทนั้นไม่เหมาะกับเมืองไทย สุดท้ายถ้าได้ลอง Neapolitan Jacket ที่ใส่สบายกว่า เย็นกว่า ชิลล์กว่า เราอาจจะติดใจจนอยากจะใส่มันบ่อยๆก็เป็นได้ครับ