สาเหตุหนึ่งที่เราเลือกใส่กางเกงยีนส์ก็เพราะว่า กางเกงยีนส์นั้นเหมือนเป็นหนังสือที่บันทึกเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต ผ่านร่องรอยที่ปรากฏบนตัวกางเกงยีนส์ ไม่ว่าจะเป็นรอยกระเป๋าสตางค์ในกระเป๋าหลังขวา หรือที่ใส่มือถือ และลักษณะการเฝด (Fade) ของสีย้อม ที่เกิดจากการเสียดสี ณ จุดต่างๆ บนตัวกางเกง
ครั้งหนึ่งในชีวิต ผู้ชายที่ชื่นชอบ “ยีนส์” ทุกคน ต้องเคยไปกระโดดลงกองกางเกงยีนส์มือสอง ณ ที่ใดที่หนึ่ง แล้วหมายมั่นปั้นมือที่จะค้นหากางเกงยีนส์ Levi’s® สุดเก๋า สีเฝดสวยๆ มาไว้ใส่ในราคาย่อมเยาเป็นแน่ ซึ่งในตอนนั้น วันที่เรายังไม่มีความรู้มากพอ กางเกงยีนส์ตัวที่เราแอบพลิกหน้าพลิกหลังอย่างมั่นใจ อาจไม่ใช่ กางเกงยีนส์ Levi’s® แท้ๆ ก็เป็นได้นะครับ เพราะ Levi’s® คือหนึ่งในแบรนด์ที่มีการทำของปลอมออกมาปะปนมากที่สุดเช่นกัน ตัวกางเกงจึงมักมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องอาศัยความชำนาญมากพอ จึงจะรู้ได้ว่า “ของจริงหรือเปล่า” แต่ข่าวดีก็คือ ณ วันนี้ แบรนด์ Levi’s® ได้สร้างโซลูชั่นใหม่ ที่จะมาแก้ไขปัญหา “ของวินเทจเกรดมิร์เรอร์” ให้กับนักเลงกางเกงยีนส์ด้วยไลน์สินค้าในชื่อ Levi’s® Authorized Vintage หรือ LAV
LAV คือการรวบรวมเสื้อ Jacket และ กางเกงยีนส์ Levi’s® ปีเก่าของแท้ ที่ผลิตในช่วงปี 80-90s
-Born in the USA by Bruce Springteen Credit : Pastemagazine–
ในช่วงยุค 80s นั้น มี Movement ที่สร้างความโด่งดังให้กับ Levi’s® 501® ได้ชัดเจนที่สุดก็คือ รูปภาพที่ปรากฏบนหน้าปกของอัลบั้ม Born in The U.S.A. ของศิลปิน Bruce Springteen ในช่วงปี ค.ศ.1984 ซึ่งอาจเรียกได้ว่า เป็นจุดที่สร้างกระแส ความต้องการกางเกงยีนส์ Levi’s® 501® ครั้งยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังถือเป็นโมเดลสุด Classic ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ยุคเก่าก่อน ไม่ว่าจะเป็น 40–50s เป็นต้น รหัส 501® จึงกลายเป็นรหัสสุดอมตะ ที่ผู้ชายทุกคนต่างท่องกันได้ขึ้นใจว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต จะต้องหาซื้อมาครอบครองให้ได้สักครั้ง
แบรนด์ Levi’s® เลือกช่วงปี 80-90s เพราะด้วยคำนึงถึงความ Vintage แท้ๆ และสาเหตุที่ไม่เลือกปีเก่ากว่านี้ก็เพราะ ตัวเนื้อผ้า Denim อาจไม่เหมาะกับการนำมาสวมใส่ต่อแล้วก็เป็นได้ แต่ถ้าหากเลือกช่วงปีที่ใหม่กว่านี้ ก็จะไม่เข้าข่ายคำว่า Vintage Products เช่นกัน
ช่วงเวลาระหว่างคริสตทศวรรษที่ 80-90 กระแสการแต่งกายด้วยผ้ายีนส์ของผู้ชายมีเอกลักษณ์เฉพาะที่น่าสนใจยิ่ง ทุกคนต่างอยากได้กางเกงยีนส์ขาดๆ เท่ๆ สีของผ้ายีนส์ที่ฟอกจนอ่อนกว่าเดิมมาก และลักษณะการเฝดของสีแบบเม็ดทราย เป็นสไตล์ที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในยุคสมัยนั้น และแม้แต่ Designer ชื่อดังหลายคนในยุคปัจจุบันที่เติบโตผ่านช่วงเวลาดังกล่าว ก็ยังหยิบเอาแรงบันดาลใจต่างๆ มากมายจากยุค 80’s-90’s อันรุ่งเรือง มาเป็นต้นแบบในการออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในแบรนด์ต้นแบบเหล่านั้นต้องมี Levi’s® 501® รวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติมสักเล็กน้อยก็คือ กางเกงยีนส์ Levi’s® ในยุค 80s-90s นั้น ทางแบรนด์ได้เริ่มต้นผลิดกางเกงยีนส์ในปริมาณที่มากขึ้น ด้วยกระบวนการผลิตแบบอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ทำให้มีการปรับเปลี่ยนจากการทอผ้าด้วยเครื่องทอหน้าแคบ กลายเป็นเครื่องทอที่หน้ากว้าง ส่งผลให้กางเกงยีนส์ในยุคดังกล่าวไม่มี “ริมผ้า” (Selvedge) เหมือนอย่างยุคก่อนหน้านั้นนั่นเอง
The Marty McFly’s look from 1980’s
-Double Denim ตามสไตล์ Marty McFly ที่ใส่กางเกง Levi’s 501-
ภายในคอลเลคชั่น Levi’s® Authorized Vintage ทั้งหมดจะเป็นสินค้าของ Levi’s® ที่ผลิตขึ้นในสหรัฐอเมริกา (Made in The U.S.A.) ในช่วงระหว่างยุคคริสต์ทศวรรษที่ 80 ถึง 90 และถ้าจะพูดถึง Style Icon ของยุคดังกล่าว MenDetails เชื่อว่าภาพของตัวละคร Marty McFly แสดงโดย Michael J. Fox จากภาพยนตร์เรื่อง “Back To The Future” คงจะลอยเข้าหัวใครหลายๆ คนแน่นอน ด้วยกางเกงยีนส์ฟอกจาก Levi’s® 501® สุดคลาสสิคที่ Marty McFly ใส่ รวมไปถึงรองเท้า Nike Bruin “OG Red” นี่ยังไม่นับเสื้อ Denim Jacket นะครับ ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับสไตล์การใส่กางเกงยีนส์ของผู้ชายในยุคปัจจุบันได้ และ LAV ก็คือโอกาสดีเยี่ยมที่ให้เราสามารถเลือกซื้อกางเกงยีนส์ Levi’s® 501® ที่ผลิตในยุค 80’s ยุคเดียวกับภาพยนตร์เรื่องนี้จริงๆ
Look ดังกล่าวของ Marty McFly คุณเองก็สามารถหาซื้อมาใส่ได้แบบใกล้เคียงกัน แถมยังมั่นใจได้เต็มที่ว่าเป็นของแท้ Authentic จากช่วงเวลาเดียวกัน เพราะ Levi’s® Authorized Vintage หรือ LAV รับประกันความ “แท้” ทั้ง Jacket และกางเกงยีนส์
แต่ละตัว “ไม่ซ้ำกันเลย” และเลือกเฉพาะที่ผลิตใน USA เท่านั้น
ทุกชิ้นในคอลเลคชั่น LAV หรือ Levi’s® Authorized Vintage คือเสื้อผ้าวินเทจที่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน เป็นเสื้อผ้ามือสองที่มี “ร่องรอย” และ “ลวดลาย” ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันไปตามการใช้งานของเจ้าของเดิม แต่มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งนั่นก็คือ ทุกตัวจะผลิตใน U.S.A. เท่านั้น และมั่นใจได้เลยว่าเป็นของแท้จริงๆ
– Levi’s® 501 ทั้ง 2 ตัวนี้ ถึงแม้จะมาจากยุคเดียวกัน แต่ตัวซ้ายนั้นผ่านการแก้ไขทรงให้กลายเป็น Tapered Fit (สังเกตได้จาก สัญลักษณ์ T ที่ป้ายปะเก็น ส่วนตัวทางขวาจะเป็นทรง 501 Original แท้ๆ ที่ไม่ได้ผ่านการแก้ไขทรง และจะใช้ จุดสีน้ำเงิน เป็นตัวบ่งบอก-
กางเกงบางตัวในคอลเลคชั่น LAV จะมีการแก้ไขทรงของกางเกง โดยเราสามารถสังเกตจากการทำสัญลักษณ์เพิ่มเติมที่ป้ายด้านหลัง ซึ่งทรง Skinny จะมีสัญลักษณ์ตัว “S” สีน้ำเงินระบุอยู่ ส่วนทรง Tapered ใช้เป็นตัว “T” และอีกแบบคือทรง 501® ฉบับคลาสสิค ที่ไม่ได้ผ่านการแก้ไขทรงใดๆ ทั้งสิ้น ก็จะใช้ จุดสีน้ำเงิน เพื่อบ่งบอกเช่นกัน
-หากสินค้าต้องมีการซ่อมแซม ทางแบรนด์ Levi’s® ก็จะทำการซ่อมให้เรียบร้อยจากโรงงานโดยตรง-
คำว่า ไม่ซ้ำ ในที่นี้จึงหมายถึง ความสวยงามแบบเฉพาะตัว และอาจพูดได้ว่า ตัวที่คุณซื้อไปนั้น น่าจะมีตัวเดียวในโลกเลยก็ว่าได้ เพราะไม่มีรูปแบบหรือการฟอกเพิ่มเติมบนตัวกางเกงหรือเสื้อแจ็กเก็ตเลย มีเพียงแค่การปะซ่อม หรือแก้ไขทรงเท่านั้น
ถือเป็นโอกาสพิเศษ ที่คุณจะได้ค้นหากางเกงยีนส์หนึ่งเดียวในโลก แถมอาจได้กระดุม 555 / 522 / 535 มาครอบครองพร้อมรูปแบบการ “เฝด” ของผ้ายีนส์ที่คุณชื่นชอบอีกด้วยนะครับ ดังนั้นใครที่สนใจหรือเล็งตัวไหนไว้ MenDetails ขอแนะนำให้ไปลองใส่กันไว้ก่อนได้เลย เพราะถ้าหมดล็อตนี้ไป เราเองก็ไม่มีทางรู้ได้ว่า Levi’s® จะสามารถตามหากางเกงรุ่นเดียวกันนี้มาให้เราเลือกได้อีกหรือเปล่า ถือเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ และ Win-Win ทั้งคนขายและคนซื้อ เพราะถ้าจะมีใครสักคนที่จะขายยีนส์วินเทจได้น่าเชื่อถือและทรงคุณค่าที่สุด MenDetails เชื่อว่าโลกใบนี้ไม่น่าจะมีใครทำได้ดีไปกว่า Levi’s® อีกแล้วล่ะครับ
พบกับ Levi’s® 501® คอลเลคชั่น Levi’s® Authorized Vintage ได้แล้ววันนี้ ที่ Levi’s® Store สาขา Mega Bangna / Central World / Central Rama 2 / Icon Siam และ Counter Levi’s® Central Chidlom สำหรับสาวก Vintage ตัวจริง พลาดไม่ได้นะครับ
อย่างไรก็ดีถ้าคุณไม่ใช่สายกางเกงยีนส์มือสอง แต่อยากได้ของใหม่ที่เลือกผลิตในรูปแบบดั้งเดิมของ Levi’s® ตั้งแต่เริ่มต้น MenDetails ขอแนะนำให้ลองดู series ที่ใช้ชื่อว่า LVC หรือ Levi’s® Vintage Clothing ดูได้เช่นกันนะครับ