บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ อาจจะเป็นชื่อที่หลายคนคุ้นหูในฐานะนักร้องและศิลปิน ที่มีเพลงฮิตมากมายอย่าง หยุด, สัญญา และเธอทั้งนั้น ที่ในปัจจุบันก็ยังคงได้รับความนิยม ได้ยินตามงานแต่งงาน ร้านอาหาร ไปจนถึงวัยรุ่นที่กำลังตั้งวงดนตรีของตัวเอง ต่างเคยผ่านเพลงเหล่านี้ด้วยกันมาทั้งสิ้น แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้ว ผู้ชายคนนี้ยังมีอีกหลายบทบาทที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็น นักธุรกิจ หรือ เจ้าของร้านอาหาร ทำให้ตัวเขาไม่เคยหยุดนิ่งและต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
ครั้งนี้ถือเป็นโชคดีของ MenDetails ที่คุณบุรินทร์สละเวลาเปิดบ้านต้อนรับและนั่งพูดคุยกับเรา ถึงเรื่องบทบาทต่าง ๆ ของเขา และเรื่องการพัฒนาตัวเองไม่ให้หยุดนิ่ง ที่เราเอามาฝากเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านทุกท่าน และให้แฟนเพลงของผู้ชายคนนี้ที่อ่านบทความของเราได้หายคิดถึงเขาครับ
บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ กับบทบาทศิลปินในดวงใจของใครหลายคน
“สวัสดีครับ ผมบุรินทร์ บุญวิสุทธิ์นะครับ เป็นนักธุรกิจ ทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ในเครือเมโทร แล้วก็เป็นนักร้อง โปรดิวเซอร์ แล้วก็มีร้านอาหารครับ ทำ Community mall ครับ ทำ Office ให้เช่าครับ ทำหลายอย่างเลยครับ” แค่คำแนะนำตัวของเขา ก็ทำให้เรารู้แล้วว่าเขามีหลายบทบาทขนาดไหน
แต่ต้องขอเริ่มพูดคุยจากบทบาทที่หลายคนรู้จักเขาดีที่สุดกันก่อน นั้นก็คือในส่วนของศิลปิน ซึ่งเราก็มีคำถามมากมายอยากถามเขาถึงเส้นทางการเป็นศิลปินในหลายปีที่ผ่านมา โดยเริ่มจากประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเป็นศิลปิน และเพราะอะไร ซึ่งคุณบุรินทร์ตอบมาว่า มันคือความสุข เพราะเขาเป็นคนที่ชอบดนตรี และเสียงเพลงแล้วได้มาทำอาชีพที่รัก ทำแล้วมีแฟนเพลงมากขึ้นเรื่อย ๆ มีเพลงฮิตมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นความสุขที่หาที่ไหนไม่ได้
“ผมเคยฝันอย่างเดียวว่าอยากมีเพลงสักเพลงหนึ่ง จะดังก็ได้ไม่ดังก็ได้ ปรากฏว่าถึงวันนี้มันมีเพลงมากมายที่เราทำออกมา คอนเสิร์ตไม่รู้กี่พันคอนเสิร์ตที่เราได้เล่นมา ผมว่าความประทับใจมันมีมาก มันมีเยอะมาก ๆ เลย ถ้าให้เลือกอย่างเดียวคงไม่มีทาง”
แต่ถ้าให้พูดถึงคอนเสิร์ตที่คุณบุรินทร์ประทับใจมาก ๆ ครั้งหนึ่ง เขาเลือกคอนเสิร์ตที่เขาไปเล่น Music Festival แรก ๆ ในเมืองไทยที่หัวหิน เขาจำได้ว่าวันนั้นเป็น Music Festival ที่คนมาเยอะที่สุดตั้งแต่เคยมีงานมาในประเทศไทย เขามองไปสุดลูกหูลูกตายังเห็นคนอยู่ เหมือนงานใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ แล้วพลังจากคนในวันนั้นมันตราตรึงมาก
ในบรรดาเพลงมากมายที่คุณบุรินทร์ร้องมา เราเชื่อว่าต้องมีหลาย ๆ คนสงสัยว่าเพลงไหนที่เป็นเพลงโปรด หรือมีความผูกพันกับเขาเป็นพิเศษ ซึ่งเราก็ได้ถามคำถามนี้กับคุณบุรินทร์ให้แล้วครับ
“ถ้าให้เอาเพลงที่โดนเราด้วยแล้วผูกพันกับเราด้วย ผมว่ามี 2 เพลงครับ ถ้าในยุคต้น ๆ อันแรกเพลงสัญญา เป็นเพลงโฆษณาในกับโทรศัพท์มือถือแบรนด์หนึ่ง แล้วเป็นเพลงที่ผมเอามาเปิดให้แฟนผมฟังครั้งแรก แฟนร้องไห้เลย ตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมเพิ่งมาร้องเพลงได้ไม่กี่ปี เป็นเพลงที่ผมประทับใจกับเนื้อหาของเพลง และอีกเพลงที่ต้องบอกว่ามันอยู่ในทุกช่วงของชีวิต 20 ปี ก็คือเพลง หยุด”
คุณบุรินทร์เล่าว่าเขาจำได้ว่าครั้งแรกที่ได้ยินทำนองกับการพึมพำภาษาต่างดาวของคุณบอย โกสิยพงษ์ผู้แต่ง พอฟังแล้วทำให้เขาชอบจริง ๆ แม้ว่าพอทำภาษาไทยออกมาเขาจะชอบตอนเป็นภาษาต่างดาวมากกว่าเพราะมันให้ความรู้สึกอินเตอร์มาก ๆ มันเป็นเพลงที่ใช้เวลาหลายปีกว่าจะดัง เพราะเขาอยู่ในค่ายอินดี้ในตอนนั้นอย่าง Bakery music ที่ไม่มีสื่อของตัวเอง ศิลปินจึงต้องมีเพลงที่ดี เพื่อให้ไปถึงหูคนฟัง แต่พอคนรู้จักแล้วเวลาผ่านมาเกือบ 20 ปี ก็ยังอยู่กับทุก ๆ จังหวะของชีวิตของหลาย ๆ คน กลายเป็นเพลงชาติของงานแต่งงาน ซึ่งตัวเขาก็ขอบคุณทุก ๆ คนที่ชื่นชอบเพลงนี้ด้วย
การบาลานซ์ตัวตนแต่ละด้านของคุณ บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์
นอกจากบทบาทการเป็นศิลปินแล้ว คุณบุรินทร์ยังมีอีกหลายบทบาทที่ต้องรับผิดชอบ ทำให้เราสงสัยว่าตัวตนไหนที่สะท้อนความเป็นคุณบุรินทร์มากที่สุด ซึ่งเขาตอบมาว่าทุกอย่างที่เขาทำล้วนเป็นตัวตนของเขาทั้งสิ้น เพราะเขาชอบทำหลายอย่าง
“แต่มันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมเหมือนเหยียบอยู่ 2 ข้าง ข้างหนึ่งเป็นดนตรี อีกขาอยู่ธุรกิจ แล้วบาลานซ์กันไม่ได้ เราขึ้นไปร้องเพลงก็อยากมีมาดนักธุรกิจด้วยเพราะกลัวเต็มที่ไปแล้วจะเสียลุค สุดท้ายมานั่งนึกดู ก็คิดได้ว่าทำอะไรทำให้สุดไปเลยดีกว่า เต็มที่ไปเลย แล้วเป็นตัวของเราเอง สุดท้ายธรรมชาติของเราจะเป็นสิ่งที่ออกมาจากใจจริง แล้วเราจะไปได้สุดทุกด้าน ซึ่งมันดีกว่าการมากั๊ก”
กว่าจะมาถึง “สิ้นสุดการรอคอย” เพลงปิดอัลบั้มใหม่
เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณบุรินทร์ เราก็อดไม่ได้ที่จะถามถึงความรู้สึกหลังออกผลงานใหม่ โดยเฉพาะเพลง “สิ้นสุดการรอคอย” เพลงปิดอัลบั้มใหม่ Starlight Express ถือเป็นการปิดฉากการ Comeback ในรอบหลายปี
คำตอบของคุณบุรินทร์ทำให้ตกใจไม่น้อย เมื่อเขาตอบว่าอัลบั้มนี้มันควรจะเสร็จตั้งแต่ 5 – 6 ปีที่แล้ว ซึ่งในตอนนั้นมีเพลงหลายเพลงที่เตรียมไว้แล้ว พร้อมออกได้เลย แต่มีหลายปัจจัยที่ทำให้มันออกไม่ได้เสียที อย่างเริ่มธุรกิจใหม่ หรือการที่คุณบุรินทร์ต้องการปล่อยเพลงให้เป็นอัลบั้ม เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง มีตอนต้น ตอนจบ เป็นเรื่องราว ทำให้คุณบุรินทร์คิดการเล่าเรื่องของเพลงในรูปแบบอัลบั้มเสมอ
พอมาเริ่มธุรกิจใหม่ คุณบุรินทร์ก็ต้องทุ่มเทให้ธุรกิจใหม่ก่อน ทำให้หายไปสองสามปี พอจะกลับมาทำเพลงอีกครั้ง ก็เริ่มธุรกิจใหม่อีก คราวนี้เป็น Community mall ชื่อ The Grove แล้วมีร้านอาหารของตัวเองในนั้น มาจากความชอบในเรื่องอาหารของตัวเอง ทำให้เขาต้องไปเรียนรู้เพิ่มเติมในการจัดการธุรกิจให้เติบโต จนได้มาคุยกับค่าย Muzik Move ด้วยความบังเอิญ ได้ปล่อยเพลงออกมา 5 – 6 ซิงเกิ้ล แต่ก็เกิดเหตุการณ์โควิดขึ้นอีก 3 ปี ทุกอย่างเลยดึงยาวไปหมด
“จนมันไม่ไหวแล้วครับ โควิดก็โควิด ออก (เพลง) แล้วครับ เพราะผมคิดว่าตอนนี้ทุก ๆ คนก็ต้องเดินหน้าต่อไป จะมาปิดกันอย่างนี้มันก็อยู่กันไม่ได้แล้ว ก็สู้กันไป มีวัคซีนแล้วก็โอเค” การเดินทางกว่าจะมาถึงเพลง สิ้นสุดการรอคอย ที่เป็นเหมือนการบอกว่านี่คือการ สิ้นสุดการรอคอยการ Comeback ของผู้ชายชื่อบุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ และเป็นเพลงปิดอัลบั้มที่สมบูรณ์
การพัฒนาตัวเองไม่ให้หยุดนิ่งของคุณ บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์
สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้จากการพูดคุยกับคุณบุรินทร์ คือ การที่เขาไม่ชอบอยู่นิ่ง แต่จะคอยทำอะไรใหม่ ๆ ค้นหาอะไรใหม่ ๆ เพื่อให้ตัวเองพัฒนาอยู่เสมอ เราถึงต้องขอถามถึงเคล็ดลับในการพัฒนาตัวเองของเขาสักนิดครับ
คุณบุรินทร์ตอบว่า ถ้าเราจะทำอะไรที่เรารักเป็นอาชีพ ต้องไม่หยุดพัฒนา การที่เราหยุดพัฒนาเท่ากับถอยหลังเพราะมันจะมีอะไรที่เกิดขึ้นมาใหม่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวงการเพลงที่มีวงดนตรี ศิลปินหน้าใหม่เกิดขึ้นมาอยู่ตลอด คุณบุรินทร์จึงมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อย่างเรื่องการทำงานที่ต้องมืออาชีพมากขึ้น การมีองค์ประกอบ เครื่องดนตรีเวลาขึ้นเวทีมากขึ้นเพื่อให้การแสดงสนุกมากขึ้น มีการคิดโชว์ใหม่ ๆ ตลอดเวลา
หรือจะเป็นเรื่องของการแต่งกาย ที่คุณบุรินทร์ก็เลือกที่จะแตกต่าง ตั้งแต่ตอนที่เขาเข้าวงการใหม่ ๆ ที่ทุกคนใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ขึ้นเล่นคอนเสิร์ตในยุค Alternative คุณบุรินทร์ไม่ต้องการเหมือนใคร และให้คนดูประทับใจในความครบเครื่อง จึงเริ่มแต่งตัวบนเวที จนเป็นที่ติดตาของแฟนเพลง ด้วยที่ลงมือเต็มที่ ไปให้สุดในเรื่องที่ชอบ และการไม่หยุดนิ่งนี้เองทำให้คุณบุรินทร์พัฒนาตัวเองอยู่เสมอครับ
คำแนะนำถึงทุกคนที่อยากพัฒนาตัวเอง
เคล็ดไม่ลับที่คุณบุรินทร์อยากบอกถึงทุกคนที่อยากพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่เก่งขึ้นในทุก ๆ วัน อย่างแรกคือต้องโฟกัสในสิ่งที่ทำ ถ้าเราชอบหรือรักมันจะยิ่งดี เพราะมันจะไม่ฝืนเลย อย่างคุณบุรินทร์เอง เมื่อรักในสิ่งที่ทำ เขาจะศึกษา ซ้อม ค้นคว้า ทำยังไงก็ได้ให้เก่งขึ้นเรื่อย ๆ ให้เชี่ยวชาญที่สุด ดูอะไรที่เกี่ยวกับสิ่งที่ทำ ว่าทำยังไงให้ดีขึ้น ถ้าเราชอบและรักมัน มันจะเป็นธรรมชาติของเราเลย ถ้าเราหา Input ที่ดีได้ output ที่ออกไปก็จะดีตาม สิ่งที่เราเสพจะสะท้อนให้เราออกมาเป็นคนอย่างนั้น ยิ่งค้นลึก ไปลึก ก็จะยิ่งช่วยให้เราพัฒนา
อีกอย่างคือ ความขยัน ต้องทำบ่อย ๆ ซึ่งคุณบุรินทร์ยกตัวอย่างในเรื่องการร้องเพลง แม้เราอาจจะมีพรสวรรค์ แต่ถ้าไม่ขึ้นเวทีบ่อย ๆ ไม่ซ้อมบ่อย ๆ ก็ไม่สามารถร้องได้ดีขึ้น มันอาจจะใช้เวลา แต่สุดท้ายผลลัพธ์มันจะออกมาดี
“คนทุกคนสามารถพัฒนาตัวเองได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอย่าขี้เกียจ อย่าพูดแล้วไม่ทำ มีฝันอะไรไว้ตามฝันได้ ขอให้ขยัน ศึกษาเยอะ ๆ รับ Input ดี ๆ ไว้เยอะ ๆ”
ถือเป็นบทสัมภาษณ์ทำให้เราได้เห็นมุมมองต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาตัวเองของคุณบุรินทร์ที่ไม่คิดจะอยู่นิ่งได้ดีเลยครับ สุดท้ายใครที่คิดถึงและเป็นแฟนคลับของชายคนนี้ ตอนนี้มีอัลบั้มใหม่ Starlight Express และซิงเกิ้ลใหม่ที่เพิ่งออกมาอย่าง สิ้นสุดการรอคอย ปล่อยออกมาให้ได้ฟังกัน ซึ่งคุณบุรินทร์แอบบอกเรามาว่าอยากให้ไปฟังในอัลบั้มเพราะจะเป็นการเล่าเรื่องที่สนุกสนาน และเพลงอื่น ๆ เจ้าตัวตั้งใจทำออกมาจริง ๆ นอกจากนั้นใครที่สนใจซื้อรถก็ติดต่อบริษัท เมโทร ของคุณบุรินทร์ได้เช่นกัน รวมถึงยังมีร้านอาหาร Lambic Eatery ในโครงการ The grove หทัยราษฎร์ ให้เหล่า foodie ไปฝากท้องอีกด้วย
สุดท้ายเราต้องขอขอบคุณ คุณบุรินทร์ที่ให้เกียรติมาพูดคุยกับ MenDetails ในครั้งนี้ด้วยครับ และเราหวังว่าผู้อ่านของเราทุก ๆ ท่าน จะได้แรงบันดาลใจจากชายคนนี้ไม่มากก็น้อยนะครับผม