รองเท้าหนัง Crockett & Jones ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์รองเท้าหนังที่โด่งดังที่สุดในโลกจากอังกฤษ ด้วยกระบวนการผลิตที่อยู่ภายในประเทศอังกฤษทั้งหมด อีกทั้งยังคงดำเนินงานโดยครอบครัวของผู้ก่อตั้ง และยังไม่ได้ถูก Take Over โดยแบรนด์แฟชั่นขนาดใหญ่ ทำให้มั่นใจได้ว่า รองเท้าหนัง Crockett & Jones ยังคงยึดมั่นในมาตรฐานและความคลาสสิคตามแบบฉบับดั้งเดิมอย่างเช่นที่บรรพบุรุษของพวกเขาได้วางรากฐานไว้
MenDetails ได้เคยเขียน บทความรีวิวรองเท้าสไตล์ Tassel Loafers จาก Crockett & Jones รุ่น Cavendish II กันไปแล้วก่อนหน้านี้ และได้รับความสนใจคลิกเข้าไปอ่านกันมากมาย แต่ก็มีผู้ชายอีกหลายคนที่ไม่ได้ชื่นชอบสไตล์ของ Tassel Loafers ที่มี “พู่หนัง” ประดับตกแต่งอยู่ตรงกลางเท่าไหร่นัก วันนี้ MenDetails จึงขอนำอีกหนึ่งรองเท้ารุ่นเรือธงของ Crockett & Jones ในสไตล์ Penny Loafers นั่นคือรุ่น Harvard II ซึ่งเราเชื่อว่ารุ่นนี้จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าจะโดนใจผู้ชายไทยส่วนใหญ่ และกลายเป็นรองเท้าคู่โปรดของเราได้ไม่ยากแน่นอน
รองเท้าหนัง Crockett & Jones ‘Harvard II’
รองเท้าหนัง Crockett & Jones รุ่น Harvard II เป็นรองเท้าแบบสวม ไม่มีเชือกผูก ในสไตล์ Penny Loafers ที่จะมีหน้ากากเพ็นนีประดับตกแต่งบนตัวรองเท้า จุดเด่นที่ชัดเจนที่สุดของ Harvard II คือโครงสร้างแบบไร้ซับใน (Unlined) ที่ทำให้ตัวรองเท้านั้นนุ่มนิ่มและใส่สบาย แต่ยังคงความเนี้ยบตามสไตล์ Dress Shoes ทุกประการ อย่างไรก็ดี MenDetails อยากจะขอขยายความอีกสักเล็กน้อย เพราะถึงแม้ Crockett & Jones จะบอกสเป๊คว่ารองเท้าคู่นี้เป็นแบบไม่มีซับใน (Unlined) ก็ตามที แต่ความจริงทาง Crockett & Jones มีการเสริมโครงสร้างบางส่วนที่ตรงบริเวณส้นเท้า และบริเวณปลายเท้า ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวรองเท้าเกิดการเสียรูปทรงเมื่อผ่านการใช้งานไปนาน ๆ อีกทั้งโครงสร้างบริเวณส้นเท้าจะช่วยทำให้รองเท้าไม่หลุดส้นขณะก้าวเดินอีกด้วยครับ
Lining เฉพาะตรงส่วนปลาย เพื่อให้หัวรองเท้าไม่เสียรูปทรง แต่ตัวรองเท้าทำเป็นแบบ Unlined (ไร้ซับใน) เพื่อให้นิ่มนวลและรับกับเท้าของผู้สวมใส่ได้อย่างเหมาะเจาะ
เราเลือก Harvard II ในเวอร์ชั่นของหนังกลับสีน้ำตาลเข้ม (Dark Brown Suede) เพื่อให้สามารถสวมใส่ใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่กับเสื้อยืดกางเกงยีนส์ในวันพักผ่อน ไปจนถึงชุดสูทสีกรมท่าเนี้ยบ ๆ ก็เข้ากับรองเท้าคู่นี้ได้เช่นกัน และเมื่อเราจับไปตรงช่วงกลางของรองเท้า จะพบว่าหนังกลับของรองเท้าคู่นี้ยืดหยุ่นและนิ่มนวลมาก ด้วยคุณภาพของหนังที่ Crockett & Jones เลือกมาอย่างดี อีกทั้งการไม่มีซับในมาเสริมคั่นกลาง ทำให้ตัวหนังส่งผ่านความนิ่มนวลมาที่เท้าของเราได้โดยตรง ถือเป็นหนึ่งในรองเท้าหนังที่ใส่สบายและดูเนี้ยบเรียบร้อยที่สุดคู่หนึ่งเลยทีเดียว
พื้นยาง City Sole บนโครงสร้างการเย็บพื้นรองเท้าแบบ Goodyear Welted
จากตัวรองเท้ามาสู่พื้นรองเท้ากันบ้าง Crockett & Jones รุ่น Harvard II คู่นี้มีลักษณะเด่นคือใช้พื้นรองเท้าทำจาก “ยาง” แทนที่จะเป็นพื้นหนัง โดยเป็นพื้นยางที่ทาง Crockett & Jones พัฒนาร่วมกับบริษัท Harbourough Rubber Co. ผู้ผลิตพื้นรองเท้ายางระดับโลกของอังกฤษ ยี่ห้อ Dainite (ไดไนท์) ช่วยกันออกแบบพื้นให้บางลง และเปลี่ยนลวดลายบนพื้นยางจากหมุดกลม ๆ ที่มีรูปร่างคล้าย “ปุ่มสะตั๊ด” ของรองเท้าสำหรับเตะฟุตบอล ดูแล้วไม่ค่อยเนี้ยบเท่าที่ควร กลายมาเป็นพื้นยางที่มีเพียงการพิมพ์ลายขรุขระสำหรับกันลื่นแทน ทำให้พื้นยาง City sole แบบนี้ดูเนี้ยบและเรียบกว่าพื้น Dainite ปกติที่เราเคยผ่านตากันมาพอสมควร
พื้นรองเท้า City Sole ที่ Crockett & Jones พัฒนาร่วมกับแบรนด์พื้นรองเท้า Dainite
แม้จะเป็นพื้นยาง แต่ Crockett & Jones ยังคงใช้วิธีเย็บพื้นแบบ Goodyear Welted เช่นเดิม เพื่อรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานระดับสูงของทางแบรนด์ อีกทั้งยังเป็นการง่ายต่อการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนพื้นในอนาคต และด้วยความบางกับความยืดหยุ่นของพื้นยาง City Sole จาก Crockett & Jones ทำให้ Harvard II เป็นรองเท้าที่ใส่เดินได้สบายเท้าทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่สวมใส่ ไม่ต้องรอระยะเวลา Break-in แบบรองเท้า Goodyear Welted ที่เป็นพื้นหนัง อีกทั้งคุณภาพพื้นยางที่การันตีโดยยี่ห้อ Dainite ทำให้เรามั่นใจได้ว่าเป็นพื้นยางที่ทนทาน, สึกช้า และเกาะถนนได้ดีเยี่ยม โดยไม่ต้องเอาไปติดแผ่นยางกันลื่น (Half sole) หรือ เหล็กกันสึกปลายรองเท้า (Toe Plate) ให้วุ่นวายอีกต่อไป
Last 376 จาก รองเท้าหนัง Crockett & Jones
“หุ่นรองเท้า” (Last) คือสิ่งสำคัญที่ทำให้รูปทรงของรองเท้าแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อมีหน้าตาและความพอดีเท้าที่แตกต่างกัน เพียงแค่ภายในยี่ห้อ Crockett & Jones เพียงแบรนด์เดียวก็มี หุ่นรองเท้า ให้เลือกเกือบ 30 หุ่นเข้าไปแล้ว ซึ่งหุ่นรองเท้าของ Harvard II คือรหัส “Last 376” เป็นหุ่นรองเท้าที่ออกแบบขึ้นสำหรับรองเท้าสไตล์ Penny Loafers แบบไม่มีซับใน (unlined) ของแบรนด์ Crockett & Jones โดยเฉพาะ โดยมีแม่แบบหัวรองเท้ามาจาก “Last 314” ทุกประการ แต่มีความแตกต่างตรงที่ขนาดของส้นรองเท้าใน Last 376 จะถูกปรับให้แคบกว่า Last 314 เพื่อให้รองเท้าแบบไม่มีซับในนั้นกระชับข้อเท้ามากขึ้น ใส่แล้วข้อเท้าไม่ลื่นหลุด (Heel slip) ขณะที่กำลังก้าวเดิน
หัวรองเท้ากลมมน หน้าสั้น และส้นเท้าเรียวเล็ก คือเอกลักษณ์ของ Last 376 จาก Crockett & Jones
หัวรองเท้าของ Last 314 และ 376 เป็นหัวแบบทรงกลม ที่มีหัวรองเท้าค่อนข้างสั้น และมีความยาวของ Insole ที่ชิดกับความยาวเท้าจริง มากกว่า Last อื่น ๆ ตัวอย่างเช่น รองเท้า Crockett & Jones ‘Harvard II’ Last 376 คู่นี้ที่ไซส์ 8.5 UK จะมีความยาวของพื้นรองเท้าด้านในประมาณ 280 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นความยาวที่เท่ากับขนาด 8 UK ของ Last 325 ในรองเท้า Tassel Loafers รุ่น Cavendish II ตามที่เราเคยรีวิวไปแล้วก่อนหน้านี้
Crockett & Jones Harvard II Last 376 ไซส์ 8.5 UK (ซ้าย) เทียบกับ Cavendish Last 325 ไซส์ 8 UK (ขวา)
MenDetails แนะนำให้ผู้ชายที่มีหน้าเท้าปกติ เลือกไซส์รองเท้า Harvard II ให้เป็นไซส์เดียวกันกับ Crockett & Jones Cavendish II ได้เลย คุณจะได้หน้ารองเท้าที่สั้นลงเล็กน้อยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Last 376 โดยตรง แต่ถ้าคุณเป็นผู้ชายที่มีเท้าอ้วนและกว้าง หรือมีเท้าเรียวยาวมากกว่าปกตินิดหน่อย เราก็ขอแนะนำให้เพิ่มไซส์ไปอีกครึ่งไซส์จากเบอร์รองเท้า Cavendish II ที่คุณใส่ เพราะด้วยหัวรองเท้า Harvard II ที่ค่อนข้างสั้นเป็นทุนเดิม การเพิ่มครึ่งไซส์จึงไม่ได้ทำให้รองเท้าดูยาวเกินไปแต่อย่างใด และที่สำคัญด้วยความกระชับของส้นเท้าที่ถูกปรับให้ “เกาะส้น”มากขึ้นของ Last 376 ทำให้มั่นใจได้ว่าใส่แล้วส้นเท้าจะไม่ลื่นหลุดออกมาขณะที่ก้าวเดิน แม้เราจะ Upsize เพิ่มขึ้นครึ่งไซส์ก็ตาม
How to wear ‘Crockett & Jones Harvard II’
ด้วยความที่เป็นหนังกลับสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งเป็นสีรองเท้าหนังยอดฮิตสำหรับผู้ชาย สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายโดยแท้จริง ทำให้เราสวมใส่ Crockett & Jones ‘Harvard II’ คู่นี้ได้แทบจะทุกสไตล์การแต่งกาย ตั้งแต่เสื้อยืดหรือ เสื้อโปโล กับกางเกงยีนส์ทรง Straight สวย ๆ สักตัว อย่าง LVC ปี 1944 พื้นผิวของหนังกลับจับคู่กันได้ดีกับความขรุขระเล็กน้อยของผ้ายีนส์ ดูเป็นผู้ชายที่แต่งกายเรียบง่ายแต่ใส่ใจในรายละเอียดเป็นอย่างดี ที่สำคัญ Harvard II เป็นรองเท้าสไตล์ Unlined ที่ออกแบบมาให้ผู้ชายสามารถสวมใส่ด้วยเท้าเปล่าแบบ Sockless style ได้เลย หรืออาจเลือกใส่เป็นถุงเท้าซ่อนที่ไม่จำเป็นต้องโชว์ถุงเท้าขึ้นมาถึงข้อเท้าแต่อย่างใด
ส่วนถ้าจะปรับให้การแต่งกายเป็นทางการขึ้นมาอีกหน่อยในแบบ Smart Casual ก็ลองใส่คู่กับเสื้อเชิ้ต กับกางเกงขายาวสีครีม และสวมทับด้วย Blazer หรือ Sport coat สวย ๆ สักตัว เราก็พร้อมจะออกงานได้แล้ว และถ้าอยากนำไปใส่เข้ากับชุดสูทแบบเต็มยศ สูทสีกรมท่า ก็ดูเป็นคู่สีอมตะที่กลมกลืนกับสีน้ำตาลเข้มได้เป็นอย่างดี คำแนะนำก็คือหากต้องการใส่กับชุดสูท ก็ขอให้หาถุงเท้ามาใส่ด้วยจะเป็นการดีกว่าและเหมาะสมกว่าการโชว์ข้อเท้าเปลือยแบบ Sockless Style นะครับ
หากจะให้เราพยายามมองหาข้อเสียของ รองเท้าหนัง Crockett & Jones รุ่น Harvard II คู่นี้แบบที่เรียกว่า “ต้องเรื่องมากจริง ๆ เท่านั้น ถึงจะเจอ” เห็นจะเป็นเรื่องของการเก็บงานในรายละเอียดที่เรายังแอบเห็นองศาที่ไม่เสมอกันในระดับหน่วยมิลลิเมตรบนขอบพื้นรองเท้า หรือเศษด้ายจากการเย็บขอบรองเท้าที่เราสามารถดึงเบา ๆ ออกเองได้ แต่ทั้งหมดก็ถือเป็นเพียงเรื่องเล็กนิดเดียว เมื่อเทียบกับความดีความชอบอีก ร้อยละ 99 ที่รองเท้าคู่นี้สามารถทำได้
โครงสร้าง Unlined และพื้น Rubber ‘City’ Sole คือ 2 จุดสำคัญที่ทำให้ C&J รุ่น Havard II นิ่มได้ขนาดนี้
MenDetails ขอเชียร์ให้คุณไปลองสวมใส่ Harvard II คู่นี้ที่ The Shoeroom ภายในร้าน The Decorum ซอยอารีย์สัมพันธ์ 5 ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่าย รองเท้าหนัง Crockett & Jones อย่างเป็นทางการแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งนอกจากหนังกลับสีน้ำตาลคู่นี้แล้ว ทางร้านยังมี Harvard II หนัง Shell Cordovan ให้เลือกด้วย แต่เราเชื่อว่าด้วยความนิ่มสบายในแบบที่หาได้ยากจากรองเท้าประเภท Goodyear Welted Shoe คู่อื่น ๆ จะทำให้ รองเท้าหนัง Crockett & Jones ‘Harvard II’ Dark Brown Suede คู่นี้ กลายเป็นรองเท้าคู่โปรดของคุณทันทีที่ได้ลองสวมใส่ครับ