ตำนาน Air Jordan กำลังจะกลับมาอีกครั้งกับการกลับมาวางขายอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายจากวงการ Sneakers ในเมืองไทยไปกว่า 2 ปี ครั้งมาครั้งนี้ Air Jordan ได้หยิบเอารุ่น Retro ที่สร้างปรากฏการณ์ต่างๆ มากมายอย่าง Air Jordan 11 วันนี้เราขอเล่าความเจ๋งของรองเท้าคู่นี้ผ่านคู่ Retro Low ‘Easter’ (Iridescent) ให้ทุกท่านได้รู้จัก Air Jordan 11 ให้มากขึ้นอีกนิดนะครับ
ที่เห็นแบบนี้นั้น ได้รับแรงบันดาลใจจาก “เครื่องตัดหญ้า” นะเนี่ย
-แบบ Sketch และการพัฒนางานออกแบบของ Tinker Hatfield (Nike)-
หลายๆ คนคงพอจะทราบอยู่แล้วนะครับว่า หัวหน้าทีมออกแบบ Air Jordan 11 นั้นคือ Tinker Hatfield ซึ่ง Sketch แรกเริ่มของ Tinker นั้นจะเป็นทรง Mid (ถือเป็นความสูงที่ Jordan ชอบใส่เป็นอย่างมาก) และทรงรองเท้าก่อนที่คุณจะเห็นอยู่อย่างในปัจจุบันนี้ มีรูปลักษณ์ความโฉบเฉี่ยวมาจากเครื่องตัดหญ้านี่แหละ ฟังแล้วเหมือนไม่น่าเชื่อจริงมั้ย
เปลี่ยน Out-Sole ใหม่ เลยต้องใส่ Carbon Fiber Plate มาด้วย
-โชว์ลาย Carbon Fiber ให้เห็นบริเวณ Arch-Support-
ถือเป็นครั้งแรกของรองเท้าในตระกูล Air Jordan เลยก็ว่าได้ครับที่ปรับพื้น Out-Sole มาเป็นพื้น Football Cleats ที่ให้จังหวะในการ Sprint ตัวได้ดีเยี่ยมแต่ในทางกลับกันก็มีความแข็งที่ค่อนข้างสูง ทำให้ทาง Tinker Hatfield ต้องหาวัสดุใหม่เพิ่มเข้ามาเพื่อทดแทนความเด้งที่หายไปนั่นก็คือ Carbon Fiber Plate (หรือแผ่น Kevlar) เพื่อเพิ่มความเด้งเวลา Jump Shoot คุณจะเห็นวัสดุอย่าง Carbon Fiber Plate ได้ในรองเท้า Vaporfly 4% ซึ่งซ่อนอยู่ภายใน Mid-Sole แต่สำหรับคู่นี้แล้ว “มันต้องโชว์ให้เห็นครับถึงจะเท่”
-ลาย Carbon Fiber Plate บริเวณ Arch Support-
ใส่วัสดุอย่างหนังแก้ว (เงาๆ มันๆ) เข้ามาด้วย
-หนังแก้วมันๆ เงาๆ แถมสะท้อนสี Emerald ‘Easter’ สวยงาม-
ใครๆ ก็รู้ครับว่า Jordan เป็นคนชอบแต่งตัว เขามีสไตล์การแต่งตัวในแบบของตัวเองอยู่แล้วและบ่อยครั้งครับที่สไตล์เหล่านั้นมีผลต่อการออกแบบรองเท้าในแต่ละคู่ อย่าง Jordan 11 รุ่นนี้ถูกออกแบบโดยใส่ความคิดที่ว่า รองเท้าคู่นี้น่าจะเป็นคู่ที่ Jordan สามารถเลือกใส่กับชุด Tuxedo ได้เวลาไปงาน Black Tie เลยหยิบเอาหนังแก้วเข้ามาผสมโรง แถมเจ้าหนังแก้วที่ว่ายังช่วยรักษารูปเท้าขณะเคลื่อนไหวได้ดีอีกด้วย (ข้อดีจากรองเท้าเบสบอลญี่ปุ่น) นี่น่าจะเป็นวัสดุที่แปลกใหม่ที่สุดอย่างหนึ่งของรองเท้าในตระกูล Air Jordan เลยก็ว่าได้ ณ เวลานั้น
เป็นอีกรุ่นที่ถูก NBA Banned ในปี 1995
Jordan มักชอบที่จะลองอะไรใหม่ๆ ซึ่งในช่วง NBA Playoff ปี 1995 ทาง Tinker Hatfield ได้ออกแบบรองเท้า Jordan 11 เสร็จเป็นที่เรียบร้อยและส่งตัว Prototype ไปให้ Michael Jordan พิจารณาเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่ง Tinker Hatfield รู้อยู่แล้วครับว่าถ้า Jordan ชอบ เขาจะใส่ทันที เลยย้ำกับ Michael Jordan ครับว่า “อย่าใส่ลงเล่นในสนามนะ เพราะตัวนี้เป็น Prototype ยังไม่ใช่ Version สมบูรณ์” แต่ใครจะสนจริงมั้ยครับ พอ Jordan เห็นรองเท้าคู่นี้เท่านั้นแหละ มันก็ปรากฏกายบนสนามบาสทันที (คู่นั้นคือ Jordan 11 OG ‘Concord’) และถูก Banned จาก NBA ในที่สุดแถมสั่งปรับ Jordan เป็นเงินถึง 10,000 เหรียญสหรัฐฯ อีกด้วย
ถือเป็นการกลับมาที่ดุดันมากๆ ของ Air Jordan ครับที่หยิบเอาโมเดลอันแสนจะโด่งดังทั้งในสนามและนอกสนามอย่าง Air Jordan 11 Retro มาวางขายในบ้านเราอีกครั้งซึ่งครั้งนี้ ทางแบรนด์เลือกวางขาย Air Jordan 11 Retro Low ‘Easter’ (Iridescent) ในวันที่ 1 เมษายนนี้ สนนราคาอยู่ที่คู่ละ 6,300.- และสามารถหาซื้อรองเท้าแห่งตำนานคู่นี้ได้ที่ร้าน SEEK Thailand และร้าน VAC Thailand ได้เลย ใกล้สาขาไหนไปสาขานั้นครับ