ขึ้นชื่อว่า “รองเท้าหนัง” หรือรองเท้าที่ผู้ชายเราใส่กันเมื่อต้องการแต่งกายให้สุภาพมากขึ้นกว่าเดิม แม้จะเป็นคำที่เรียกรวมๆกัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ารองเท้าหนังทุกคู่จะเหมือนกันไปหมดหรอกนะครับ เพราะรองเท้าหนังแต่ละประเภทเองนั้นก็มีลำดับขั้นความสุภาพที่ไม่เท่ากัน รองเท้าหนังบางแบบสุภาพมากกว่า บางแบบสุภาพน้อยกว่า แต่ละแบบก็จะเหมาะสำหรับการใส่ในงานที่มีลักษณะแตกต่างกัน ฟังดูเหมือนจะยุ่งยากก็จริง แต่ MenDetails ก็อยากจะสรุปตรงนี้อีกครั้งว่า ถ้านึกไม่ออกว่าจะซื้อรองเท้าหนังแบบไหนดีที่จะสุภาพเหมาะสม เราขอแนะนำให้ผู้ชายเลือกรองเท้าหนังประเภท “อ๊อกซ์ฟอร์ด” (Oxford Shoes) เอาไว้ก่อนจะเป็นการดีที่สุดครับ
รองเท้า Cap toe Oxfords แบบปกติที่มีระบบผูกเชือกที่แน่นหนา เวลาสวมใส่ก็ต้องคอยปลดเชือกและผูกใหม่ทุกครั้ง
ทว่ารองเท้าประเภท Oxford Shoes มีปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งที่อาจไม่ถูกจริตกับผู้ชายไทยเราเท่าไหร่นักนั่นก็คือ มันเป็นรองเท้าหนังประเภท “ผูกเชือก” ผู้ชายไทยที่มักเคยชินกับการใส่รองเท้าแตะ สวมง่ายถอดง่าย หรือแม้แต่รองเท้าผ้าใบเอง เราก็นิยมผูกเชือกแบบหลวมๆแล้วอาศัยวิธีการ “ยัดเท้าเข้าไป” โดยไม่ต้องแก้เชือกแล้วผูกใหม่ แต่เราไม่สามารถทำเช่นนั้นกับรองเท้าหนังแบบ Oxfords ได้เนื่องจากความยืดหยุ่นของวัสดุที่ต่างกัน และลักษณะการผูกเชือกที่ชิดและหนาแน่นกว่า จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ชายไทยอาจรู้สึกไม่ค่อยพิศมัยรองเท้าหนัง Oxfords แบบนี้เท่าใดนัก เพราะ “ขี้เกียจผูกเชือก” และนิยมหันไปใช้ รองเท้า Derby ที่มีแนวเชือกรองเท้าที่ห่างกันมากกว่า หรือไม่ก็ไปใส่รองเท้าประเภท Slip-on อย่าง Penny Loafers หรือ Tassel Loafers แทนไปเลย
MenDetails ขอแนะนำ ‘Lazy Man Dress Shoes’
MenDetails สันนิษฐานว่าช่างทำรองเท้า Dress Shoes ฝีมือดีทั้งหลาย คงคิดไม่ต่างกัน หรือไม่เช่นนั้นก็คงมีลูกค้ามากมายที่ขอร้องให้ช่างช่วยคิดหาวิธีที่จะทำให้พวกเขาสามารถใส่รองเท้าหนังทรง Oxford ได้สะดวกรวดเร็ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องแก้เชือก-ผูกเชือกให้ยุ่งยากทุกครั้งที่ต้องใส่รองเท้า รองเท้าประเภทที่ชื่อเล่นน่ารักๆว่า “Lazyman Shoes” จึงถือกำเนิดขึ้นมานั่นเองครับ
Unboxing ‘Fugashin Lazy Man Dress Shoes’
ลักษณะสำคัญของรองเท้าหนังแบบ Lazyman จะมีรูปทรงภายนอกเหมือนกับรองเท้า Oxfords ปกติแทบทุกประการ ต่างกันตรงที่บริเวณของเชือกรองเท้านั้นจะไม่ใช่เชือกรองเท้าจริงๆ แต่จะทำเป็นหนังที่มีหน้าตาหลอกให้ดูเหมือนเป็นเชือกรองเท้า หรือที่เรียกว่า “Faux Laces” (โฟ เล้ซเซ็ส) แล้วเติมส่วนที่เป็นยางยืดแอบซ่อนอยู่หลังริ้วหนังเป็นซี่ๆตรงด้านข้างของแนวเชือกรองเท้า เมื่อเวลาที่ผู้ชายจะใส่รองเท้าประเภทนี้ ก็เพียงแค่ง้างเอายางยืดตรงนี้ให้ถ่างออก แล้ว “ยัดเท้าเข้าไป” ได้เลยครับ เมื่อสวมเรียบร้อยแล้ว มองจากภายนอกก็จะดูราวกับว่าเราใส่รองเท้าทรง Oxfords สุดงามและแสนสุภาพอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว
รูปร่างหน้าตาภายนอก มองดูเหมือนรองเท้าทรง Oxfords ลายฉลุสวยงามทั่วไป
โปรดสังเกตบริเวณเชือกรองเท้าที่ไม่ได้มีเชือกผูกจริง พร้อมริ้วหนังและแถบยางยืดที่ซ่อนอยู่ข้างๆ ซึ่งจะง้างตัวขึ้นเมื่อเราใส่รองเท้า ‘Lazy Man’
Fugashin Shoemaker ‘Lazy Man Dress Shoes’
รองเท้าที่เรานำมาเป็นแบบในการอธิบายลักษณะของ Lazy Man Dress Shoes ในวันนี้มาจากแบรนด์ Fugashin Shoemaker (ฟูงาชิน ชูเมกเคอร์) ซึ่งเป็นแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น ที่ผลิตรองเท้าหนังสำหรับสุภาพบุรุษระดับ ‘High end’ ในราคาที่คนไทยเราสามารถจับต้องได้ รูปทรงหรือ ‘Last’ ของรองเท้า จาก Fugashin เทียบเคียงได้กับรองเท้าที่ตัดเย็บจากยุโรปไม่ว่าจะเป็น Crockett & Jones, Carmina Shoemaker หรือ Alden จากฝั่งอเมริกาก็ไม่หวั่น แม้แต่เว็บไซต์ Shoesnobblog ซึ่งเป็นเว็บรีวิวรองเท้าหนังชื่อดังระดับนานาชาติ ยังกล่าวชมอยู่หลายครั้งถึงคุณภาพและงานฝีมือของรองเท้าจาก Fugashin
Lazy Man ของ Fugashin คู่นี้ทำออกมาในรูปแบบของ “Half Brogues” คือมีลายฉลุที่ตัวรองเท้าแบบไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ทั้งนี้เพื่อให้ลวดลายฉลุกลมกลืนกับรายละเอียดริ้วหนังตรงส่วนยางยืด ไม่ให้ริ้วหนังโดดเด่นออกมามากเกินไปนัก Fugashin เลือกใช้หนังสีน้ำตาลเข้มแบบ Classic และใช้หนังวัวคุณภาพดีจาก ‘Tanneries du Puy’ (ตองเนอครี ดู ปุย) ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นโรงงานผลิตหนังในเครือของ Hermès แบรนด์เครื่องหนังชื่อดังระดับโลกอีกแบรนด์หนึ่งที่เรารู้จักกันดี แม้แต่รองเท้าหนังระดับ top อย่าง JM Weston ก็ใช้หนังวัวจาก Tanneries du Puy แห่งนี้เช่นเดียวกัน
ลวดลายฉลุแบบ Half Brogue ที่ถือว่ากำลังดี และไม่มากไม่น้อยจนเกินไป
หนังดีระดับโลก กับ Last รองเท้าระดับ High end ที่ “หัวไม่เชิด” ให้เสียทรง และสามารถต่อกรกับแบรนด์รองเท้าหนังชื่อดังระดับอินเตอร์ได้แทบทุกยี่ห้อ เท่านั้นไม่พอ รองเท้าคู่นี้ยังเย็บพื้นด้วยรูปแบบของ Goodyear Welted ซึ่งเป็นการเย็บพื้นรองเท้าที่มีขั้นตอนสลับซับซ้อนกว่าการเย็บปกติ ต้องอาศัยความประณีตในการเย็บด้วยมือ และมีความทนทานสูง สามารถที่จะ Resole หรือเปลี่ยนพื้นรองเท้าใหม่ได้อีกหลายครั้ง ทำให้มั่นใจได้ว่ารองเท้าสุดงามคู่นี้จะอยู่ให้เราใช้งานไปได้อีกเป็น 10 ปีเลยทีเดียว
ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ ‘Formal’ สุภาพและเป็นทางการ ผสมผสานวิธีการใส่แบบ “ยัดเท้า” หรือ Slip-on ที่เราเชื่อว่าจะถูกจริตผู้ชายไทยมากกว่าแน่นอน คุณสมบัติที่บอกมาทั้งหมด กับสนนราคา “ไม่ถึงหมื่น” ทำให้รองเท้า Fugashin “Lazyman” เป็นรองเท้าที่ MenDetails อยากจะขอ Highly Recommend ให้กับสุภาพบุรุษชาวไทยทุกคนได้รู้จัก แทนที่จะต้องเสียเงินมากกว่านี้แบบ “คูณสอง” เพื่อซื้อรองเท้าหนังแบรนด์ดังๆจากอังกฤษหรืออเมริกาที่มีคุณภาพใกล้เคียงกันครับ เราสามารถใส่รองเท้า Lazyman Half Brogue คู่นี้เข้ากับชุดสูทในงานที่เป็นทางการระดับหรู เช่นงานแต่งงานในโรงแรม หรืองานเลี้ยงสังสรรค์แบบเป็นทางการ หรือแม้แต่ใส่กับกางเกงยีนส์ Raw Denim สีเข้มในวันที่อยากจะเท่แบบเนี้ยบๆ ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ
ใครสนใจรองเท้าจาก Fugashin Shoemaker สามารถไปดูตัวจริงได้ที่ The Decorum ซอยอารีย์สัมพันธ์ 5 ที่รวบรวมเครื่องแต่งกายชั้นดีของสุภาพบุรุษจากทุกมุมโลก นอกจาก Lazyman แล้ว ทาง The Decorum ยังมีทั้งรองเท้า Captoe Oxfords ทั้งแบบสีดำสุดคลาสสิค และแบบหนังกลับเก๋ไก๋สำหรับใส่กับลุคที่ Casual มากขึ้น ยังมี Tassel Loafers, Balmoral Oxfords รวมทั้ง Double-Monk Strap Shoes ที่สวยไม่แพ้กัน เอาเป็นว่าแค่แวะไปดูเปิดหูเปิดตาก็คุ้มแล้วล่ะครับ เพราะรับรองว่าคุณไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ในเมืองไทยมาก่อนแน่นอน
Lazy Man สีน้ำตาลเข้ม, Balmoral Oxfords สี Oxblood และ Double Monk Strap จาก Fugashin Shoemaker ทั้งหมดนี้มีจำหน่ายที่ The Decorum ซอยอารีย์สัมพันธ์ 5
ร้าน The Decorum ตั้งอยู่ที่ซอยอารีย์สัมพันธ์ 5 เป็นร้านที่ผู้ชายสาย Classic formal wear ทุกๆคนควรรู้จัก