ตั้งแต่ที่ MenDetails ค่อย ๆ ถอยห่างออกจากกระแสการใส่กางเกงยีนส์แนวเข้ารูปหรือ skinny jeans เมื่อราว 1-2 ปีที่ผ่านมา ทำให้เราได้พบว่าการใส่ยีนส์ทรงคลาสสิค หรือทรงตรง (Straight) นอกจากจะใส่สบายกว่าแล้ว ยังมีสไตล์ที่เข้ากันได้ดีกับการแต่งกายแนว Classic Menswear ชิ้นอื่น ๆ ได้อย่างกลมกลืนละมุนละไม แต่การถอยห่าง Skinny Jeans ของเรานั้น หมายความว่าเราต้องทำตัวห่างเหินกับแบรนด์กางเกงยีนส์ชั้นแนวหน้าของโลกบางแบรนด์ไปอย่างน่าเสียดายโดยที่เราเองแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป
‘G-Star RAW’ แจ้งเกิดในยุโรปด้วยแรงบันดาลใจจากสไตล์อเมริกัน
หนึ่งในแบรนด์ที่เราหมายถึง และ “คิดถึง” นั่นก็คือ G-Star RAW ซึ่งถือเป็นแบรนด์ขวัญใจผู้ชายที่ชอบแต่งกายในสไตล์ “แฟชั่นนิยม” แบบถึงแก่น G-Star RAW ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1989 ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยคุณ Jos van Tilburg โดยแรกสุดใช้ชื่อแบรนด์ของตัวเองว่า Gap Star ต่อมาจึงย่อเหลือเพียง G-Star และนำเสนอสินค้าเกี่ยวกับผ้ายีนส์ที่น่าสนใจ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องแต่งกายของกองทัพทหารและคนทำงานในวัฒนธรรมจากฟากฝั่งอเมริกา ต่อมาในปี ค.ศ. 1996 ทาง G-Star ก็ได้เปิดตัวกางเกงที่ทำจาก “ผ้ายีนส์ดิบ” (Raw Denim) และเพื่อเน้นย้ำถึงความพิเศษของความดิบในผ้ายีนส์ ทาง G-Star จึงเติมคำว่า RAW ต่อท้าย จนกลายเป็นชื่อเต็มว่า G-Star RAW มาจนถึงปัจจุบันนี้
ความโด่งดังของ G-Star RAW กว้างไกลไปทั่วโลกด้วยกระแสของกางเกงยีนส์ทรง Slim และ Skinny ที่ได้รับความนิยมถึงขีดสุดในช่วงนั้น G-Star RAW แผ่ขยายอาณาจักรจนกลายเป็นแบรนด์กางเกงยีนส์อันดับหนึ่งในยุโรป และยังกระโดดข้ามไปยังฝั่งอเมริกาที่ทาง G-Star RAW เองก็ได้รับตอบรับที่ดีจนศิลปินดังอย่าง Pharrel Williams ทุ่มเงินลงทุนเพื่อมาเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของแบรนด์ G-Star RAW ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014 เป็นต้นมา
สไตล์ที่เปิดกว้าง กับการค้นหาความดั้งเดิมของ “กางเกงยีนส์”
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคำว่า “ยีนส์ผ้าดิบ” ดูจะจางหายไปจากทัศนวิสัยของแบรนด์ G-Star RAW อีกทั้งยังมีความพยายามที่จะบิดความหมายของคำว่า ‘RAW’ ให้หนีออกจากความหมายว่า “ยีนส์ผ้าดิบ” ให้เห็นอยู่เนือง ๆ ซึ่งความจริงก็เป็นที่เข้าใจได้ เนื่องจากแบรนด์มีการขยายตัวมากขึ้น จนถึงจุดที่ไม่สามารถทำอะไรตามใจอารมณ์ศิลปินของตัวเองได้สะดวกโยธินนัก กอปรกับกระแสกางเกงยีนส์ทรง Slim และ Skinny ที่ก่อตัวขึ้นอย่างมหึมาในช่วงเวลาเดียวกัน G-Star RAW จึงหันไปพัฒนากางเกงยีนส์ที่ไฮเทคมากขึ้นด้วยการนำเทคโนโลยีจำลองทรงกางเกงแบบสามมิติ หรือ 3D มาเสริมให้กางเกงยีนส์ทรง Skinny ของตัวเอง “เข้าขา” และใส่สบายมากขึ้นกว่าเดิม
– กางเกงยีนส์ G-Star RAW ที่เติมลูกเล่น ใส่เทคโนโลยี 3D และ Treat ผ้า ตาม Street Fashion ที่หมุนเร็วปานสายฟ้า –
แต่อาจเป็นเพราะกระแสแฟชั่นที่มี “วัฏจักร” กางเกงยีนส์ผ้าดิบที่เปรียบเสมือน “ของดั้งเดิม” สำหรับยีนส์เริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง พร้อม ๆ กับทรงของกางเกงที่เขยิบออกจาก Skinny มากขึ้นเรื่อย ๆ ตามรสนิยมเรื่องสไตล์ที่หมุนวน และในบ่ายวันหนึ่งที่ทีมงาน MenDetails เดินผ่านหน้าร้านของ G-Star RAW ซึ่งเราเองไม่ได้เข้าไปเยี่ยมเยือนมานานมากแล้ว สายตาของเราได้ไปปะทะกับกางเกงยีนส์ตัวหนึ่งที่แปลกแตกต่างจากผลิตภัณฑ์อีก 90% ภายในร้าน กางเกงยีนส์ผ้าดิบสีเข้มที่มีชื่อรุ่นว่า Morry ตัวนี้ดึงดูดความสนใจให้เราขอลองสวมใส่และกลายมาเป็นบทความชิ้นนี้ในที่สุด
การกลับสู่ “ผ้าดิบ” ให้สมกับนามสกุล “RAW” ที่ห้อยท้ายอยู่ด้านหลังชื่อ G-Star (เสียที) จึงเป็นนิมิตหมายที่เราไม่ได้คาดคิดว่าจะกลับมาพบเห็นอีกครั้งจากแบรนด์ที่โด่งดังในกระแสแฟชั่นระดับโลกเช่นนี้ ถึงแม้ว่ากางเกงยีนส์รุ่นนี้เป็นเพียงรุ่นจำกัดจำนวน หรือ Limited Edition ที่จะมีวางขายเพียงแค่เวลาไม่นาน แต่ MenDetails เชื่อว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะกลับมาจับตามองแบรนด์ Fashionable Jeans อย่าง G-Star RAW ใหม่อีกครั้ง ว่าที่จริงเขาเองก็มี “ตัวโหด” แฝงกายอยู่ภายใน รอให้เราไปค้นพบอยู่ด้วยเช่นกัน
รีวิว ยีนส์ G-Star RAW ‘Morry’ 13 oz. ผ้าริมญี่ปุ่น เอวสูง
สำหรับกางเกงยีนส์ตัวนี้ที่เราหยิบมาให้ทุกท่านได้ดูกันนั้น ผลิตด้วยผ้า Japanese Stretch Selvedge Denim ริมแดง หนัก 13oz ซึ่งทอด้วยเครื่องทอโบราณหน้าแคบ Antique Loom ทำให้ได้ริมที่สวย โครงสร้างผ้าแบบ 3×1 อธิบายพอสังเขปก็คือ ตัวผ้าจะทอด้วยการยกด้ายยืนทุก ๆ 3 เส้นแล้วจึงสอดด้ายพุ่งเพื่อขัดกันแล้วขึ้นเป็นโครงสร้างผ้า (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในลิงค์) ตัวผ้านั้นเป็นผ้าดิบแบบ Stretch Denim ทอขึ้นด้วยส่วนผสม Cotton 98% และ Lycra 2% เพื่อความสบายในการใส่ และความยืดหยุ่นสำหรับการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน
ตัวผ้านั้นไม่ได้มีพื้นผิวขรุขระ หรือ “ฟู” แบบที่เรียกว่า Slub หรือ Nep แต่ลวดลายโดยรวมนั้น ถือว่าไม่แพ้แบรนด์ผ้าดิบโหด ๆ ในท้องตลาดแน่นอน ผ้าดิบทอแบบ Right Hand Twill จะเห็นเป็นแนวผ้าพาดเฉียงลงจากซ้ายไปขวา ปลายขาเย็บแบบลูกโซ่ (Chain Stitch) เพื่อให้ได้ Effect หรือรอยเฝดปลายขาแบบกางเกงยีนส์วินเทจยุคเก่าเมื่อผ่านการใช้งานอย่างต่อเนื่องยาวนาน นอกจากนี้เนื้อผ้าของ G-Star RAW ‘Morry’ ผ่านกระบวนการป้องกันการหด (Sanforized) มาเรียบร้อยแล้ว จึงสามารถใส่ได้ทันทีไม่ต้องแช่ และไม่ต้องลุ้นเรื่องหดให้เสียวเล่นครับ
ทรงโดยรวมจะค่อนข้างสอบเข้าที่ปลายขา แบบ Tapered fit หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ทรงแครอท” (Carrot Shape) โดยจะมีช่วงต้นขาและสะโพกที่ใหญ่พอสมควร จากนั้นทรงกางเกงจะค่อย ๆ เล็กลงเรื่อย ๆ จนถึงปลายขา ซึ่งถือเป็นทรงที่คนไทยส่วนมากชื่นชอบ และ G-Star RAW ก็วางน้ำหนักของการ Taper ลงมาได้สมดุลทีเดียว แต่ที่ทำให้กางเกงตัวนี้น่าสนใจขึ้นไปอีกก็คือ Front Rise หรือความสูงของเป้าหน้าที่ทางแบรนด์ G-Star RAW จัดให้รุ่น Morry มีเป้าหน้าและเอวที่สูงกว่ารุ่นอื่น ๆ พอสมควรเลยครับ เมื่อใส่แล้วขอบกางเกงแตะที่ระดับใต้แนวสะดือของทีมงาน MenDetails แบบพอดี ๆ ถือเป็นระดับที่ถูกใจคนชอบใส่กางเกงยีนส์เอวสูงเพื่อให้รูปร่างดูเพรียวและสูงขึ้นแน่นอน
รอยเย็บ 3D Articulated หลังเข่า และกระเป๋า Coin Pocket เป็นลูกเล่นระดับกำลังดี ของ G-Star RAW ‘Morry’
หากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าทางแบรนด์ได้ตัดช่วงหลังเขาเป็นแบบ Articulated เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว ถือเป็นจุดที่ตัดเย็บได้ยากโดยแบรนด์ส่วนใหญ่มักตัดโชว์ไว้ที่ด้านหน้า แต่ G-Star RAW เลือกใช้เทคโนโลยี 3D และซ่อนรอยเย็บนี้ไว้ที่หลังเข่า เพื่อให้ด้านหน้าดูเรียบ และทำให้ใช้งานกางเกงยีนส์ตัวนี้ได้หลากหลายมากขึ้น แต่เส้น 3D Articulated หลังเข่านี่แหละที่กลายมาเป็นจุดสังเกต เพราะมันมีส่วนไปดึงให้ผ้าช่วงสะโพกด้านบนโค้งตัวมากขึ้น ทำให้เมื่อมองจากด้านหน้าอาจดูเหมือนมีต้นขาที่ใหญ่กว่าปกติบ้างเล็กน้อย ส่วนความยาวของขากางเกงด้านใน (Inseam) นั้นถือว่ากำหนดมาแบบพอดีมาตรฐานชายไทยครับ ประมาณว่า ซื้อจากร้านแล้ว ไม่ต้องตัดขาเพิ่มอีกเลย สามารถใส่ได้ทันที ซึ่งความยาวพอดี ๆ ก็เหมาะกับการใช้งาน ทั้ง 2 Looks ที่เราจะพูดถึงในหัวข้อต่อไป
Styling your G-Star RAW ‘Morry’
เนื่องจากกางเกงยีนส์ G-Star RAW ‘Morry’ เป็นกางเกงทรงคลาสสิคซึ่งแตกต่างจากอีก 90% ของกางเกงยีนส์ในตระกูล G-Star RAW ที่มักจะเน้นทรงเข้ารูปหรือ “รัดรูป” แทบจะเป็นเนื้อเดียวกันกับขาของผู้ชายที่สวมใส่ เราจึงสามารถสร้างสไตล์ที่มีส่วนผสมทั้งความดิบของผ้ายีนส์ กับความสมบุกสมบันของกลิ่นอายเครื่องแบบทหาร เสื้อแจ็กเก็ตสีเขียวทหารเข้ารูปแบบ Classic Fit สวมทับเสื้อยืดสีขาวสะอาดตา ท่อนล่างใส่เป็นกางเกงยีนส์ G-Star RAW ‘Morry’ สีน้ำเงินเข้ม พับขาเพื่อโชว์ริมผ้า และตบท้ายด้วยรองเท้า Sneakers สีขาวเพื่อสร้างแนวสายตาที่ต่อเนื่องจากสีของเสื้อยืด เป็นสไตล์ลำลองเท่ ๆ ที่วางน้ำหนักท่อนบนและท่องล่างให้สอดรับกัน ไม่มีช่วงใดใหญ่หรือเล็กเกินไป
แต่สไตล์ที่ MenDetails เชื่อว่าจะต้องเป็นแนวที่คุณไม่คาดคิดว่าจะเห็นจากกางเกงยีนส์แบรนด์ G-Star RAW นั่นคือการสวมใส่กับเสื้อสูทสีน้ำตาลที่ตัดกับสีน้ำเงินเข้มของ G-Star RAW ‘Morry’ ได้พอดิบพอดี ภายในเปลี่ยนจากเสื้อยืดคอกลม เป็นเสื้อโปโลสีขาวปกโค้งสวยรับกับปกของเสื้อสูท เราเลือกเสื้อโปโลแทนเสื้อเชิ้ตเพื่อช่วยดึงความสุภาพของเสื้อสูทให้ลดลง เป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างความดิบของ Morry กับความเนี้ยบของเสื้อสูทสีน้ำตาลให้ผสานกันได้อย่างลงตัว และอย่าลืมรองเท้า Tassel Loafers หนังสะโพกม้า Shell Cordovan สี Color#8 จากสหรัฐอเมริกา เพื่อให้สอดรับกับสไตล์อเมริกันที่ฝังตัวอยู่ในแบรนด์ G-Star RAW แบรนด์นี้นั่นเอง
ทั้งหมดนี้คือ รีวิว ยีนส์ G-Star RAW รุ่น Morry ผ้าริมญี่ปุ่นน้ำหนัก 13 oz. รุ่นพิเศษ ที่เป็นแบบ Limited Edition มีจำนวนจำกัด และจะมีวางขายที่สาขา Central Embassy , Central Chidlom และ [email protected] หากคุณสนใจก็ไม่ต้องไปเดินหาที่สาขาอื่นของ G-Star RAW ให้เสียเวลา และด้วยราคาตัวละ 7,900 บาท กางเกงยีนส์ G-Star RAW รุ่น Morry
เป็นกางเกงยีนส์ผ้าริม (Selvedge) ที่เป็นผ้าดิบจากญี่ปุ่น (Japanese Raw Denim) เอวไม่ต่ำ (Regular Rise) ที่ราคาดีที่สุดในท้องตลาดปัจจุบัน รีบหน่อย เพราะถ้าช้าหมด ไม่รู้จะมีมาเติมอีกไหมนะครับ หรือสามารถไลน์เข้าไปถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
LINE@ ID : @g-starraw_ce ได้เลยครับ