ช่วงเดือนกันยา – ตุลา ของแต่ละปีในไทย จะมีเทศกาลหนึ่งที่ชุมชนชาวจีนทั่วไทยต่างจัดกันอย่างยิ่งใหญ่นั่นคือ เทศกาลกินเจครับ เป็นช่วงเวลา 9 วัน โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึงวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนของทุกปี ในช่วงเวลานี้เราก็จะเห็นธงเหลืองประดับตามหลาย ๆ ร้าน และใครที่ไม่กินเจก็อาจจะหาอาหารที่ไม่เจยากสักหน่อย แต่ทุกท่านเคยสงสัยไหมครับว่า ประเทศจีนที่เราเชื่อว่าเรารับวัฒนธรรมการกินเจมา จริง ๆ แล้ว คนจีนกินเจไหม เพราะเราก็ไม่เคยเห็นประเทศจีน และประเทศอื่น ๆ มีเทศกาลกินเจแบบบ้านเราเลย นั่นก็เพราะการกินเจ หากมองในแง่ประวัติศาสตร์แล้ว มีอิทธิพลมาจากจีนแต่ไม่ใช่วัฒนธรรมจีนครับ
ในบทความนี้ MenDetails จึงไปหาคำตอบคร่าว ๆ มาอธิบายให้ทุกท่านทราบกันครับว่า จริง ๆ แล้วการกินเจมาจากไหน และ ทำไมคนจีนถึงไม่มีเทศกาลกินเจ
ตกลง คนจีนกินเจไหม ?
จริงอยู่ที่การกินเจนั้นเป็นอิทธิพลทางวัฒนธรรมที่ประเทศไทยและลูกหลานชาวจีนในไทยได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ แต่อย่าลืมนะครับว่าประเทศจีนมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลเพียงใด มีเขตการปกครอง มีภูมิภาคย่อยมากมาย และแต่ละที่ก็มีพื้นเพทางวัฒนธรรม ความเชื่อ และประวัติศาสตร์ที่ต่างกัน ส่งผลต่อวัฒนธรรม ประเพณี ภาษา ไปจนถึงการกินอยู่ และการกินเจนั้น ไม่ใช่วัฒนธรรมที่คนจีนทั้งประเทศมี
การกินเจในจีนถึงเป็นเรื่องที่อยู่ในระดับภูมิภาคเสียมากกว่า และในอดีตก็ไม่ใช่เทศกาลอะไรที่ต้องเฉลิมฉลองกันใหญ่โต โดยมณฑลที่มีการกินเจคือ มณฑลฟูเจี้ยน หรือ ฮกเกี้ยน เป็นมณฑลที่มีอาณาเขตติดทะเล และเป็นคนจากมณฑลนี้เองที่หอบเสื่อผืนหมอนใบมาจากบ้านเกิดของตัวเองในจีนเพื่อมาตั้งรกรากอยู่ตามประเทศต่าง ๆ ทั้ง มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไทย โดยในไทย ภูมิภาคที่ได้รับอิทธิพลของชาวฮกเกี้ยนมากที่สุดก็หนีไม่พ้นทางภาคใต้ โดยเฉพาะภูเก็ตครับ แล้วพอมาถึงแถบทางใต้บ้านเรา ก็ยังเกิดการผสมผสานวัฒนธรรมกลายเป็นวัฒนธรรมที่เรียกว่า “เปอรานากัน” ไปอีก เป็นชาวจีนที่มีเชื้อมลายูด้วย และกินเจเองก็เป็นการผสมผสานกันไปกันมาของวัฒนธรรมจีนกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนานี่แหละครับ
ทำให้การกินเจเป็นวัฒนธรรมที่ค่อย ๆ ถูกปรับเปลี่ยนไปจากตัววัฒนธรรมดั้งเดิม จนกลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ของตัวเองที่เข้ากับบริบทท้องถิ่นนั้น ๆ เป็นเหตุผลว่าทำไมคนจีนถึงไม่รู้จัก และไม่มีเทศกาลกินเจอะไรทั้งนั้น
ความเชื่อและตำนานตั้งต้นของการกินเจ
เราเขียนไปในหัวข้อที่แล้วว่าชาวจีนฮกเกี้ยนมีการกินเจก็จริง แต่การกินเจของเขาก็ไม่ได้เหมือนกับการกินเจของไทยเรานะครับ แม้แต่ชื่อเรียกเองก็ไม่เหมือน เพราะทางนั้นดั้งเดิมเป็นพิธีความเชื่อของลัทธิเต๋า เรียกว่า เทศกาลเฉลิมฉลองของพระราชาธิราชทั้ง 9 (Nine Emperor Gods Festival) ตามเทพแห่งดวงดาวทั้ง 9 ของจีนในยุคต่าง ๆ ที่จะอัญเชิญมาในช่วงกินเจ ในปัจจุบันยังพบพอเห็นได้อยู่บ้าง แม้จะมีให้เห็นไม่มากนัก
แต่เรื่องเล่า ตำนานของการกินเจแบบในปัจจุบันกลับไม่ได้มีแค่เรื่องเดียว เพราะมันมีการเล่าในรูปแบบต่าง ๆ ที่ต่างกันไป เช่น เรื่องหนึ่งบอกว่า หลังการเข้ามาของศาสนาพุทธในจีน ทำให้มีการนำมาผูกกับพระพุทธเจ้า 7 พระองค์และพระโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์แทน หรือจะเป็นเรื่องเล่าที่อิงเหตุผลทางประวัติศาสตร์ ย้อนไปถึงยุคของจักรพรรดิซ้งตี่ปิ้ง (12 กุมภาพันธ์ 1272 – 19 มีนาคม 1279) จักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์ซ้อง และการกินเจเป็นการระลึกถึงราชวงศ์ซ้องของชาวฮกเกี้ยนที่เป็นดินแดนสุดท้ายของราชวงศ์ซ้อง ไม่ก็เป็นการรำลึกถึงเหล่านักรบชาวบ้านต้องการโค่นล้มราชวงศ์ชิงของชาวแมนจู และกอบกู้ราชวงศ์หมิงเมื่อหลายร้อยปีก่อน ไปจนถึงเรื่องเล่าปรัมปราที่หาที่มาไม่ได้
การกินเจในประเทศไทย
ไม่ว่าที่มาของมันจะเป็นอย่างไร ประเพณีการกินเจก็ได้ออกเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาพร้อมกับชาวจีนฮกเกี้ยนที่อพยพไปตั้งรกรากที่ประเทศอื่น ๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ และชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
ในขณะที่จีนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และเข้าสู่ยุคใหม่ มีการปฏิวัติวัฒนธรรม ทำให้มีข้อมูลและหลักฐานทางประวัติศาสตร์บางอย่างที่เกี่ยวกับประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิมหายไป ส่วนประเทศอื่น ๆ ที่ชาวจีนฮกเกี้ยนไปตั้งรกราก บ้างก็ถูกปกครองเป็นเมืองขึ้นทำให้ประเพณีและความเชื่อดั้งเดิมบางอย่างหายไป และถูกพัฒนาให้เป็นแบบธรรมเนียมตะวันตกมากขึ้น บ้างก็เป็นประเทศที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธเป็นหลัก ก็เห็นจะมีแต่ไทยที่คนนับถือพุทธจำนวนมาก และไม่ได้เป็นเมืองขึ้นประเทศตะวันตกแม้จะมีการรับวัฒนธรรมมา ทำให้ประเทศไทยเป็นเบ้าหลอมชั้นดีที่ทำให้การกินเจถูกพัฒนาต่อยอดมาจนถึงปัจจุบัน และมันก็แพร่ไปในหมู่คนเชื้อสายจีนทั่วประเทศ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมประเพณีไทยไปแล้ว ไม่ว่าจะนับถือพุทธหรือไม่ หรือมีเชื้อสายจีนหรือไม่ ใคร ๆ ก็สามารถกินเจได้ถ้าต้องการ
ในไทยนอกจากย่านเยาวราชที่เป็นหนึ่งในย่านที่จัดงานกินเจ (และงานเกี่ยวกับความเชื่อชาวจีน) ออกมาได้ยิ่งใหญ่ คึกคัก ดึงดูดทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ จังหวัดภูเก็ตครับ ที่มีงานเทศกาลกินเจอันเป็นเอกลักษณ์จนเป็นงานประจำจังหวัด มีกิจกรรมและพิธีต่าง ๆ ที่หลายอันค่อนข้างน่าหวาดเสียว แต่ก็เป็นงานขึ้นชื่อที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อยเช่นกันครับ
หวังว่านี่น่าจะพอไขข้อข้องใจแบบคร่าว ๆ ให้คนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้พอเข้าใจว่าการกินเจมาจากไหน และทำไมคนจีนถึงไม่รู้จักการกินเจทั้ง ๆ ที่เราก็รับวัฒนธรรมมาจากจีนได้นะครับ