สำหรับวงการแฟชั่นในปีนี้ ส่งท้ายปี 2021 ด้วยข่าวการจากไปของหนึ่งในผู้มีอิทธิพลในวงการแฟชั่นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้อย่าง Virgil Abloh ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Off-White และ Artistic Director ของกลุ่มเสื้อผ้าผู้ชายแบรนด์ Louis Vuitton ที่มีข่าวการเสียชีวิตในวันที่ 29 พฤศจิกายน จากโรคมะเร็งในวัย 41 ปี หลังจากที่ต่อสู้มานานหลายปี สร้างความเสียใจและความช็อกกับคนในแวดวงแฟชั่นอย่างมาก
MenDetails ขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียคนสำคัญในวงการแฟชั่นครั้งนี้เช่นกัน เพราะชายคนนี้ถือเป็นคนที่สั่นสะเทือนวงการแฟชั่นยุคปัจจุบัน จึงเป็นที่มาของบทความนี้ เพื่อเป็นการ “คารวะ” ชายคนนี้ ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวของเขาให้ทุกท่านได้รู้จักเส้นทางคร่าว ๆ กว่าจะมาถึงจุดที่เขายืนอยู่ รวมถึงสิ่งที่เขาได้สร้างเอาไว้ที่มากกว่าแค่เรื่องแฟชั่นและศิลปะ แต่เป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคน ว่าแล้วเราก็มารู้จักชายที่ชื่อ Virgil Abloh กันครับ
Virgil Abloh จากนักเรียนวิศวะ สู่การโดดเข้ามาในวงการแฟชั่น
เวอร์จิล แอบโลห์ เป็นลูกชายของผู้อพยพชาวกาน่า เกิดวันที่ 30 กันยายน 1980 ในเมือง Rockford รัฐ Illinois เขาเติบโตมากับวัฒนธรรม Street ทั้งเพลง Hip – hop วัฒนธรรมสเกตบอร์ด ไปจนถึงแบรนด์ Supreme ที่วัยรุ่นยุคนั้นชื่นชอบ นอกจากนี้เขาเองยังลองทำเสื้อด้วยการเอาโลโก้หรือรูปมาเย็บลงไปบนเสื้อ ด้วยความช่วยเหลือจากแม่ที่เป็นช่างเย็บผ้าด้วย ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่หล่อหลอมให้เวอร์จิล แอบโลห์เติบโตขึ้นมาพร้อมกับแนวความคิดที่เขาหยิบมาใช้ในการออกแบบผลงานในยุคหลัง
ก่อนจะมาโด่งดังในวงการแฟชั่น ตัวตนของเวอร์จิล แอบโลห์ช่างดูห่างไกลกับโลกแฟชั่นเหลือเกิน เพราะเขาเรียนจบปริญญาตรีด้านวิศกรรมโยธาจาก University of Wisconsin-Madison และปริญญาโทด้านสถาปัตยกรรมจาก Illinois Institute of Technology แต่ในช่วงชีวิตมหาวิทยาลัยนี้เขาก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในด้านศิลปะและแฟชั่น ทั้งการเป็นดีเจ การได้เห็นผลงานดีไซน์ของ Rem Koolhaas ที่มีความสวยงาม ทำให้เขาสนใจเรื่องแฟชั่น ไปจนถึงเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องแฟชั่นและการออกแบบในบล็อกออนไลน์
การเริ่มเข้ามาสู่วงการแฟชั่นของเวอร์จิล แอบโลห์ เริ่มต้นจากการได้เจอกับแรปเปอร์ชื่อดัง Kanye West (ที่ปัจจุบันใช้ชื่อ Ye แทนแล้ว) ในการทำงานออกแบบงานหนึ่ง ก่อนที่จะไปฝึกงานที่ห้องเสื้อ Fendi แบรนด์เสื้อผ้าดังของอิตาลีด้วยกัน เขายังร่วมมือกับ Don C ผู้จัดการของ Kanye เปิดร้านขายเสื้อผ้าชื่อ RSVP Gallery ในเมือง Chicago และต่อมาก็ถูกชักชวนไปทำงานให้กับ Kanye ในฐานะ creative director ใน creative agency ของ Kanye ที่ชื่อ Donda
ในปี 2011 เขารับหน้าที่ Artistic Director ของอัลบั้ม Watch the Throne ของ Kanye กับ Jay-Z และมันส่งให้เขาเข้าชิงรางวัล Grammy สาขา Best Packaging จากการออกแบบภาพปก และในปี 2012 เขาก่อตั้งแบรนด์ Pyrex Vision ขึ้น มีผลงานสุดแสบอย่างการไปซื้อเสื้อผ้า deadstock จาก Ralph Lauren ในราคา $40 นำมาสกรีนลายแล้วขายใหม่ในราคา $550 แต่ก็ปิดตัวลงในปีต่อมา เพราะเขาตั้งใจให้มันเป็นเพียงการทดลองทางศิลปะมากกว่าที่จะทำมันในเชิงพาณิชย์ แต่กลายเป็นว่าเสื้อผ้าเซ็ตนั้นของเขากลับกลายเป็นของหายากที่หลายคนอยากได้มาครอบครอง
Off-White ถึง Louis Vuitton ความสำเร็จที่สะเทือนวงการแฟชั่น
ในปี 2013 เวอร์จิล แอบโลห์ ก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้าที่หลายคนรู้จักกันดีอย่าง Off-White ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่มิลาน ด้วยความตั้งใจจะให้มันเป็นแบรนด์ Streetwear แบบ High-end จากที่ใครหลายคนมักมองว่า Streetwear กับความ High-end ไปด้วยกันไม่ได้
การเกิดขึ้นของ Off-White ทำให้เวอร์จิล แอบโลห์เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น จากการที่เขานำเสื้อผ้า Streetwear ที่เห็นได้ทั่ว ๆ ไปมาออกแบบใหม่เล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วผลิตด้วยวัสดุที่มีคุณภาพระดับ High-end และยังทำการเขย่าวงการแฟชั่นด้วยการนำวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมในวงการมาผสมกับสิ่งใหม่ ๆ อย่างการจัดแฟชั่นโชว์ที่ Paris Fashion week แต่มีการปล่อยสิ่งค้าออกมาในจำนวน Limited และปล่อยแบบรวดเร็ว ซึ่ง Collection ต่าง ๆ ของเขาก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากเหล่าผู้ชื่นชอบ Streetwear และผู้ที่หลงใหลในแฟชั่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็คงไม่ผิดถ้าจะบอกว่าในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้ กระแส Streetwear ที่กลับมาฮิตอีกครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเขาคนนี้
จุดเด่นของ Off-White อีกอย่าง คือ การที่แบรนด์จะไปทำ collaborations กับแบรนด์อื่น ๆ มากมายไล่ตั้งแต่แบรนด์ที่ขายเสื้อผ้าและรองเท้า เช่น Levi’s, Nike แบรนด์ที่ไม่ได้เกี่ยวกับเสื้อผ้า เช่น IKEA ที่ไปออกแบบเฟอร์นิเจอร์, Evian ที่ไปออกแบบลายบนขวดน้ำ ไปจนถึงการ collaborations กับตัวศิลปินโดยตรง โดยเฉพาะ Takashi Murakami ที่เวอร์จิล แอบโลห์ชอบร่วมงานด้วยมาก การไป collaborations กับแบรนด์ต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้เราเห็นถึงความสามารถของเขา นอกจากออกแบบเสื้อผ้าแล้วยังใช้ประสบการณ์ ความสามารถที่เรียนรู้มาในการออกแบบสิ่งอื่น ๆ ได้ด้วย และยังเป็นการเดินเข้าไปในพื้นที่ใหม่ของคนแต่ละกลุ่มให้พวกเขารู้จักกับ Off-White มากขึ้น
หลังจากปั้น Off-White จนโด่งดัง ในปี 2018 เวอร์จิล แอบโลห์ก็ก้าวไปอีกขั้นด้วยการเข้ารับตำแหน่ง Artistic Director ของกลุ่มเสื้อผ้าผู้ชายแบรนด์ Louis Vuitton กลายเป็นผู้ชายที่มีเชื้อสายแอฟริกันคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ และเขาก็ไม่ทำให้วงการแฟชั่นที่จับตาดูเขาอยู่ผิดหวัง ด้วยการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ที่ Louis Vuitton ในการออกแบบและสร้างสรรค์เสื้อผ้าผู้ชายให้ดูมีความวัยรุ่นขึ้น มีกลิ่นอายความเป็น Streetwear มากขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ของ Louis Vuitton ไว้ได้ และการจัด Fashion Show ของเขาก็เป็นที่กล่าวถึงอยู่เสมอ
แม้จะจากไป แต่ผลงานและแรงบันดาลใจยังอยู่
สิ่งหนึ่งที่เวอร์จิล แอบโลห์โดนค่อนขอดเป็นประจำ คือ Concept 3% ที่เขาจะนำสิ่งของต่าง ๆ และผลงาน Iconic มาดัดแปลงใหม่ เพิ่มลูกเล่นใหม่ตามสไตล์เขาเข้าไปเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หลายคนวิจารณ์ว่ามันคือ copy and paste แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในอีกแง่หนึ่งมันก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่หลายคนที่กำลังจะเติบโตเข้ามาแทนที่คนรุ่นก่อนในวงการแฟชั่น ให้เห็นว่าถ้าหากพวกเขามาความคิดสร้างสรรค์ มีสไตล์ที่ชัดเจน ใคร ๆ ก็สามารถออกแบบเสื้อผ้าได้ แถมอาจไม่ต้องเรียนมาทางด้านสายแฟชั่นโดยตรงด้วยซ้ำ ขอแค่มีความสนใจ ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ เมื่อมาผสานกับสิ่งที่ตัวเองสะสมมาก็สามารถสร้างผลงานใหม่ ๆ ได้ เหมือนที่เวอร์จิล แอบโลห์ ก็ยังนำความรู้ที่ใช้ตอนเรียนมหาวิทยาลัยมาช่วยในการทำงานของเขาเสมอ
เวอร์จิล แอบโลห์ยังพยายามผลักดันและแสดงให้เห็นว่าแฟชั่นไม่ใช่เรื่องที่ดูโบราณ แต่คนรุ่นใหม่ก็สนุกสนานกับแฟชั่นได้ จากการที่เขาเชิญนักศึกษามาดูงาน Fashion Show ของเขา รวมไปถึงการไปบรรยายตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพราะเขาเชื่อว่าคนรุ่นใหม่เหล่านี้จะกลายมาเป็นผู้ขับเคลื่อนวงการแฟชั่นต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าได้ด้วยความสามารถที่พวกเขามี รวมถึงความสามารถในการใช้สื่อออนไลน์ต่าง ๆ มาเป็นตัวขับเคลื่อน และเขายังผลักดันเรื่องของ “ความหลากหลาย” ในวงการแฟชั่นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เขาสะท้อนให้เห็นว่าไม่เกี่ยวว่าคุณจะมาจากไหน อายุเท่าไหร่ ผิวสีอะไร เพศอะไร ถ้าคุณรักมัน คุณก็สามารถสร้างความแตกต่างให้ก้าวมาเป็นแถวหน้าของวงการได้
ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ชายชื่อว่าเวอร์จิล แอบโลห์ ฝากเอาไว้ในโลกของแฟชั่นและการออกแบบ มันเป็นมากกว่าผลงานที่ยังคงอยู่ แต่มันคือแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ และทำให้เขาเป็นที่จดจำไปอีกนาน
จากลูกของผู้อพยพ สู่การก้าวมาเป็นผู้มีอิทธิพลแถวหน้าของวงการแฟชั่นที่สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ ฝากผลงานการสร้างสรรค์เอาไว้มากมาย เวอร์จิล แอบโลห์ได้พิสูจน์ฝีมือของตัวเองให้โลกได้เห็นแล้ว แต่น่าเสียดายที่การเดินทางของเขาจะต้องจบลงก่อนเวลาอันควร แต่เชื่อว่าสิ่งที่เขาได้ฝากไว้จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนให้เข้ามาเขย่าวงการแฟชั่นอีกครั้งในอนาคต R.I.P. Virgil Abloh