แฟชั่นและสไตล์ของผู้ชายในปัจจุบันมักได้รับอิทธิพลมาจาก 3 วงการใหญ่ ๆ ได้แก่ กองทัพทหาร (Military Wear), ผู้ใช้แรงงาน (Workwear) และวงการกีฬา (Sportswear) แต่จะมีรองเท้าหนังอยู่ประเภทหนึ่งที่เรียกว่า “แหวกขนบ” ของแฟชั่นผู้ชายทั่วไป เพราะมีที่มามาจากแฟชั่น “นักบวช” วันนี้ MenDetails จะขอหยิบเอา รองเท้า Double Monk Strap มาแนะนำกันโดยมี รองเท้าดับเบิ้ลมั้งค์จาก Berwick 1707 ใน Last 915 มาเป็นนายแบบกิตติมศักดิ์ มาดูกันว่าจากแฟชั่นของพระสงฆ์องค์เจ้าในยุคกลาง กลายเป็นรองเท้า Dress Shoes ของผู้ชายในยุคปัจจุบันจะดูดีและใช้งานได้หลากหลายแค่ไหน
Monk Strap Shoes
คำว่า Monk (มั้งค์) ที่แปลว่าพระหรือนักบวชในที่นี้ มีความหมายที่ “ตรงตัว” นั่นเพราะ รองเท้า Monk Strap (มั้งค์ สแตร็ป) ได้รับอิทธิพลมาจากรองเท้าของนักบวชในยุคกลางของยุโรป (Medieval Age) โดยแรกเริ่มเดิมทีกลุ่มนักบวชเหล่านี้มักจะใส่รองเท้าแตะ (Sandal) ที่เผยให้เห็นเนื้อเท้าและนิ้วเท้าโดยมีเข็มขัด (Strap) รัดที่ตัวรองเท้า ซึ่งข้อเสียของรองเท้าแตะเช่นนี้คือมันไม่ปกป้องเท้าของนักบวชได้ดีเท่าที่ควรเมื่อเวลาออกไปเดินภายนอกวิหารหรือโบสถ์
ต่อมาจึงมีการออกแบบให้รองเท้าโอบหุ้มเท้าของนักบวชได้มิดชิดยิ่งขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์เข็มขัดรัดรองเท้าเอาไว้ตามสไตล์เดิม ด้วยการปกป้องเท้าที่ดีขึ้นนี่เองที่ทำให้รองเท้าหน้าตาแบบนี้มีใช้งานแพร่หลายในกลุ่มนักบวช จนวิวัฒนาการกลายเป็นรองเท้าหนังสไตล์ Monk-Strap ในยุคปัจจุบัน โดยหากมีเข็มขัดเพียงเส้นเดียวเราจะเรียกว่า Single Monk Strap (ซิงเกิ้ล มั้งค์ สแตร็ป) และหากมีเข็มขัดสองเส้น เราก็จะเรียกว่ารองเท้า Double Monk Strap แบบเดียวกับรองเท้าจาก Berwick คู่นี้นี่แหละครับ
รองเท้า Double Monk Strap จาก Berwick
รองเท้าประเภท Monk Strap มีวิวัฒนาการเรื่อยมา จากรองเท้านักบวชที่มีพื้นรองเท้าบางราวกับถุงเท้าหนัง กลายมาเป็นรองเท้าประเภท Dress Shoes ด้วยโครงสร้างการผลิตที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย พื้นหนังบาง ๆ เปลี่ยนแปลงกลายเป็นโครงสร้างรองเท้าสมัยใหม่ อย่างเช่น Goodyear-Welted แบบรองเท้า Double Monk Strap สีดำจาก Berwick คู่นี้ ส่วนการใช้งานก็เปลี่ยนจากวงการ “พระสงฆ์องค์เจ้า” เป็นผู้ชายสมัยใหม่ที่แต่งกายอย่างมีสไตล์เพื่อพัฒนาบุคลิกภาพที่ดีของตัวเอง
รูปทรงของรองเท้าเป็นไปตาม Last 915 หุ่นรองเท้าที่มีประวัติยาวนานจากตระกูลช่างทำรองเท้าชื่อดังของประเทศสเปน ออกแบบด้วยจำนวนสายรัดรองเท้า 2 เส้นตามชื่อ Double Monk Strap ซึ่งเป็นดีไซน์ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในยุคปัจจุบัน หัวรองเท้าที่ลาดลงรวดเร็วของ Last 915 เสริมให้เท้าดูเรียวและจิกลงกับพื้น สวมใส่แล้วดูแล้วเนี้ยบเฉียบจนเราไม่คาดคิดว่ามันจะเคยเป็นรองเท้าของ “พระ” มาก่อนด้วยซ้ำไป
สไตล์การใช้งาน รองเท้า Double Monk Strap
ในความเห็นของ MenDetails นั้นรองเท้า Double Monk Strap ตามสไตล์สมัยใหม่เช่นนี้ถือเป็นรองเท้าที่มีระดับความเป็นทางการอยู่ในจุดกึ่งกลางระหว่างความเนี้ยบของรองเท้าอ๊อกซ์ฟอร์ด (Oxfords) กับความลำลองของโลฟเฟอร์ส (Loafers) เพราะมีความสุภาพเรียบร้อยจากลักษณะชิ้นหนังที่สูงขึ้นมาปิดหลังเท้าจนมิดชิด (High Vamp) แต่ด้วยเอกลักษณ์เข็มขัดโลหะที่ประดับบนรองเท้า จึงทำให้หากวัดกันอย่างตรงไปตรงมารองเท้า Double Monk Strap ไม่ได้เป็นทางการเท่ากับรองเท้าผูกเชือกอย่าง Oxfords
แต่ด้วยการเดินทางสายกลางบนถนนสาย Dress Shoes นี่เอง ที่ทำให้ผู้ชายสามารถใช้งาน Double Monk Strap ได้อย่างหลากหลาย จะใส่กับชุดสูทเต็มยศในการติดต่อธุรกิจ หรือร่วมงานแต่งงานก็ทำได้ หรือจะเป็น สปอร์ตโค้ทสวย ๆ กับกางเกง Dress Trousers ในวันที่ตั้งใจพาสุภาพสตรีไปรับประทานอาหารในร้านดี ๆ ก็เข้าท่า แม้แต่ใส่กับเสื้อเชิ้ตและกางเกงยีนส์ในวันสบาย ๆ ก็ยังไหวครับ
แต่สองข้อที่ควรจำไว้คือ ข้อแรก อย่าเอาไปใส่กับงานที่เป็นทางการสูงมาก เช่น วันรับปริญญากับพระราชวงศ์ หรืองานที่มี Dress Code ระดับ Black Tie ขึ้นไป กับข้อที่ 2 คือ หลีกเลี่ยงการใส่ Double Monk Strap กับ “เสื้อยืดกางเกงขาสั้น” เพราะเป็นการแต่งกายที่ดูลำลองเกินไปสำหรับรองเท้าสไตล์นี้ครับ
“ดับเบิ้ล มั้งค์ สแตร็ป” ถือเป็นรองเท้าสไตล์คลาสสิคที่มีแบรนด์ชื่อดังมากมายผลิตออกวางจำหน่าย ในระดับราคาที่สูงต่ำแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับคุณภาพวัสดุและการตัดเย็บ แบรนด์รองเท้า Made in Spain อย่าง Berwick ก็เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ใส่ใจกับความคลาสสิคของ “ดับเบิ้ล มั้งค์ สแตร็ป” และตัดเย็บ รองเท้า Goodyear-Welted คุณภาพดี บน Last ที่สวยงาม ในสนนราคา 9,600 บาท ซึ่งถือว่าประหยัดมากสำหรับรองเท้าที่ผลิตในประเทศสเปนทั้งหมดเช่นนี้ ใครสนใจไปลองตัวจริงได้ที่ ร้าน Curated & Co. ในสยามสแควร์ ซอย 2 รับรองว่าได้มีโอกาสเก็บรองเท้าDouble Monk Strap มาเป็นอีกหนึ่งคู่เก่งของคุณแน่นอนครับ