นอกจากจะเป็น Rapper ชื่อดังที่เคยสร้างเรื่องราวฉาวที่สุดใน MTV Awards มาแล้ว แต่ในด้านแฟชั่น เขาไม่เป็น 2 รองจากใคร นั่นคือ Kanye West หนึ่งในนักสร้างแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ โดยแบรนด์หลักที่เค้าถือครองมาโดยตลอดคือ Yeezy นั่นเอง หลายคนคงรู้จักกันดีผ่านรองเท้าอย่างรุ่น adidas Yeezy Boost 350 ที่ราคาตอนนี้ก็ไปไกลราว 40,000.- เห็นจะได้ (และน่าจะไปไกลกว่านี้เรื่อยๆ) แต่ทราบกันหรือไม่ว่า West มีประวัติในวงการแฟชั่นมากมาย วันนี้ MDs’ จะมาเล่าให้ฟังกัน
เริ่มต้นผลิตรองเท้าครั้งแรกกับ Nike แต่ไม่ได้ออกแบบครั้งแรกกับ Nike
จุดเริ่มต้นงานออกแบบของ Kanye West ไม่ได้เริ่มต้นกับทีม Design ของ Nike นะครับ แต่จริงๆ แล้วเริ่มต้นกับทาง adidas ก่อนในปี 2006 ซึ่งในปีนั้น Kanye ได้ออกแบบรองเท้าไว้แต่ไม่เคยได้ออกวางขายในตลาดซักที ซึ่ง Nike กลับคว้าตัวเอา Kanye West ไปออกแบบรองเท้าได้ก่อน ซึ่งถือเป็นไลน์รองเท้าครั้งแรกในชีวิตของ Kanye West
ซึ่งระยะเวลาที่เขาอยู่ภายใต้แบรนด์ Nike เจ้าตัวต้องการที่จะสร้างแบรนด์ของตัวเอง สร้างกระแสในวงการ Sneaker แต่ 5 ปีที่อยู่กลับมีโอกาสออกรองเท้าเพียง 3 รุ่นเท่านั้น แต่นั่นก็ทำให้ Kanye สร้างชื่อจนได้มีโอกาสร่วมงานกับ Reebok และ Louis Vuitton จนในปี 2013 ก็ถึงจุดแตกหัก Yeezus ได้เดินจาก Nike แบบไม่หวนกลับ
สาเหตุหลักก็คือช่วงการวางขายรองเท้าที่โด่งดังที่สุดอย่าง “Red Octobers” กับ Nike ทาง Kanye ต้องการสร้างแบรนด์ให้ยิ่งใหญ่ วิ่งไปสู่ตลาด Street Fashion มากยิ่งขึ้น และต้องการส่วนแบ่งมากกว่านี้ ซึ่ง Nike ปฏิเสธ แต่ adidas กลับตอบตกลง ทำให้ Kanye ตัดสินใจได้ไม่ยาก ตามข่าวลือพูดกันว่า Kanye ได้รับเงินจากการเซ็นสัญญากับ adidas กว่า $10 ล้านเหรียญสหรัฐ แถมยังได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งระหว่าง Yeezy และ adidas
เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่กับ Yeezy Season 1 ภายใต้แบรนด์ adidas
หลังจากย้ายบ้านครั้งใหญ่มาอยู่กับทาง adidas ในปี 2013 ทาง Kanye ก็เริ่มต้นออกแบบ Collection ของตัวเองภายในคำว่า Yeezy แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย หลังจากที่เคยร่วมงานการผลิตไลน์เสื้อผ้ากับแบรนด์อย่าง A.P.C. มาก่อนหน้านี้ ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดกว่า 2 ปีกว่าจะได้เปิดตัว Yeezy Season 1
งานเปิดตัว เต็มไปด้วยผู้คนในวงการอย่างเช่น Rihanna, Diddy, Alexander Wang, Cassie, Beyonce, Kim Kardashian, North West และ Anna Wintour ซึ่งทำให้เป็นที่จับตามองอย่างมากในวงการ Street Fashion และในงานนี้ทาง Kanye ก็ได้เปิดตัวเพลงใหม่ที่ใช้เริ่มเปิด Collection อีกด้วย แต่กระแสเสื้อผ้า Yeezy Season 1 กลับไม่เป็นไปอย่างที่คาด บ้างกล่าวว่า Kanye ไม่ได้ออกแบบอะไรใหม่ เพียงแค่หยิบเอาสิ่งที่เค้าชอบมาใส่รวมกันเท่านั้น บวกกับราคาที่แพงจนน่าตกใจ (เช่น กางเกง Worker Pants ขายในราคา 24,000.- หรือเสื้อ Bomber Jacket ที่ขายในราคาราวๆ 101,500.-) ทำให้ขายไม่ดี และยังถูกลดราคาจนถึงทุกวันนี้
ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าจะไม่ได้รับความนิยมเลยก็ตามที แต่รองเท้ากลับเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ Yeezy สร้างชื่อ โดยเฉพาะ Yeezy Boost 350 ที่ไม่ว่าจะวางขายเมื่อไร ก็หมดแทบจะทันทีที่รองเท้าถึงหน้าร้าน ถึงขั้นต้องหากฏเกณฑ์ในการซื้อสินค้าออกมาเพื่อกระจายสินค้าให้กับคนที่อยากได้มากที่สุด (จนโดนกรนด่ากันยกใหญ่ในบ้านเรา) แต่ยอดขายรองเท้าอย่างเดียว ไม่พอกับสิ่งที่ adidas ลงทุนกับ Kanye ทำให้เกิดความสั่นคลอนเล็กน้อยระหว่างธุรกิจ
สถานการณ์ไม่สู้ดีนักกับ Yeezy Season 2 แต่ Season 3 คือเปรี้ยง
เนื่องจากขายเสื้อผ้าไม่ได้ตามเป้า adidas เลยประกาศจะช่วยและสนับสนุกแค่เรื่องรองเท้าเท่านั้น ซึ่งก็ถือเป็นการเดินหมากที่ถูกต้องมากกว่าของ adidas แถมการเปิดตัว Season ที่ 2 ของ Yeezy ก็ไม่ได้มีอะไรที่น่าจดจำซักเท่าไร แต่กลับมาดังระเบิดใน Season ที่ 3 ซึ่งจัดงานเปิดตัวที่ Madison Square Garden และขึ้นชื่อว่าเป็นงานเปิดตัว Collection เสื้อผ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้เลยก็ว่าได้ ถือว่า Kanye West ทำได้สำเร็จหลังจาก Collection ที่ผ่านมาเงียบเหงาเสียเหลือเกิน
ทุกอย่างเริ่มส่อเค้าไปในทางที่ดี แบรนด์ใหญ่อย่าง Puma ก็เริ่มหันมาสนใจในบรรดาญาติพี่น้องของ Kanye West จนเซ็นสัญญากับ Kylie Jenner ได้ในที่สุด
ข่าวลือมากมาย หนึ่งในนั่นคือการหนีไปบ้านใหม่อย่าง Vans
ถือเป็นข่าวลือที่โด่งดังมากช่วงหนึ่ง และสาวกสาย Skateboard ต่างพากันตื่นเต้นเป็นอย่างมาก โดยข่าวลือเกิดขึ้นหลังจากการ Tweet ของ Kanye West เอง และบทเพลงที่เค้าแต่งขึ้นอย่าง “No More Parties In LA” ที่พูดว่า “Some days I’m in my YEEZYs, some days I’m in my Vans.” แถมยัง Tweet ลงใน Twitter ส่วนตัวพร้อมใส่รองเท้า Vans อีกด้วย ทำให้มีกระแสโด่งดังไปทั่ววงการ Sneaker ว่า Kanye West จะหนีไปสบอก Vans จริงหรือไม่ เพราะช่วงปีที่แล้ว Kanye เองใส่รองเท้า Vans หนักมาก ตั้งแต่ Old Skool / Steve Caballero signatures / Two-Tone Slip-On
เราไม่มีทางรู้หรอกครับว่าสิ่งที่ Kanye West ทำมีเหตุผลอะไร ตั้งแต่การย้ายบ้านอีกครั้งของจริง หรือทำให้ adidas หันกลับมาสนใจเขามากยิ่งขึ้น แต่ที่แน่ๆ คือ Kanye สร้างกระแสได้ดีจริงๆ
https://twitter.com/kanyewest/status/690493771213967360
สุดท้ายก็จบลงที่ adidas + Yeezy
สุดท้ายข่าวลือก็เป็นเพียงข่าวลือ เมื่อ adidas ประกาศร่วมงานกับ Yeezus แบบเต็มรูปแบบ โดยจัดทีมงานการตลาดและทีมออกแบบโดยเฉพาะให้กับไลน์การผลิตภายใต้ชื่อ Yeezy เอง (คล้าย Y-3) โดยการประกาศร่วมงานกันครั้งนี้ส่งผลให้ Kanye West เป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่สร้างแรงกระเพื้อมในวงการ Fashion ได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า งานนี้จะมีดีแค่รองเท้าเหมือนแต่ Season ก่อนๆ หรือว่าจะดังเปรี้ยงทั้ง Collection เสื้อผ้าด้วย
อย่างไรก็ดี การร่วมงานของ adidas และ Kanye West ครั้งนี้มีผลอย่างมากในการครองตลาดรองเท้า Sneaker ที่มีการคาดการณ์ออกมาล่วงหน้าก่อนการร่วมงานกันว่า adidas จะครองตลาดรองเท้าผ้าใบโตขึ้นจากปีที่แล้ว 1% แต่พอ Kanye ก้าวเข้ามาปุ๊บ adidas ก็มีรายได้ที่โตขึ้นกว่า 30% ทั่วโลก หรือกว่า 5% ในประเทศสหรัฐอเมริกา (ถือว่าเยอะมากเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ) ซึ่งนั่นหมายความว่า Yeezy กระตุ้นตลาดให้กับ adidas ได้มากมายเหลือเกิน