ทุกคนรู้จักแบรนด์อย่าง Levi’s® เป็นอย่างดีจริงมั้ยครับ? แน่นอน Levi’s® คือบริษัทผู้ผลิตกางเกงยีนส์ตัวแรกของโลก และให้ชื่อกางเกงตัวแรกว่า Waist Overalls และกางเกงรุ่น Iconic ที่สุดจากแบรนด์ Levi’s ก็หนีไม่พ้นกางเกงรุ่น 501® ที่แสนจะขึ้นชื่อว่าเป็นตำนานของกางเกงยีนส์ที่เกิดขึ้นทุกตัวบนโลกใบนี้ โดยเฉพาะฝั่ง LVC หรือ Levi’s Vintage Clothing นั่นเอง (อ่านประวัติ Levi’s Vintage Clothing ได้ที่นี่) และนั่นก็คือสาเหตุที่กางเกงยีนส์เกือบทุกตัวในช่วงปี 60s นั่นจะก๊อปปี้ต้นแบบอย่าง 501® ทางแบรนด์จึงต้องหาวิธีในการแก้ปัญหาดังกล่าว จึงเกิดไลน์สินค้าใหม่ขึ้นอย่าง ‘Levi’s Orange Tab’
ในช่วงที่ทุกคนต่างหันมาสนใจกางเกงยีนส์ในวงการแฟชั่นกันมากขึ้น นอกเหนือจากใส่เพียงเพื่อทำงานเท่านั้น แบรนด์เล็กๆ ต่างๆ ก็เริ่มหันมาผลิตกางเกงยีนส์ออกวางขายในตลาดแฟชั่นมากขึ้น และจะเอาต้นแบบจากไหน ถ้าไม่ใช่จากแบรนด์ต้นกำเนิดอย่าง Levi’s® ทำให้กางเกงยีนส์ที่มีแถบสีแดงที่กระเป๋าหลังข้างขวาถูกผลิตออกมาวางขายกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีคดีฟ้องร้องกันกว่า 100 คดี ในปี 2001
ตัว Levi’s® เองนั้นให้ค่ากับ Red Tab เป็นพิเศษว่า จะต้องผลิตกางเกงยีนส์ที่คุณภาพสูง ใส่ใจในดีเทลทุกจุดโดยไม่มีการประนีประนอมเป็นอันขาด ดังนั้นการขยับตัวเองลงสู่สนามแฟชั่นจึงเป็นเรื่องยาก นอกเสียจากว่าจะผลิตไลน์สินค้าใหม่ นั่นก็คือ Orange Tab ในช่วงปี 1969 โดยทางแบรนด์ตั้งใจผลิตกางเกงให้มีดีไซน์ที่แตกต่าง เช่น กางเกงยีนส์ทรงขาม้า ขากระดิ่ง (ตามแฟชั่นในช่วงยุค Hippie) และเปลี่ยนรูปแบบการเย็บขึ้นรูปให้มีต้นทุนที่ต่ำลง
จุดเด่นของ Orange Tab ก็คือจำนวนหูเข็มขัดที่มีเพียง 7 อัน (จากปกติที่มีอยู่ 5 อันในตัว Red Tab) และกระเป๋าหลังจะเป็นทรงเหลี่ยมปลายแหลม (จากที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมปลายสอบลงใน Red Tab) เพื่อให้ง่ายต่อการทำ Cutting นั่นเอง รวมถึง Pattern ที่แตกต่าง ลายกระเป๋าหลังที่นอกเหนือจาก Arcuate Design ที่ถือเป็น Signature ของแบรนด์เลยก็ว่าได้
อย่างไรก็ดี การเริ่มต้นผลิต Orange Tab นั้น หลายๆ คนอาจคิดว่าเป็น Affordable Tab จากแบรนด์ Levi’s ก็ว่าได้ แต่ความเป็นจริงแล้วนั้น Orange Tab ถูกพัฒนาให้ Levi’s ก้าวเข้าสู่วงการแฟชั่นในยุคสมัย Hippie เสียมากกว่า จึงทำการลดต้นทุนลง เพิ่มทรงใหม่ๆ ให้ถูกใจชาว Hippie ในยุค 1960s แถมขายดีเทน้ำเทท่าอีกต่างหาก และในช่วงก่อนยุค 2000s Levi’s ได้ตัดสินใจยุติการผลิตสินค้า Orange Tab และนำเอาเทคนิกการผลิตดังกล่าวมาต่อยอดรวมเข้ากับ Red Tab ที่เป็นแม่บทของบริษัท แต่จนแล้วจนรอด Levi’s ก็ผลิต Orange Tab อีกครั้งหนึ่งตามความเรียกร้องในฝั่งของ Levi’s® Vintage Clothing นั่นเอง
และล่าสุดกับการเปิดตัว Orange Tab ในไทย โดยนำเอาประวัติการผลิตที่ไม่เป็น 2 รองใคร และถือเป็นต้นตำหรับอย่างแท้จริงในวงการยีนส์ยุค Hippie มาวางขายให้สาวกสายแฟชั่นยุค 1960s ได้หยิบหามาใส่กันในราคาย่อมเยาว์ กับสไตล์ที่กินไม่ได้ แต่เท่ โดยเลือกนำ Cutting แบบดั่งเดิม หยิบมาผลิตใหม่อีกครั้ง ทั้งเนื้อผ้า รูปทรง และรายละเอียดที่มาแนว Vintage ดั่งเดิมอย่างซิปยี่ห้อ Talon (ที่หาได้เฉพาะใน LVC บางรุ่นเท่านั้น) / เย็บย้ำบาร์แท็คแทนการตอกหมุด / ตัดเย็บด้วยระบบ “Line Eight Construction” / ใช้ด้ายโทนเดียวกัน / มีหูร้อยเข็มขัด 7 อัน (มาตราฐาน 5 อัน) / กระดุมทองแดง / กระเป๋าหลังทรงใหญ่กว่าปกติ / ป้ายหนังตีพิมพ์ด้วยหมึกสีดำ ซึ่งถือเป็นรูปแบบของ Original Orange Tab เลยก็ว่าได้
งานนี้ใครอยากได้กางเกงยีนส์ Levi’s สักตัว MDs ขอแนะนำให้ไปเดินดู Collection Orange Tab ดูครับ เพราะตัดเย็บในรูปแบบเก่า ในราคาที่คุณสามารถเอื้อมถึงได้ง่ายๆ ถือเป็นรุ่นที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงครับ
นอกจากนี้แล้ว ทาง Levi’s® ยังจัดให้มี Levi’s® 501 Tailor Truck ที่จะวิ่งไปตามจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อให้ข้อมูลต่างๆ ของตัวแบรนด์กางเกงยีนส์ Levi’s® รวมถึงให้ทุกท่านได้สัมผัสกับสินค้าจริง ไม่ว่าจะเป็น LVC / Levi’s® Pride / Orange Tab และอื่นๆ อีกมาก และที่เด็ดสุดคือ Eureka Innovation Lab ที่ยกมาให้ทุกท่านได้เห็นกันจริงๆ จาก San Francisco เลยทีเดียว ได้ทั้งความรู้และ Fashion แบบเจาะลึกในที่เดียว ครั้งต่อไปเจอกันได้ที่ เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ วันที่ 13-14 พ.ค. 60 และ Center Point of Siam Square วันที่ 16-17 พ.ค. 60 (สามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง Facebook : Levi’s Thailand)
พร้อมร่วมฉลองการครบรอบ 144 ปี ของลีวายส์® กับงาน ‘Levi’s® 501 day’ จากวันที่จดสิทธิบัตรในการตอกหมุดย้ำโลหะบนกระเป๋า ในวันที่ 20 พฤษภาคม 1873 ทำให้ตำนานของลีวายส์ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยได้เนรมิต ‘ซอยเจริญกรุง 30′ ให้เป็นบรรยากาศ Denim Street ภายในงานยังสามารถชมประวัติศาสตร์และคอคเลคชัน Levi’s® ในตำนานผ่าน 501 TIMELINE นอกจากนี้เปิดตัว 501 JEANS LIMITED EDITION ปี 2017 ที่มีเพียง 7 ตัวในประเทศไทยเท่านั้น โดยในงานนี้ Levi’s® 501 Tailor Truck มาพร้อมบริการ Customize จาก Tailor Master ที่แปลงยีนส์ให้เท่และมีสไตล์ไม่ซ้ำใคร พร้อมเพลิดเพลินไปกับปาร์ตี้คอนเสิร์ตจากศิลปินที่เป็นระดับตำนานและศิลปินรุ่นใหม่มากความสามารถหลากแนว และพบกับการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ของ Levi’s® อีคอมเมิร์ซ ออนไลน์สโตร์ 24 ชม.