ในตอนแรก MenDetails ได้พาคุณไปรู้จักสิ่งที่เรียกว่า ‘ตราสารหนี้’ กันไปแล้ว ถ้าใครยังไม่ได้อ่านและอยากจะรู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ เราเขาแนะนำให้กลับไปย้อนอ่านบทความ MDs’ MONEY | ศัพท์การเงินและการลงทุนที่ผู้ชายควรรู้ : ‘ตราสารหนี้’ กันก่อนได้เลยครับ
เมื่อเรารู้จักตราสารหนี้แล้วว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่บ่งบอกว่าใครคือ ‘ลูกหนี้’ และใครคือ ‘เจ้าหนี้’ ทีนี้เราก็จะขอแนะนำอีกตราสารหนึ่งที่มีบุคลิกตรงข้ามกันกับตราสารหนี้ นั่นคือ ‘ตราสารทุน’ (Equity Instrument) ซึ่งถ้าจะอธิบายให้เห็นภาพตามชื่อของมัน ตราสารทุนก็คือผลิตภัณฑ์การเงินที่บ่งบอกว่าเราเป็น “ผู้ร่วมลงทุน” ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ดังนั้นเมื่อเราซื้อสิ่งที่เรียกว่า ตราสารทุน เราจึงมีฐานะเป็นผู้ที่ร่วมลงทุนไปด้วย โดยไม่ได้มีฐานะเป็น “เจ้าหนี้” เหมือนกับการลงทุนในตราสารหนี้ครับ
ยกตัวอย่างแบบง่ายๆเช่น ถ้าเพื่อนเราจะเปิดร้านกาแฟ แล้วมาขอให้เราร่วมลงทุนโดย “หุ้นกันคนละครึ่ง” จากนั้นก็เขียนเอกสารหลักฐานชัดเจนว่าต่างคนต่างมีส่วนร่วมลงทุนในกิจการนี้คนละ 50% หากคุณตัดสินใจตอบตกลงร่วมลงทุนแล้วได้รับเอกสารนั้นมา แปลว่าคุณได้ลงทุนในสิ่งที่เรียกว่า “ตราสารทุน” แล้วนั่นเอง
สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของตราสารทุนก็คือ การตัดสินใจเข้าไปหุ้นส่วนร่วมลงทุนด้วยกัน แปลว่าคุณมีโอกาสที่จะได้กำไรหรือขาดทุนจากการร่วมลงทุนนั้นด้วยนะครับ เช่นจากตัวอย่างที่ยกมา หากกิจการร้านกาแฟไปได้ดีและมีกำไร คุณก็จะมีส่วนแบ่งกำไรนั้นครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าเกิดขาดทุนจนเจ๊ง คุณก็ไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไรได้เลย (อย่างมากก็ได้แค่โวยวายบ่นเพื่อนอย่างเดียวที่ทำยังไงถึงเจ๊ง) แตกต่างจากการลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งคุณจะได้รับเพียง “ดอกเบี้ย” ในฐานะที่เป็นเจ้าหนี้ แต่ถ้าเกิดมีข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้น การเป็นเจ้าหนี้จะทำให้คุณเป็นคนแรกที่มีสิทธิที่จะได้รับการชดใช้จากลูกหนี้ของคุณ เช่น ลูกหนี้อาจโดนยึดทรัพย์มาขายต่อเพื่อใช้หนี้ให้แก่คุณเป็นต้น
ดังนั้นจึงสรุปกันได้อีกว่า การลงทุนในตราสารทุนนั้น คุณ “มีโอกาส” ที่จะได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่า เพราะถ้าสิ่งที่คุณไปร่วมลงทุนมันเกิดเจ๊งขึ้นมา คุณก็จะขาดทุนจนหมดเหมือนกัน ซึ่งตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เรียกว่า “ตราสารทุน” ที่มีให้เราเลือกลงทุนก็อย่างเช่น “หุ้น” ของบริษัทเอกชนที่ทำธุรกิจต่างๆ หรือกองทรัสต์ที่นำเงินของหลายๆคนรวมกันแล้วนำไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่างๆเพื่อเก็บค่าเช่า เป็นต้น
อ่านมาถึงตรงนี้หวังว่าทุกท่านที่คลิกเข้ามาคงจะได้ความรู้ความเข้าใจในเบื้องต้นว่า ตราสารหนี้ และ ตราสารทุน นั้นมีความหมายเบื้องต้นอย่างไรบ้าง ต่อไปเมื่อได้ยินสองคำนี้ก็ไม่ต้องทำหน้างงกันอีกแล้วนะครับ ส่วนคราวต่อไปจะเป็นคำว่าอะไร โปรดติดตามกันด้วยนะครับผม