หลังจากผ่านการฟาดฟันกับแบรนด์กางเกงยีนส์โหดๆ ผ้าคุณภาพสูง เน้น Slubby / Cotton คุณภาพดี เจาะลึกลงไปถึงคุณภาพของฝ้ายอย่าง American Cotton / Zimbabwe Cotton ยาวไปจนถึงการใช้เครื่อง Low-Tension ในการทอผ้า และการย้อมครามที่สวยงาม ลึกเข้าสู่เส้นใยแบบเข้มๆ เพื่อให้ได้เฟดที่คม ลึก พร้อมกับความหนาอย่าง 17-19oz ที่นักเลงกางเกงยีนส์หลายๆ คนใฝ่ฝันอยากได้มาครอบครอง MDs กลับมาถึงจุดที่หวนให้คิดถึงแบรนด์ First Jeans อย่าง Nudie Jeans ที่หลายๆ คนน่าจะเติบโตมาจากแบรนด์นี้เหมือนกัน วันนี้ MDs มากล่าวถึงแบรนด์ Nudie ที่ช่วงหลังๆ เรากลับมาสนใจและน่าจะเสียเงินในเร็วๆ นี้
-ด้วยทรงและสไตล์ที่หลากหลาย-
ตั้งแต่ก้าวออกจากแบรนด์ Nudie Jeans ไปหาแบรนด์อื่น สิ่งหนึ่งที่ MDs หาไม่ได้บ่อยจากแบรนด์อื่นๆ ก็คือทรงที่มีให้เลือกหลากหลาย ความหลากหลายดังกล่าวนั้นไม่ได้มาเพราะแค่อยากให้มีหลาย Model แต่เป็นเพราะทางแบรนด์ศึกษาและพัฒนาทรงกางเกงตามเทรนอยู่ตลอดเวลา กล่าวได้ว่า Nudie Jeans เป็นแบรนด์กางเกงยีนส์ที่มีการตัดและเพิ่มทรงมากที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นมา หลายๆ แบรนด์มักจะยึดกับทรงเดิมๆ ไม่จำเป็นต้องขึ้น Pattern ใหม่ให้ยุ่งยาก แต่ไปเน้นเรื่องความ Vintage เพิ่มเติมรายละเอียดจุดเล็กๆ น้อยๆ ในตัวกางเกง แต่ไม่ใช่กับ Nudie Jeans ที่ล่าสุดพึ่งคลอดทรงใหม่ออกมาเพิ่มอีก 2 ทรง และตัดทรงเก่าๆ ออกไปอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งนี่น่าจะเป็นสเน่ห์ของแบรนด์ที่ปรับตัวเองให้ตามกระแสความต้องการในตลาดอยู่ตลอดเวลา
-ความหนาผ้าที่พอดีกับอากาศบ้านเรา-
หลายคนอาจจะ Debate ในเรื่องความหนา อันนี้เราเข้าใจครับ หลายๆ คนชอบผ้าหนาๆ เพราะคิดว่าผ้าหนานั้นหมายถึงคุณภาพที่ดีของตัวผ้า Denim เอง ซึ่งนั่นก็เป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง แต่เป็นเพียงแค่ส่วนเดียวเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วเราควรเลือกผ้าที่เหมาะกับอากาศในประเทศนั้นๆ มากกว่า อย่างกางเกงของแบรนด์ Nudie Jeans ส่วนมากจะอยู่ที่นำ้หนักราว 11oz สำหรับผ้าดิบปกติ และอาจสูงไปถึง 14.5oz สำหรับผ้าริมรุ่นพิเศษต่างๆ ซึ่งนี่คือความหนาที่เหมาะกับอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเราครับ พูดง่ายๆ ก็คือ “ใส่ง่ายกว่า” ส่งผลให้มีโอกาสใส่ให้ Fade ขึ้นได้บ่อยกว่าผ้าหนาๆ ที่อาจใส่แล้วไม่สบายตัวเลย
-มีส่วนผสมของผ้ายืด ทำให้ใส่ง่ายเข้าไปอีก-
กางเกงยีนส์ผ้าดิบที่ดีคือกางเกงยีนส์ที่คุณไม่ต้องคิดเยอะตอนหยิบมาใส่ ยกตัวอย่างเช่น มันจะสบายตัวมั้ย? จะก้าวขึ้นบันไดลำบากหรือป่าว? ซึ่งทาง Nudie Jeans ก็เลือกที่จะผลิตกางเกงยีนส์ที่คุณสามารถใส่ได้ “ทุกวัน” โดยไม่ต้องมานั่งกังวลาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เพราะการผสมเอาผ้ายืดราว 2% เข้าไปในโครงสร้างผ้านั้น ช่วยให้กางเกงมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ใส่ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าการผสมผ้ายืดจะไม่ถูกใจใครบางคน แต่สำหรับเรา ถือว่าผ่านอยู่ครับ เวลาก้าวเท้ายาวๆ จะได้ไม่ขาดง่าย
-Good Fit is King-
เพราะแต่ละคนมีทรงขาไม่เหมือนกัน สไตล์ความชอบของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนชอบแนว Skinny Fit บางคนชอบแนว Slim Fit หรือ Loose Fit ดังนั้นทรงที่เข้ากับความชอบของแต่ละคนจึงเป็นเรื่องใหญ่มากๆ สำหรับกางเกงยีนส์ผ้าดิบ ซึ่งพอพูดถึงทรงกางเกงยีนส์ที่ MDs ชื่นชอบในระดับราคาปานกลางไม่เกิน 8k เราก็จะแนะนำแบรนด์อย่าง A.P.C. ที่ถือเป็นเจ้าพ่อเรื่องทรงตัวจริงเสียงจริง ส่วนอีกแบรนด์ที่เราแนะนำก็ต้องเป็น Nudie Jeans นี่แหละครับ อย่างเราเป็นคนต้นขาใหญ่ และชอบให้กางเกงใส่ออกมาแล้วดูหลุดตูดนิดๆ ทรงที่เราชอบมากๆ ถึงมากที่สุดจึงลงเอยที่ Thin Finn ซึ่งเป็นทรงที่ขายดีที่สุดของแบรนด์เช่นกัน
-แบรนด์มีสไตล์ที่ชัดเจน ใส่แล้วกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง-
ข้อนี้อาจไม่ใช่สำหรับทุกคน แต่สำหรับผู้ชายคนไหนก็ตามที่ต้องการแต่งตัวให้ดูเด็กลง Nudie Jeans ก็ดูเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี การจะให้หันไปใส่แนว Workwear ก็อาจจะดูเหนื่อยเกินไป ซึ่งถ้าคุณเป็นอีกคนที่ชอบแต่งตัวแนว Street นิดๆ วัยรุ่นหน่อยๆ แบรนด์นี้ถือเป็นทางเลือกที่ดีครับ แต่งตัวได้ง่าย จะเยอะก็ได้ จะน้อยก็ดูดี แถมมีแนวผ้าฟอกเท่ๆ ให้เลือกสำหรับใครที่ไม่อยากปั่นเฟดกางเกงยีนส์ด้วยตัวเอง ซึ่งตัวผ้าฟอกส่วนใหญ่ก็จะมาจากคนที่ใส่ Nudie Jeans จนขาดแล้วทางแบรนด์ชอบ ก็จับมาทำเป็นรุ่น Replica ในที่สุด นี่คือสาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่ยังคงเลือกซื้อ Nudie Jeans แบบ “Loyalty” เพราะหวังว่าวันหนึ่งเราจะกลายเป็นตัวต้นแบบให้คนอื่นได้ซื้อใส่กัน อย่างคุณ “Arnuphap” ที่ถูกเลือกเป็นต้นแบบรุ่น “Lean Dean Arnuphap Replica” เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
นี่คือเหตุผลคร่าวๆ ที่เราหันกลับมาสนใจแบรนด์จากสวีเดนแบรนด์นี้ ซึ่งใครกำลังมองหากางเกงยีนส์ผ้าดิบตัวใหม่อยู่ ลองหันกลับมามองแบรนด์แรกสุดเท่ในสมัย 10 กว่าปีที่แล้วดูครับ เพราะแบรนด์นี้ยังคงมีสเน่ห์ที่น่าสนใจ กับสไตล์ที่ยังไงๆ ก็ไม่ล้าหลัง ทันสมัยอยู่เสมอกับแบรนด์ Nudie Jeans ครับ