จะมีสักกี่คนที่ไม่รู้จักแบรนด์รองเท้านามว่า Reebok เพราะถ้านับกันจริงๆ แล้วนั้น Reebok อยู่ในตลาดรองเท้าผ้าใบมายาวนานตั้งแต่ปี 1980 ซึ่งถือเป็นปีที่ Reebok จดทะเบียนการค้าในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ความจริงแล้วนั้น แบรนด์รองเท้าแบรนด์นี้มีประวัติอันยาวนานมาตั้งแต่ปี 1895 เมื่อ Joseph William Foster เริ่มต้นออกแบบรองเท้าวิ่งคู่แรกในห้องนอนตัวเองตอนอายุได้เพียง 14 ปีเท่านั้น ซึ่งรองเท้าคู่แรกที่ Joseph William Foster ออกแบบนั้นเป็นรองเท้ามีตะปูด้านหน้า เพื่อการยึดเกาะที่แข็งแรง และถือเป็นต้นแบบรองเท้าสไตล์ Spiked Running Shoes เลยก็ว่าได้
ให้หลังในปี 1900 Joseph William Foster ได้ก่อตั้งบริษัทผู้ผลิตรองเท้าในนาม J.W. Foster and Sons และได้เปิดโรงงานเล็กๆ ชื่อว่า Olympic Works และเริ่มต้นผลิตรองเท้าวิ่งจนเป็นที่รู้จักไปทั่วเกาะอังกฤษ และดังถึงจุดสูงสุดในปี 1924 เมื่อรองเท้า Running Pumps ที่ Foster ผลิตนั้นถูกใส่โดย Harold Abrahams นักวิ่ง 100 เมตรชาวอังกฤษที่วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ในงานกีฬา Olympic Summer ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
หลังจากบริษัทเป็นที่สนใจไปทั่วโลก ก็ถือคราวออก Trade Show ที่รัฐ Chicago ในงาน International Sneaker Trade และคนที่เตะตาร่วมลงทุนและตั้งชื่อแบรนด์ Reebok USA Ltd. ก็คือ Paul Fireman และเริ่มต้นขายรองเท้ารองเท้า 3 รุ่นเป็นครั้งแรกในปี 1981 และสร้างยอดขายได้กว่า 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งแน่นอนว่าการทำตลาดรองเท้าผ้าใบในสหรัฐฯ ถือเป็นเรื่องยาก ในเมื่อมีแบรนด์ยักษ์ใหญ่อยู่มากมาย Reebok จึงเริ่มเปลี่ยนทิศทางจากรองเท้ากีฬามาเป็นรองเท้าแนว Aerobic มากขึ้นและในปี 1983 ทางแบรนด์ก็ได้เปิดตัวรองเท้า Iconic ตลอดกาลอย่าง Reebok Classic Leather นั่นเอง
ผลิตจากหนังแท้คุณภาพดีและเสริมความแข็งแรงด้วยผ้า Nylon และด้วยทรงรองเท้าที่โฉบเฉี่ยวมากในยุคนั้นทำให้ Reebok Classic Leather เป็นที่ชื่นชอบอย่างรวดเร็วแถมยังสามารถใส่ออกกำลังกายและเดินเล่นได้ในเวลาเดียวกัน ส่งผลให้รองเท้า Reebok Classic Leather คู่นี้กลายเป็น Everyday Shoes โดยสมบูรณ์แบบ ด้วยการออกแบบที่สะอาดตา ลวดลายเส้นสายที่เรียบ และพื้นรับแรงกระแทกที่ดีเยี่ยม และถึงแม้ว่าช่วงที่รองเท้าคู่นี้ออกวางขายจะชนกับรองเท้าชื่อดังในยุค 80s อย่าง adidas Superstar / Nike’s Air Force 1 หรือแม้แต่ PUMA Clyde ก็ตาม Reebok ก็ยังคงสร้างยอดขายได้จากรองเท้ารุ่นนี้อย่างต่อเนื่อง แถมส่งผลให้แบรนด์ Reebok มียอดขายเติบโตขึ้นทันที 10 เท่าจากปี 1981
กว่า 30+ ปี รองเท้า Reebok Classic Leather นั้นไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปทรงแต่อย่างใด (อาจมีบ้างเรื่องคุณภาพวัสดุ) และยังคงเลือกใช้หนังแท้ๆ เป็นวัสดุตั้งต้นในการผลิต รวมถึงลิ้นรองเท้าที่ทำออกมาได้ดี ทรงสวยและใส่สบายด้วยผ้า Nylon บุเสริม Foam ให้นุ่มมากขึ้น พร้อมข้อความดังต่อไปนี้
“FROM A TRADITION OF OVER 100 YEARS, THESE ATHLETIC SHOES MEET THE DEMAND FOR QUALITY & PERFORMANCE REQUIRED BY TODAY’S ATHLETE.”
“กว่า 100 ปีในการผลิตรองเท้าผ้าใบ รองเท้ากีฬาคู่นี้ถูกผลิตขึ้นด้วยคุณภาพที่ดีที่สุดและคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมเพื่อตอบสนองความต้องการของนักกีฬาในปัจจุบัน”
นี่คือรองเท้าคู่หนึ่งที่เราอยากแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จัก หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ชอบความ Retro ความ Classic ที่เหนือกาลเวลา ใส่ได้เรื่อยๆ ใส่กับชุดไหนก็ดูดี MDs คิดว่า Reebok Classic Leather คู่นี้น่าจะตอบโจทย์มากทีเดียว ใส่คู่กับขาสั้นก็ได้ / กางเกงยีนส์ก็ดูดี / Chinos ก็เท่ หรือจะเป็น Trouser เนี๊ยบๆ ก็ไม่ผิดครับ ใครกำลังมองหารองเท้า Sneaker สีขาว Classic สักคู่หนึ่ง ไปจัดได้เลยครับกับ Reebok Classic Leather ที่สนนราคาอยู่ที่ 3,500.- และหาซื้อได้แล้ววันที่ร้าน Seek Thailand