กล่าวถึงแบรนด์สักแบรนด์หนึ่งที่เริ่มต้นจากคำว่า ‘FUN’ หรือความสนุกในการใช้ชีวิตเป็นหลักอย่าง Deus Ex Machina ที่ตัวแบรนด์เองนั้นไม่ได้มีโลโก้ที่ตายตัว ไม่ได้ทำธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว และไม่ได้มีการทำ Marketing Research อะไรมากมายจนน่าปวดหัว เพราะในมุมมองของผู้ชายคนนี้ Dare Jennings ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ‘Deus Ex Machina’ คือ “ถ้าคุณมัวแต่คิด คุณก็จะไม่ได้ทำสักที”
-แบรนด์ Deus นั้น เลือกที่จะเล่นกับ LOGO ของตัวเอง ด้วยคำถามที่ว่า ทำไมต้องมีแค่ 1 อันหล่ะ-
“ถ้าเรามองทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นเรื่องสนุก มันจะเป็นตัวผลักดันให้เราลองทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำมาก่อน นี่คือหัวใจหลักของแบรนด์” Dare Jennings กล่าว
MenDetails อยากให้คุณลองจินตนาการดูครับว่า “ถ้าวันหนึ่งคุณกำลังจะเปิดแบรนด์ของตัวเองสักแบรนด์ คุณจะเลือกอะไรระหว่าง Focus กับสินค้าเพียง 1 อย่าง หรือทำมันทุกอย่างไปเลย” แต่สิ่งที่ Dare Jennings พูดให้เราฟังเกี่ยวกับเบื้องหลังของแบรนด์ Deus Ex Machina ก็คือ “ทำไมจะทำไม่ได้หล่ะ” พร้อมกล่าวเสริมว่า “ในเมื่อตัวผมชอบมอเตอร์ไซด์และในทางกลับกัน ผมก็ชอบเล่น Surf ด้วย แล้วทำไมผมจะออกแบบทั้งมอเตอร์ไซด์และ Surfboard ไปพร้อมๆ กันไม่ได้” อืม…น่าคิดนะครับ
“นอกจากผมจะชอบขับมอเตอร์ไซด์ เล่น Surf ผมก็ชอบแต่งตัว และดื่มกาแฟ” Dare Jennings พูดขึ้นพร้อมอมยิ้มเล็กน้อย “เราเลยตั้งร้านกาแฟเพิ่มขึ้นมาซะเลย มันก็เหมือนกับการใช้ชีวิตนี่แหละครับ คุณเราไม่ได้มีแค่ด้านเดียวเสมอไป” เนื่องจากชีวิตคือการค้นหาอะไรไปเรื่อยๆ ครับ สิ่งนั้นอาจจะดี สิ่งนี้อาจไม่ใช้ แต่ถ้าเป็นอะไรที่ Dare Jennings ชื่นชอบ พนันได้ว่ามันจะเข้ามาอยู่ภายใต้แบรนด์ Deus Ex Machina ในไม่ช้าแน่นอน
“ถ้าอย่างงั้นเราอาจได้เห็นเสื้อผ้าสำหรับปีนเขาในอนาคต?” เราถามด้วยความสงสัยใคร่รู้เป็นอย่างยิ่ง และ Dare Jennings ก็ตอบกลับมาว่า “ก็อาจเป็นได้ แต่พอดีผมไม่ค่อยชอบปีนเขาสักเท่าไรนัก (หัวเราะ)”
แต่เนื่องจากความสนุกในแต่ละช่วงวัยนั้นมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก คำว่า Dexus Ex Machina อาจไม่ได้สนุกสำหรับคนทุกเพศทุกวัยเสมอไป ซึ่งนั่นส่งผลให้แบรนด์เลือกสื่อสารในวิถีและรูปแบบเฉพาะ รูปแบบที่ไม่เหมือนใครคือ “การเอาตัวแบรนด์ไปผูกเข้ากับศาสตร์ด้านศิลปะและการใช้ชีวิตแบบผจญภัยตลอดเวลา” นั่นเอง “พูดง่ายๆ ก็คือ เราพยายามลดระยะของตัวแบรนด์ให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย” Dare Jennings เสริม “เราใช้ศิลปะเป็นตัวนำ และวิถีในการใช้ชีวิตที่แตกต่าง ท้าทายในมุมมองใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนใหม่ๆ”
“ในยุคสมัยที่ผมเป็นวัยรุ่นนั้น เป็นยุคที่มีความวุ่นวายสูงมาก ไม่ว่าจะเป็น สงคราม / ยาเสพติด ฯลฯ” Dare Jennings กล่าว “มันเป็นยุคที่ทุกคนต่างแสวงหาหนทางของตัวเองในรูปแบบของตัวเอง มาถึงตรงนี้เราก็อยากเป็นแบรนด์ที่ส่งต่อวิถีชีวิตในมุมมองของเราให้กับคนรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังจะกลายเป็นแรงผลักดันในอนาคต” พูดให้ง่ายขึ้นก็อาจกล่าวได้ว่า Deus Ex Machina คือแบรนด์ที่พยายามส่งต่อความสนุกให้กับผู้คนรอบๆ ตัว จากมุมมองของ Dare Jennings นั่นแหละ
“ผมไม่ได้บอกให้คุณเดินตามทิศทางที่เราเป็นนะ เพราะชีวิตของคุณ คุณเป็นคนเลือกและเป็นผู้กำหนด อย่าให้ใครมาบอกคุณว่าต้องทำอะไร เราเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งของรูปแบบการใช้ชีวิตเท่านั้น”
-Dare Jennings ผู้ชายที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์ Deus Ex Machina-
และอีกไม่นาน Deus Ex Machina จะก้าวเข้ามาเปิด Flagship Store ในไทยอย่างเต็มรูปแบบแน่ๆ อีกไม่นานเกินรอ กับแบรนด์ที่ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการแต่งตัวในเมืองไทยว่า “อยากแต่งตัวสไตล์ไหนก็แต่งไปเถอะ ไม่ต้องไปสนใจว่ากระแสจะเป็นอย่างไร ขอแค่ออกมาเป็นตัวของตัวเองเท่านั้นพอ” Dare Jennings พูด “เพราะเราสอนสไตล์การแต่งตัวให้ใครไม่ได้ครับ เราแค่ออกแบบในมุมที่เราชอบ แล้วถ้าคุณชอบมันเหมือนกับที่เราชอบแล้ว ค่อยตัดสินใจซื้อก็ยังไม่สาย” เป็นคำแนะนำที่ตรงไปตรงมาเสียจริงๆ