“กางเกงยีนส์” ถือเป็นเครื่องแต่งกายชิ้นโปรดอันดับต้นๆของผู้ชายไทยส่วนใหญ่ ซึ่งนั่นรวมถึง MenDetails เองด้วย บางครั้งที่เราหยิบกางเกงยีนส์มาใส่แบบอัตโนมัติโดยแทบไม่ต้องคิด เหมือนกับว่ามันเป็นเครื่องแต่งกาย “สามัญประจำกาย” ของตัวเราเอง ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการคิดหาเครื่องแต่งกาย และเราเองเชื่อว่าผู้ชายไทยจำนวนมากก็เป็นแบบนี้ไม่ต่างกัน
คงไม่ผิดนักถ้าจะบอกว่ากางเกงยีนส์คือ “กางเกงสามัญประจำกายของผู้ชายไทย”
แต่ทว่าการหยิบยีนส์มาใส่แบบไม่ต้องคิดเช่นนี้ก็มีข้อเสียนะครับ นั่นก็คือมันทำให้เราค่อยๆขาดจินตนาการในการพัฒนาสไตล์ของตัวเอง เพราะทุกสิ่งทุกอย่างจะมี “กางเกงยีนส์” เป็นจุดศูนย์กลางเสมอ สุดท้ายกลายเป็นว่าเราพยายามตัดเครื่องแต่งกายที่ไม่เข้ากันกับกางเกงยีนส์ทิ้งไป ทำให้ตัวเลือกในการแต่งตัวของเราน้อยลง และสไตล์ส่วนตัวของเราก็ถูกจำกัดให้แคบลงเรื่อยๆโดยที่เราแทบไม่รู้สึกตัวเลย
หากคุณพอใจกับการใส่กางเกงยีนส์เป็นหลัก ชนิดที่ว่าต่อให้ช้างมาฉุดคุณก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจ คุณก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาอะไรในเรื่องนี้ แต่ถ้าคุณคิดว่าสไตล์ส่วนตัวของคุณควรจะมีอะไรที่มากกว่าการใช้ยีนส์เป็นจุดศูนย์กลางตลอดเวลา MenDetails เชื่อว่าการถามตัวเองว่า “จะทำอย่างไร ถ้าโลกนี้ไม่มีกางเกงยีนส์?” อาจช่วยคุณได้ครับ
บอกเลิกกางเกงยีนส์สัก 1 เดือน
วิธีการง่ายๆที่จะทำให้ผู้ชายอย่างเราพัฒนาสไตล์การแต่งกายของตัวเองได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นก็คือการทำ “Jeans Detoxing” หรือ “ล้างพิษกางเกงยีนส์” ซึ่งทำได้โดยสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ใส่ “กางเกงยีนส์” เป็นเวลา 1 เดือน สิ่งที่จะเกิดขึ้นทันทีก็คือความรู้สึกตัวว่าเราพึ่งพากางเกงยีนส์เหมือนมันเป็น “ของตาย” มานานแค่ไหนแล้ว แรกๆเราจะรู้สึกว่า หาเสื้อผ้าใส่ได้ยากมาก เพราะเราใส่แต่กางเกงยีนส์มาตลอด แต่หลังจากที่ลองศึกษาค้นคว้า ด้วยการ Google หากางเกงประเภทอื่นที่สามารถใส่แทนกางเกงยีนส์ได้อย่างมีสไตล์ เราก็จะเริ่มมีไอเดียในการแต่งกายมากขึ้น และค่อยๆขยับตัวเองออกห่างจากยีนส์มาได้มากขึ้นเรื่อยๆในแต่ละวันครับ
กางเกงผ้าสีครีมมี Cuff หรือ “ขาเบิ้ล” เสริม Look หล่อแบบวินเทจได้ทันที
กางเกงเอวสูงแบบมีจีบหลายสีสันให้เลือก เพื่อให้เรามีอิสระในการใส่เสื้อหลายแบบมากขึ้น
เราจะมีสีสันและเนื้อผ้าให้เลือกเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว
ข้อดีของการค่อยๆถอยห่างออกมาจากกางเกงยีนส์นั่นก็คือ เราจะค้นพบว่าส่วนใหญ่นั้นเราผูกติดตัวเองอยู่กับกางเกงสีน้ำเงินมานานมากเกินไปแล้วจริงๆ การเปลี่ยนไปใช้กางเกงประเภทอื่นที่ไม่ใช่กางเกงยีนส์จึงเปิดโอกาสให้เราได้ใส่กางเกงที่มีสีสันหลากหลายมากขึ้น อย่างเช่น กางเกงชีโน่สีครีม, สีกากี หรือสีเขียวทหาร vintage ไปจนถึงสีสันที่เราอาจไม่เคยนึกถึงมาก่อนอย่างสี Tobacco หรือ Burgundy ก็อาจกลายมาเป็นสีของกางเกงที่ทำให้การแต่งกายของเราน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม และนั่นหมายถึงการ Mix&Match กับเสื้อได้หลากหลายสีสันมากขึ้นด้วยครับ อีกจุดหนึ่งที่เราควรให้ความสำคัญก็คือเรื่องของเนื้อผ้าซึ่งเนื้อผ้าที่นิยมนำมาตัดกางเกงก็จะมีให้เลือกมากว่าแค่ “ผ้ายีนส์” ไล่ไปตั้งแต่ผ้าฝ้ายค็อตต้อน, ผ้าวูล, ผ้าลินิน หรือผ้าลินินผสมผ้าฝ้าย หรือแม้แต่ผ้าสุด Hype ของชาว Sartorialist อย่าง ผ้าวูลผสมผ้าไหมและผ้าลินิน (Wool Linen Silk) ก็จะช่วยทำให้เสื้อผ้าของเราดูมีความน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิมที่เราจะใส่แต่ยีนส์อย่างเดียวนะครับ
ออกจากกรอบสี indigo ของผ้ายีนส์แล้วหันไปใช้สีอื่นๆที่คลาสสิคไม่แพ้กันได้
เมื่อไม่มียีนส์มาเป็นกฎตายตัว เราก็สามารถใส่จินตนาการลงไปได้มากขึ้นกว่าเดิมครับ
ผู้หญิงจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของคุณได้ทันที
ผู้หญิงเป็นคนที่ช่างสังเกต พวกเธอมักมองเห็นความเปลี่ยนแปลงต่างๆได้ แม้จะเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ดังนั้นการเลิกใส่กางเกงยีนส์แล้วหันไปใส่กางเกงและเสื้อผ้าแบบอื่นๆแทน จะช่วยดึงความสนใจของเธอจนพวกเธออดเอ่ยปากถามไม่ได้ว่า “ทำไมช่วงนี้ไม่ใส่ยีนส์แล้วเหรอ?” เราเองก็สามารถอธิบายเหตุผลและหาเรื่องชวนพวกเธอพูดคุยต่อได้อีกด้วย เรียกได้ว่าการเปลี่ยนแปลงตัวเองในเรื่องนี้ก็มีประโยชน์ทางอ้อมเช่นนี้ด้วยนะครับ การเล่นกับ Texture เนื้อผ้า และสีของเสื้อและกางเกงแบบใหม่นอกเหนือจากยีนส์จึงช่วยให้คุณมีจุดเด่นเป็นที่สังเกตของผู้พบเห็นมากกว่าผู้ชายที่ใส่ยีนส์กันทั้งบ้านทั้งเมืองครับ
กางเกงที่มีเนื้อผ้าแบบอื่น ช่วยทำให้สไตล์ของเราดู Soft ลงกว่าการใส่ยีนส์ ซึ่งสาวๆรอบตัวเราสังเกตเห็นได้ไม่ยากเลยครับ
ถ้าเราเป็นผู้ชายที่อยากพัฒนาสไตล์การแต่งกายของตัวเองให้ดีขึ้น น่าสนใจและดูโดดเด่นมากขึ้น แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มปรับจากตรงไหน อย่างไรก่อนดี ลองหักดิบด้วยคำถามที่ว่า “ถ้าโลกนี้ไม่มีกางเกงยีนส์ เราจะทำอย่างไร” ความจำเป็นจะเริ่มบีบให้เราหาความรู้ และเราก็จะเห็นว่าการพึ่งพากางเกงยีนส์มากเกินไปก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไปหรอกนะครับ นั่นเพราะผู้ชายที่มีสไตล์ที่ดีนั้นควรจะสามารถปรับเปลี่ยนการแต่งกายให้ได้หลากหลายและเหมาะสม มากกว่าที่จะยึดติดแต่เฉพาะการแต่งกายที่เรา “พอใจ” เพียงเท่านั้นนะครับ