มนุษย์เรารู้จักการนำหนังสัตว์มาใช้ผลิตเราเป็นรองเท้าเมื่อกว่า 5,000 ปีที่แล้ว โดยหนังที่มนุษย์สมัยโบราณเลือกหยิบมาผลิตเป็นรองเท้านั้น ส่วนมากจะเป็นหนังกวางและหนังหมี ซึ่งสาเหตุหลักก็คือ เพื่อให้ความอบอุ่นกับอุ้งเท้าของผู้สวมใส่ในหน้าหนาวที่หิมะตกหนักอย่างเทือกเขา Alps เป็นต้น จวบจนปัจจุบัน รองเท้าหนังยังคงอยู่ในตลาด และไม่มีท่าทีว่าจะหายไปไหน ถึงแม้ว่าจุดประสงค์ของคนซื้อจะเปลี่ยนไปจากเดิมก็ตาม และนี่คือหนังทั้งหมด 9 ประเภทที่นิยมนำมาผลิตเป็นรองเท้า ที่เราอยากให้คุณรู้จักก่อนซื้อ
Roughout
หนังประเภท Roughout คือหนังที่มีด้านหยาบซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อที่ติดกับหนัง มักจะอยู่เป็น Texture ด้านนอกของตัวรองเท้า ซึ่งถือแม้ว่าตัวหนังจะหยาบแต่กลับนิ่ม และมีความหนาพอเพื่อนำมาผลิตเป็นรองเท้า Boots ที่ใช้ในกองทัพทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ไม่ได้ต้องการความเงาของตัวหนัง และเชื่อกันว่าหนังประเภทนี้นั้นระบายอากาศได้ดีกว่าหนังแบบอื่น
Vegetable Tanned
ถือเป็นหนังพื้นฐานที่สุดที่คุณต้องเคยได้ยินในชื่อไทยๆ อย่าง “หนังฟอกฟาด” นั่นแหละครับคือ Veg-Tanned ซึ่งชื่อว่า Vegetable ไม่ได้มาเพราะดึงหนังจากสัตว์กินพืชนะครับ แต่เนื่องจากขั้นตอนการ Tanned ของตัวหนังนั้นเลือกใช้วัสดุอย่างไม้ และพืชต่างๆ ในการฟอกนั่นเอง (ปัจจุบันเริ่มหาการฟอกด้วยไม้แท้ๆ ได้ยากขึ้นเรื่อยๆ) ส่งผลให้ได้สีที่สวยแบบธรรมชาติคล้ายสีผิวมนุษย์เลยทีเดียว แต่สีน้ำตาลอ่อนที่เห็นจะเข้มขึ้นเรื่อยๆ ตามการใช้งาน หรือที่เรานิยมเรียกว่า “Patina” แต่วัสดุแบบนี้อาจหดตัว เกิดการบิดงอได้ง่ายหากโดนน้ำครับ
Pull-Up
Pull-Up คือหนังที่ถูกเคลือบด้วย Waxed และ น้ำมันแต่งสีผิวหนัง สิ่งหนึ่งที่คุณจะสามารถเห็นได้ชัดจากหนังประเภทนี้ก็คือ “หากคุณดึงหนังบางส่วน หนังจะเปลี่ยนสีเป็นอ่อน” จึงเป็นที่มาของคำว่า Pull-Up นั่นเอง โดยข้อดีของหนังประเภทนี้ก็คือ ตัวมันเองนั้นไม่ได้ต้องการการดูแลรักษามากเท่ากับหนังอย่าง Veg-Tanned เนื่องจากตัวหนังผ่านการเคลือบ Waxed มาแล้ว
หนังแบบ Pull-Up แบรนด์แรกของโลกคือ Horween Chromexcel ซึ่งยังคงเป็นที่นิยมและเป็นที่ชื่นชอบของผู้ผลิตรองเท้า Casual Shoes / Work Boots มาตั้งแต่ช่วงปี 1920s และคำว่า Horween ก็ถือเป็นเครื่องหมายการันตีอย่างหนึ่งว่ารองเท้าหนังคู่นี้นั้นผลิตด้วยวัสดุที่ดีที่สุดตัวหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้
Chamois
Chamois อาจไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก แต่ถ้าพูดว่า “ผ้าชามัว” หลายๆ คนน่าจะเริ่มคุ้นหูมากขึ้น แน่นอนครับว่า Chamois เป็นหนังที่มีคุณสมบัติซับน้ำได้ดี / นิ่มมือมากเป็นพิเศษ และมีตุ่มเล็กๆ ขึ้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ จึงมักนำมาผลิตเป็นวัสดุทำความสะอาดเสื้อผ้า แต่เมื่อนำมาผลิตเป็นรองเท้า หนัง Chamois จะถูกเคลือบและอัดด้วย Waxed ในปริมาณที่สูงเพื่อป้องกันการดูดซับความชื้นที่เกิดขึ้นจากการใช้งานเวลาสวมใส่ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครหลายๆ คนที่ไม่ชอบมานั่งดูเวลารองเท้าหนังหนังจากซื้อไป ใส่อย่างเดียว และต้องการหนังที่นิ่มเป็นพิเศษ และไม่ต้องการหนังมันๆ เงาๆ
Suede
“หนังกลับ” คือคำนิยามของคำว่า Suede ซึ่งจะมีความคล้ายคลึงกับหนังประเภท Roughout มากแต่จะถูกตัด / เจีย ให้หนังบางลงและมีความหยาบที่เท่าๆ กันตลอดทั้งผืน จึงเป็นหนังที่มีความสวยงามมากกว่า นิ่มกว่า และบางพอที่จะนำมาผลิตของใช้ชิ้นเล็กๆ ที่สัมผัสกับผิวส่วนอื่นๆ ตามร่างกายได้โดยไม่ระคายเคือง อย่างเช่นถุงมือเป็นต้น ซึ่งคำว่า Suede เองนั้นมีรากมาจากคำว่า “ถุงมือ” ด้วยนะ เพราะมาจากคำในภาษาฝรั่งเศสอย่าง “Gants Des Suede” หรือที่แปลว่า “ถุงมือของชาวสวีเดน”
หนังกลับนั้นมักนิยมนำมาผลิตเป็นรองเท้าที่ใช้งานเบาๆ ไม่ได้เป็น Workwear หนักๆ เพราะเนื่องจากคุณภาพหนังที่ไม่ได้แข็งแรงหรือหนาเท่าที่ควร มักนิยมเป็นรองเท้าช่วงหน้าร้อน ไม่นิยมในช่วงหน้าฝน เพราะหนังนั้นดูดซับน้ำและโคลนได้ง่ายดายมากเกินไป
Scotch Grain
ตามชื่อเลยครับ หนัง Scotch Grain นั้นผลิตในประเทศ Scotland โดยมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Pebble Grain โดยเอกลักษณ์สำคัญก็คือลายแตกของหนังที่เกิดขึ้นจากการฟอกด้วยกรรมวิธีที่ใช้ถังไม้บ่ม Whiskey โบราณ จนได้เป็นลายแตกคล้ายหนัง Rhino ซึ่งกรรมวิธีดังกล่าว ทำให้หนัง Scotch Grain นั้นทนทานต่อสภาพอากาศที่หลากหลายได้ดี และถือเป็นหนังที่ชาวอังกฤษนิยมใช้กัน เพราะอย่างที่ทราบว่า อังกฤษคือเมืองที่ฝนตกตลอดเวลา อาจเจอหมอก หรือแดดก็ได้ในแต่ละวัน
Shell Cordovan
ถือเป็นสุดยอดของหนังในพื้นพิภพนี้เลยก็ว่าได้ หลายๆ คนที่ต้องการซื้อรองเท้าหนังดีๆ สักคู่หนึ่ง มักเลือกรองเท้าที่ผลิตด้วยหนัง Shell Cordovan โดยหนังประเภทนี้ถือเป็นหนังที่หายากที่สุดในโลก และผลิตได้จำนวนน้อยมากต่อปีเมื่อเทียบกับหนังประเภทอื่นๆ แถมราคาแพงแบบสุดๆ เพราะหนังจากหนังสะโพกม้า ที่ทนทานต่อการยืดและทนน้ำได้อย่างไม่น่าเชื่อ แถมรองเท้าหนังประเภทนี้จะเกิดรอยพับจากการสวมใส่ช้ากว่าหนังประเภทอื่นๆ อีกด้วย
หนังประเภทนี้นั้น แข็งแรง ทนทาน และพร้อมที่จะอยู่กับคุณไปได้หลายสิบปีหากคุณรักษามันอย่างถูกวิธี ซึ่งหนัง Shell Cordovan ที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุดในโลกก็คือ Horween’s สี Burgundy No.8
Calfskin
Calfskin คือหนังที่ผลิตจากหนังวัวอายุน้อย เพื่อให้ได้หนังที่บาง มีลายสวย นิ่ม และสภาพหนังดี ปลอดภัยจากรอยต่างๆ แถมยังแข็งแรงทนทานอีกด้วย ด้วยคุณภาพดังกล่าว ทำให้เป็นที่นิยมนำมาใช้เขียนบันทึกในยุค Medieval และช่วงต้นของยุค Renaissance ก่อนที่กระดาษจะเป็นที่นิยมมากขึ้นในเวลาต่อมา
ในปัจจุบันหนัง Calfskin เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสามารถขัดให้เงาได้ง่าย ดูแลรักษาง่าย ซึ่งถ้าคุณต้องการซื้อรองเท้าหนัง Dress Shoes สักคู่ MDs ก็แนะนำให้เลือกหนัง Calfskin นี่แหละครับ
Patent Leather
หนังประเภทนี้คือหนังที่ได้รับการเคลือบให้เงามากที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยใช้หนัง Calfskin เป็นหลัก โดยทำการเคลือบสารพิเศษ ซึ่งพัฒนาต่อยอดจากการเคลือบแบบญี่ปุ่นในช่วง 1800s เพื่อให้ได้ผิวที่เงามันเป็นพิเศษ ซึ่งในปัจจุบันนั้น เลือกใช้พลาสติกเป็นหลัก
หนังประเภทนี้คือหนังที่เป็นทางการมากที่สุดในบรรดาประเภทหนังทั้งหมดที่เรากล่าวมา มักนิยมใส่คู่กับชุด Formal (ทางการสูง) อย่าง Tuxedo เป็นต้น
นี่คือประเภทหนังทั้งหมด 9 ประเภทที่นิยมนำมาผลิตเป็นรองเท้าให้พวกเราได้ใส่กัน โดยหนังแต่ละประเภทก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป คุณจึงควรรู้จักประเภทหนังแต่ละแบบไว้ก่อน เผื่อคู่หน้าถ้าคุณจะซื้อ ลองถามคนขายดูครับว่า “รองเท้าของคุณผลิตจากหนังอะไร” ว่าแล้วก็ลองเดินไปหยิบรองเท้าหนังที่คุณมีออกมาลองดูครับว่าคู่โปรดที่คุณชอบใส่ ผลิตจากหนังอะไรกันแน่