Waistcoats (Vests) หรือที่เรารู้จักกันในนาม เสื้อกั๊ก นั้น ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่การหยิบยืมสไตล์ดังกล่าวมาจาก Persian และวิวัฒนาการร่วมกันระหว่างฝรั่งเศสและอังกฤษ ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1660s ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง ของการเซ็นสนธิสัญญา The Secret Treaty of Dover โดย King Charles II ทว่า Waistcoats ในสมัยนั้น มีความยาวไปจนถึงต้นขาเลยก็มี แถมสูงขึ้นมาปิดคอแบบ V-Shape จนก้าวเข้าสู่ต้นปี คริสต์ศตวรรษที่ 19 Waistcoats จึงค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์มาเรื่อย ๆ จนคล้ายกับแบบที่เราพบเห็นได้ ณ ปัจจุบันใน 3 Pieces Suit Set นั่นเอง หากแต่ปัจจุบันนี้ เราจะพบเห็นการใส่เสื้อ Waistcoats น้อยลงเรื่อย ๆ ผู้คนเริ่มให้ความสำคัญกับเสื้อกั๊กน้อยลง ว่าแต่เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น วันนี้ MenDetails จะไขข้อสงสัยให้ครับ
เหล่านี้ คือ เหตุที่ทำให้คุณส่วนใหญ่ ณ ปัจจุบันเลิกใส่ Waistcoats กันครับ
1. Belt Loops
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ความนิยมชมชอบต่อการใส่เสื้อกั๊ก หรือ Waistcoats นั้น ลดน้อยถอยลงอย่างเห็นได้ชัด คงหนีไม่พ้นเจ้า Belt Loops นี่แหละ เนื่องจากในสมัยก่อนนั้น สุภาพบุรุษส่วนใหญ่มักเลือกใช้ Suspenders ในการยึดกางเกงให้อยู่กับที่ และมักนิยมสวมเสื้อ Waistcoats ทับ เพื่อไม่ให้เห็นรายละเอียดังกล่าว แต่เมื่อ Fashion จากฝั่ง West American เริ่มมีบทบาทมากขึ้น การเลือกใช้เข็มขัด และ Belt Loops ในการยึดกางเกงให้เกาะกับเอว กล่าวเป็นมาตราฐานใหม่ ใช้งานง่าย สวมใส่สะดวก ทำให้ Suspenders ค่อย ๆ หายออกไปจาก Fashion เสื้อผ้าสุภาพบุรุษ ซึ่งนั่นส่งผลถึงการสวมเสื้อ Waistcoats ทับด้วยเช่นเดียวกัน
การเลือกสวมเสื้อ Waistcoats (Vests) หรือเสื้อกั๊ก แล้วใส่คู่กับเข็มขัด จึงดูเป็นการแต่งตัวที่ผิดที่ผิดทางไปสักหน่อยครับ ดังนั้น แนะนำให้เลือกใส่อย่างใดอย่างหนึ่งพอ ไม่ต้องใส่ทั้ง 2 อย่าง แต่สุดท้ายก็ขึ้นกับสไตล์และความชอบของแต่ละบุคคลอยู่ดี หากแต่รู้ไว้ก็ไม่เสียหายนะครับ สุภาพบุรุษทุกท่าน
2. นาฬิกาข้อมือ
ในสมัยก่อนนั้น นาฬิกาพกพา จะมีขนาดใหญ่ราว ๆ เส้นผ่านศูนย์กลาง 4 เซนติเมตร ซึ่งสุภาพบุรุษในสมัยก่อน จำเป็นต้องมีกระเป๋าเฉพาะไว้ใส่นาฬิกาพกพาดังกล่าวนั่นเอง ซึ่งถ้าเป็นฝั่ง West Coast ของประเทศอเมริกา ก็จะเป็น Watch Pocket (ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า Coin Pocket) บนกางเกงยีนส์ แต่ในฝากฝั่งยุโรป กระเป๋าบนเสื้อ Waistcoats ถือเป็นช่องที่มีไว้ใส่นาฬิกาพกพาดังกล่าว เนื่องจาก นาฬิกา ถือเป็นของมีค่าซึ่งต้องเก็บไว้ในที่ที่ใกล้ตัวที่สุด แต่ ณ ปัจจุบัน เรามี นาฬิกาข้อมือ ที่เบาและบางกว่าในสมัยก่อนมาก จึงไม่มีความจำเป็นสักเท่าไรในการสวมเสื้อ Waistcoats นั่นเอง
3. แว่นตา
อีกหนึ่งสิ่งของที่เป็น ของมีค่ามาก ๆ ในอดีต และประหนึ่งแสดงสถานะทางสังคมนั่นก็คือ แว่นตา ในสมัยก่อนนั้น แว่นตาจะมีขนาดไม่ใหญ่มากก็จริง แต่มักแตกง่าย และมีราคาแพง ทำให้ผู้ที่มีไว้ในครอบครอง จำเป็นต้องหาที่เก็บรักษาที่มิดชิด และใกล้ตัว ง่ายต่อการหยิบมาใช้งานระหว่างวัน และจะมีที่ไหนดีไปกว่ากระเป๋าของเสื้อ Waistcoats จริงมั้ยครับ เสื้อ Waistcoats จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในสมัยอดีต แต่ในปัจจุบัน แว่นตานั้นมีความแข็งแรงมากขึ้น แถมมีน้ำหนักที่เบา ทนทาน สามารถสวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน จึงไม่จำเป็นต้องหาที่เก็บ หรือช่องพิเศษใด ๆ สำหรับอุปกรณ์ล้ำค่าชิ้นนี้ระหว่างวันนั่นเอง
4. ความร้อนที่เพิ่มขึ้นทุกปี
ถือเป็นปัจจัยสำคัญ และอาจเป็นปัจจัยหลัก เนื่องจากความร้อนที่เพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้ความนิยมในการใส่เสื้อผ้าหลาย ๆ ชั้นนั้น ถดถอยลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะการเลือกใส่เสื้อผ้าแบบ 3 Pieces Suit ที่ต้องมี Waistcoats อยู่ด้านใน จึงเป็นสาเหตุให้ชนชาติตะวันตกส่วนใหญ่ เลือกที่จะไม่ตัดชุดที่มี Waistcoats อีกต่อไป แล้วหันมาให้ความสนใจกับเสื้อแบบ Double Breasted หรือ 2 Pieces Suit คุณภาพสูงแทน
นี่คือหัวใจหลัก ๆ ที่ทำให้ความนิยมชมชอบต่อการใส่ เสื้อกั๊ก Waistcoats ลดน้อยถอยลงตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลง ทว่า ในมุมของพวกเราทีมงาน MenDetails นั้น รู้สึกชื่นชมทุกครั้งที่ได้เห็นสุภาพบุรุษท่านใดก็ตาม เลือกใส่เสื้อสูทแบบ 3 ชิ้นในช่วงเวลาสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน / งานประชุมระดับโลก / การไปร่วมงานแต่งงานของคนสำคัญ / งานเลี้ยงอาหารค่ำแบบ Sit Down Dinner / การเข้าร่วมประชุมในระดับประเทศ และอื่น ๆ อีกมาก ดังนั้น ถึงแม้การใส่เสื้อสูทแบบ 3 ชิ้น จะไม่ค่อยเป็นที่นิยมอีกแล้ว ณ ปัจจุบัน แต่หากคุณอยากจะเพิ่มความอนุรักษ์นิยม และคงไว้ซึ่งภาพลักษณ์ที่สง่างามจากยุคสมัย 1900s การมีเสื้อ Waistcoats ติดไว้สักชิ้น ดูจะเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด และแตกต่างอย่างมีสไตล์แน่นอน