งาน Trunk Show ที่ร้าน Refinement บนห้าง Central Emabssy ของ ร้านตัดสูท “Lecteur” อ่านออกเสียงเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า “เล็ค-เตอ” ที่มีความหมายหลายแบบ ทั้งหมายถึง ครูอาจารย์, ผู้อ่าน หรือ นักเขียน ที่สามารถแปลโดยองค์รวมได้เช่นกันว่า “ผู้ศึกษาหาความรู้” ร้าน สูท Lecteur เริ่มก่อตั้งในปี 2018 โดยคุณ Yuki Igarashi (ยูกิ อิงาราชิ) ที่มีประสบการณ์การทำงานที่ร้าน Classic Menswear ชื่อก้องของญี่ปุ่น อย่าง “Beams f” ร่วมมือกับคุณ Seiya Hirose (เซยะ ฮิโรเสะ) ที่สนใจเรื่องการตัดชุดสูทมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัย ทั้งคู่เริ่มต้นจากความต้องการที่จะพัฒนาวงการ Classic Menswear ให้มีมาตรฐานที่ดีและจ่ายค่าตอบแทนที่เหมาะสมให้กับช่างตัดเสื้อชาวญี่ปุ่น เพื่อให้อาชีพนี้เป็นอาชีพที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรีมากขึ้นกว่าในอดีตตามความคิดเห็นของพวกเขา
Interesting Business Model
โครงสร้างธุรกิจของ Lecteur มีความพิเศษไม่ค่อยเหมือนใคร โดยพนักงานแต่ละคนที่อยู่ในร้านจะถือเป็นหุ้นส่วนกันทั้งหมด เร่ิมจาก 2 คนในยุคแรก ขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้มีทั้งหมด 13 คนแล้ว ที่สำคัญคือทั้ง 13 คนต่างมีจุดแข็งไม่เหมือนกัน บางคนเก่งเรื่องขาย, บางคนเก่งเรื่องวัดตัว หรือบางคนก็เก่งเรื่องการแก้ไขสูท (Alteration) เมื่อมารวมตัวกันจึงกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งรอบด้านไปโดยปริยาย
แม้จะมีที่ตั้งของร้าน (Salon) เป็นหลักเป็นแหล่งทั้งในกรุงโตเกียว และ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น แต่ร้าน Lecteur ไม่รับตัดสูทให้ใครแบบสุ่มสี่สุ่มห้า โดยลูกค้า Lecteur จะเป็นลูกค้าส่วนตัวของ Partner ทั้ง 13 คนเป็นหลัก และจากนั้นลูกค้าแต่ละคนก็จะแนะนำลูกค้าใหม่ให้ Lecteur แบบปากต่อปาก แต่หากเป็นคนนอกที่สนใจจริง ๆ จะต้องติดต่อเข้าไปก่อนล่วงหน้า และจะมีการสอบถามเล็กน้อยถึงความสนใจและสไตล์ของแต่ละคน ว่าจะเข้ากันได้กับจิตวิญญาณของร้าน Lecteur หรือไม่
Lecteur Trunk Show with Refinement Thailand
นี่จึงทำให้เราสงสัยว่า “แล้วร้าน Refinement ประเทศไทย ไปทาบทาม Lecteur มาทำ Trunk Show ที่กรุงเทพได้อย่างไรกัน?” เรื่องนี้คุณ Kazuya Morioka (คาสุยะ โมริโอกะ) หนึ่งในหุ้นส่วนร้านได้บอกกับเราว่า “เพราะคุณต่อที่เป็นเจ้าของร้าน Refinement ถือว่าเป็นลูกค้าคนสำคัญของ Lecteur และตัดชุดสูทกับทาง Lecteur มาหลายชุดแล้ว ดังนั้นการทำ Trunk Show ในเมืองไทย จึงเปรียบเสมือนการแนะนำลูกค้าให้ Lecteur แบบปากต่อปาก โดยคุณต่อแห่ง Refinement นั่นเอง”
2 Style of Suit
ด้วยประสบการณ์ที่สะสมมาในแวดวงการตัดเย็บสูท ทำให้ Lecteur จุดเด่นในการออกแบบและพัฒนาสไตล์ของชุดสูทที่มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Lecteur เอง โดยนำเสนอรูปแบบการตัดเย็บสูทออกเป็น 2 สไตล์ ได้แก่ LC-10 และ LC-20
LC-10 ถือเป็น “ลายเซ็น” ของ Lecteur โดยแท้จริง LC-10 เกิดจากความคิดที่อยากจะผสมผสานสูทในสไตล์อังกฤษและอิตาเลี่ยนเข้าด้วยกัน เพื่อให้เหมาะกับการใส่สูทของผู้ชายชาวเอเชียโดยเฉพาะ เพราะถึงแม้พวกเราต้องการชุดสูทที่แลดูสุภาพเรียบร้อยแบบอังกฤษ แต่ก็อยากจะให้ชุดสูทที่ใส่แลดูเป็นธรรมชาติในสไตล์อิตาเลี่ยนด้วยเช่นกัน ผลลัพธ์ที่ได้คือสูทที่มีโครงบาง ๆ ตรงช่วงบ่าและช่วงอก ให้มีความภูมิฐานแบบสังเกตได้ แต่แนวไหล่ยังคงลาดลงอย่างเป็นธรรมชาติ และมีชายเสื้อที่โค้งเปิดออกชัดเจน (Open Quarter) แบบอิตาเลี่ยนเช่นกัน
LC-20 จะตรงไปตรงมามากกว่า เพราะ Lecteur พัฒนาโมเดลนี้ตามแบบ Neapolitan Style ดั้งเดิม ทุกสิ่งที่เป็นนาโปลีจึงอยู่ในสูทสไตล์นี้อย่างครบครัน ทั้งความเบาของโครงเสื้อที่ใส่สบายแทบจะเรียกได้ว่าเป็น Second Skin แบบเดียวกับที่ Neapolitan jacket ควรจะเป็น รวมถึงแนวไหล่และความโค้งของหัวแขนอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อม Spalla Camicia ที่เราสั่งได้ว่าจะให้มีมากน้อยแค่ไหน
Solaro suit from Lecteur
ในความเห็นของ MenDetails เราให้ความสนใจกับสไตล์ LC-10 มากกว่า LC-20 อยู่ระดับหนึ่ง เพราะเรามองว่า LC-10 คือ Signature style ของ Lecteur ที่เราไม่สามารถหาได้จากร้านหรือช่างตัดสูทเจ้าอื่น ๆ ในขณะที่ LC-20 คือ Neapolitan อย่างตรงไปตรงมา เราจึงตัดสินใจตัดชุดสูทกับ Lecteur ในโมเดล LC-10 ด้วยผ้า Solaro สีน้ำตาลอ่อนอมเขียวเล็กน้อย ซึ่งเรามองว่าเป็นผ้าและสีที่น่าสนใจ และเหมาะกับสไตล์ผสมผสาน British และ Italian แบบ LC-10 ได้ดีทีเดียว
สำหรับใครที่อ่านแล้วรู้สึกสนใจและอยากลองไปสัมผัสสไตล์ชุดสูทของ Lecteur ทั้ง LC-10 และ LC-20 ทางร้าน Refinement จะมีการจัดงาน Trunk show เพื่อให้ Lecteur แวะเวียนมาพบปะพูดคุยและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับชุดสูทของพวกเขาอย่างต่อเนื่องนับจากนี้ไป และเมื่อชุดสูท LC-10 ผ้า Solaro ของ MenDetails เสร็จเรียบร้อยเมื่อไหร่ เราจะนำมารีวิวอย่างใกล้ชิดให้ผู้อ่านทุกท่านได้พิจารณาอีกครั้งแน่นอนครับ