เพราะทิศทาง และสไตล์การแต่งตัวที่ชัดเจน จะสะท้อนถึงตัวตนของผู้สวมใส่ ยิ่งด้วยประสบการณ์ การได้เห็นคนในวงกว้างมากขึ้น ได้รับรู้ถึงมุมมองที่หลากหลาย มักเป็นองค์ประกอบสำคัญในการปรับเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของเรา ทว่า สำหรับคุณ กาย ศิรพล ฤทธิประศาสน์ นั้น ทิศทางการแต่งตัวเหมือนจะชัดเจนมาตั้งแต่วัยเด็ก กับเส้นทาง Classic Menswear ซึ่งน่าจะแตกต่างจากใครหลาย ๆ คน วันนี้ MenDetails จึงอยากหยิบเอาประสบการณ์ และการเดินทางของสไตล์ จากผู้ชายคนนี้มาให้ทุกท่านได้รู้จักกันมากขึ้น กับหนึ่งในเจ้าของร้าน The Decorum ที่ผลักดันด้วย Passion ด้านการแต่งตัวเป็นสำคัญ
เริ่มต้นจาก Boat Shoes และเสื้อเชิ้ต Oxford Button Down
จุดเริ่มต้นของคุณกาย น่าจะไม่ต่างจากใครหลาย ๆ คนครับ ที่เริ่มต้นด้วยการใส่เสื้อเชิ้ต Oxford Cloth Button Down จากแบรนด์อย่าง Ralph Lauren และรองเท้า Boat Shoes สไตล์ Preppy ที่เคยโด่งดังมาก ๆ ในช่วงยุค 1990s “เราก็ไม่ได้เริ่มจากเสื้อผ้าที่ไม่เหมือนใครนะ” คุณกายกล่าว ก่อนเสริมว่า “สมัยนั้นก็เริ่มต้นจาก Oxford Cloth Button Down นี่แหละ แต่ก็ชื่นชอบเสื้อผ้าแนว Classic Menswear อยู่แล้วมาตั้งแต่เด็ก จนขึ้นเกรด 12 มีโอกาสเดินทางไปที่เยอรมัน เราก็ไม่พลาดโอกาสที่จะเดินไปดูชุดสูทดี ๆ ตามร้านต่าง ๆ” ซึ่งเสื้อสูทตัวแรกที่ทางคุณกายเลือกซื้อกลับจากเยอรมันคือชุดสูทจากแบรนด์ Armani “สมัยนั้นก็จะมีสูทจากแบรนด์ Armani นี่แหละที่ดัง และเราเองก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปลองสักครั้งหนึ่ง”
แต่ช่วงที่เริ่มต้นจริงจังกับการตัดสูทนั้น จะอยู่ในช่วงอายุ 20 ปลาย ๆ เนื่องจากเริ่มศึกษาจริงจังมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นคนชอบเลือกซื้อสูทกลับบ้านมาทุกครั้งที่มีโอกาสเดินทาง “ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันนะ ทุกครั้งที่เดินทาง ก็มักจะมองหาชุดสูทเพื่อซื้อกลับบ้านเสมอ” คุณกายพูดขึ้น “เราก็เริ่มเลือกซื้อเสื้อสูทจากแบรนด์อย่าง United Arrows เป็นต้น แต่สมัยนั้นก็ยังไม่รู้หรอกว่า ต้องแต่งตัวยังไง แต่เห็นคนนั้นคนนี้ใส่แล้วสวย ก็เลยอยากแต่งตามบ้าง”
ชุดสูทที่เป็นจุดเปลี่ยนคือชุดสูทจากอิตาลี
หลังจากรู้ทิศทางและความชอบที่ชัดเจนมากขึ้นแล้ว คุณกายก็เริ่มต้นตัดชุดสูท และค่อย ๆ หา Tailor คุณภาพตามกำลังทรัพย์ที่มีในช่วงนั้น “ผมเริ่มต้นจากช่างตัดสูทในไทยนี่แหละ” คุณกายกล่าว “แต่ก็ไม่ได้ในแบบที่เราชอบนะ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไม่ชอบอะไร หลังจากนั้นก็ได้ลองชุดสูทจากฝั่งญี่ปุ่น ซึ่งเราเองก็ชอบมาก แต่ก็เริ่มต้นประสบการณ์ครั้งแรกซื้อสูทที่ญี่ปุ่น ที่ร้าน Taka Q ซึ่งเป็นร้านขายสูท Mass ของญี่ปุ่นเลย เราไปเดินห้าง AEON ไปลอง ก็เออทรงมันเข้ารูปดี (ตอนนั้นก็จะมีรสนิยมสูทตัวเข้ารูป ขาเล็กหน่อย) แต่สุดท้ายจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้จักสไตล์แบบชัดเจนมากขึ้นก็คือการได้ซื้อสูทจากแบรนด์ Sartoria Rossi ที่อิตาลี” แน่นอนว่า Feeling ในการสวมใส่นั้น ย่อมแตกต่างจากสูทในบ้านเราที่นิยมตัดในแบบ British Style แน่นอน กับหัวแขนที่กลม ใส่แล้วดูเข้ากับร่างกายได้ดี มองจากภายนอกไม่ดูแข็งจนเกินไป
“หลังจากนั้นก็ตัดสินใจเลือกตัดสูทกับแบรนด์ญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า Azabu Tailor เรียกว่าทดลองไปเรื่อยดีกว่านะ” ซึ่งหลังจากได้ชุดสูทมา คุณกายเองก็ยังไม่รู้สึกพอใจเท่าที่ควร เลยค้นหาต่อไปครับว่า มีแบรนด์ไหนอีกที่สามารถตัดได้ตามต้องการบ้าง จนสุดท้ายคุณกายก็ตัดสินใจตัดชุดสูท Bespoke กับ Sarto Dominica หรือที่รู้จักกันในนาม Sartoria Raffaniello ณ ปัจจุบัน “ผมรู้จักช่างตัดสูทคนนี้จาก Wallstreet Journal ซึ่งในสมัยนั้น Higashi ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก เราก็ส่ง E-mail ไปถามถึงระยะเวลาในการตัดสูท เขาก็ตอบมาว่าใช้เวล 3-4 วันก็ได้ 1st Fitting แล้ว เราก็เลยลงตัดกับเขาดู” ถือเป็นการตัดสูท Bespoke ครั้งแรกของคุณกาย และก็กลายเป็น Tailor ที่ติดต่อเข้ามาตัดชุดแบบ Made to Measure ให้ที่ร้าน The Decorum ในที่สุด
เสื้อผ้า Timeless Piece คือหัวใจสำคัญ
แน่นอนว่า ก่อนจะมาจนถึงจุดนี้ คุณกายเองก็มีคนที่เขาติดตามด้านการแต่งตัวอยู่ อาทิเช่น Yasuto Kamoshita เป็นต้น “คนที่เราตามส่วนใหญ่ก็จะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบบ Timeless Piece นะ” คุณกายกล่าวก่อนเสริมว่า “มันคือสไตล์ที่น่าสนใจ และอยู่ในนาน การแต่งตัวอาจมีแวะไปแนวอื่นบ้าง แต่หลัก ๆ แล้ว Timeless คือหัวใจสำคัญสำหรับผมนะ”
สำหรับ Timeless Piece ที่คุณกายอยากแนะนำให้ทุกท่านลงทุนซื้อคุณภาพดี ๆ ก็จะเป็น Suit Jacket ที่พอดีตัว ใส่ได้นาน “ก็คงหนีไม่พ้น Jacket นะผมว่า ถ้าตัดมาได้ดี ใส่ยังไงก็ดูสวยนะ แถมหาช่างที่ตัดได้ดี เข้ากับเรา ค่อนข้างยากเหมือนกัน จะลงทุนกับเสื้ผ้าแบบ Ready to Wear ก็ได้ อย่างเช่น United Arrows / Ring Jacket ผมว่าดี และใส่ได้นาน ซึ่งถือเป็นอะไรที่คุ้มค่าแก่การลงทุน”
Total Look ที่เน้นความ Formal
คุณกายเอง ถือเป็นผู้ชายที่ใส่ชุดสูทแล้ว ดูดีมาก ๆ คนหนึ่งเลยครับ ซึ่งชุดสูทที่คุณกายเลือกใส่วันนี้ จะเป็นชุดสูทสีเทาเข้มเกือบดำ เนื่องจากต้องการความทางการ และคุณกายเองต้องการมีชุดสูทที่สามารถใส่ไปงานศพได้ด้วยเช่นกัน จึงได้เลือกสีเทาเข้มเกือบดำ ซึ่งก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะครับ สำหรับใครที่ต้องตัดสูททางการในงานราชการไทย เปลี่ยนเป็นเทาเข้มแทน ก็น่าสนใจไปอีกแบบ แถมใส่ได้หลากหลายอีกด้วย
- Suit Single Breasted จากห้องเสื้อ Sartoria Corcos สไตล์ Florentine
- เสื้อเชิ้ต Kamakura Shirts Spread Collar
- Necktie จาก Drake’s
- ถุงเท้า Votta
- รองเท้า Black Tassel Loafers จาก Fugashin
ถือเป็น Look Formal ที่ Tune Down ลงมาหน่อยด้วยรองเท้า Tassel Loafers เพื่อให้ได้ความ Casual ขึ้นอีกนิด สามารถใส่ได้บ่อยขึ้น ในบริบทของบ้านเรา แบบไม่ดูแล้วทางการมากจนเกินไป
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการพูดคุยกันครั้งนี้ก็คือ สไตล์เป็นเรื่องที่บ่งบอกความเป็นตัวตน ซึ่งสามารถส่งต่อได้จากเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย คุณเองอาจไม่ได้ชื่นชอบ Classic Menswear ถึงขนาดนั้นหลาย ๆ ท่าน ทว่า การได้ทดลองค้นหา และลงลึกในสิ่งที่ชอบอย่างที่คุณกาย ศิรพล เลือกซื้อสูทแบบ Ready to Wear ไปจนถึงการสั่งตัดแบบ Bespoke เพื่อให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงสิ่งที่เรากำลังลงทุน เลือกซื้อ เพื่อบ่งบอกความเป็นตัวตนให้คนรอบตัวได้เห็น ซึ่งถ้าคุณมีโอกาสแวะเวียนไปเยือนที่ร้าน The Decorum คุณอาจได้เห็นคุณ กาย ในชุดสูท หรืออย่างน้อย ต้องมี Jacket ติดตัวอยู่เสมอ ๆ เพราะนั่นคือสไตล์ หาใช่ Fashion แต่อย่างใด