กลับมาเยือน 80/20 อีกครั้ง ตามคำเชิญชวนจาก Chef Andrew Martin กับบางเมนูที่เชฟเลือกปรับเปลี่ยนให้น่าสนใจมากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งเมนูอันเป็น Signature ของทางร้าน ได้รับเกียรติเช่นนี้ MenDetails ก็ไม่รอช้า เดินทางไปลิ้มลองกัน พร้อมกับการต้อนรับที่อบอุ่นเช่นเดิม เพิ่มเติมรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทางร้านจดจำได้มากขึ้น เช่น เครื่องดื่มที่ชอบ / ระดับความเผ็ดที่เหมาะสม เป็นต้น เรียกว่าเป็น Final Touch ที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียวครับ
ครั้งนี้เป็นการลอง Signature Tasting Menu ตัวใหม่ของทางร้าน 80/20 ครับ ซึ่งหลาย ๆ จานอาจคล้ายเดิม มี Twist บ้างเล็กน้อย ยกตัวอย่างเช่น Stormy Sea หรือจานปลาหมึกสด ซึ่งทางร้านหยิบเอาพริกขี้หนูออก ทำให้ไม่มีรสเผ็ดจัดจ้านเหมือนครั้งที่แล้ว ซึ่งเราเองกลับรู้สึกชอบครั้งนี้มากกว่าเล็กน้อย เพราะได้ความกลมกล่อมที่มากกว่า และเช่นเดิม ปลาหมึกรสชาติดีมากจริง ๆ ครับ (ยังเป็นจานโปรดในครั้งที่แล้ว และครั้งนี้เช่นเดิม) รวมถึงเมนู Moo Hom Mangda ที่รสชาติหอมมัน และอร่อยมากเช่นกัน
เมนูใหม่ที่พวกเราชื่นชอบอันดับแรกเลยคือ Tom Yum Yee-Poon ซึ่งหยิบเอาวัตถุดิบอย่าง ใบโอบะ มาเป็นฐานรองตัว Scallop ก่อนจะราดด้วยน้ำซุปที่มีส่วนผสมของส้มยูสุ แต่ได้ความเผ็ดร้อนในแบบต้มยำ ได้ความหวานจากหอยเชลล์ และความหอมแบบอโรม่า จากใบโอบะ เรียกว่าเข้าคู่กันได้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งเมนูที่แปลกใหม่มาก ๆ คงหนีไม่พ้น Kob Yang Prik Glua ซึ่งเชฟเลือกใช้ขากบจากจังหวัดนครสวรรค์ ก่อนจะนำไปนวดกับเกลือ เพื่อดึงเอากลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกจากขากบ ก่อนจะนำไปย่างและทานคู่กับพริกคั่ว ถือเป็นครั้งแรกของเราเลยครับ ในการลิ้มลองขากบขึ้นโต๊ะแบบ Fine Dinning แต่ถ้าไม่ได้บอกตั้งแต่แรกว่าเป็นขากบ รสสัมผัสที่ได้ก็คือเนื้อไก่ดี ๆ นี่แหละ ทานคู่กับพริกคั่ว ได้ความมัน หอมกลิ่นย่างถ่าน และความเผ็ดในคำเดียว
เมนูอย่าง Ped Yim Yim ยังคงเป็นจานโปรดที่รสชาติดี ด้วยเนื้ออกเป็ดที่ย่างจนหนังกรอบ เสิร์ฟคู่กับข้าวผัดเกาลัด และราดด้วยน้ำซอสหมูตุ๋น ถือเป็นเมนูที่อยากให้ทุกท่านได้มาลองกันครับ และก่อนเข้าสู่ Main Course ทางร้านก็เสิร์ฟเป็นตัว Sorbet ที่ทำจากข้าวคั่ว ทานคู่กับองุ่มหมักเหล้าขาว เพื่อคลีนต่อมรับรสในปาก ก่อนเข้าสู่อาหารจากหลักที่ค่อนข้างหนักต่อไป
Main Course ถือว่าเปลี่ยนยกชุดเลยครับ เริ่มต้นด้วย Grilled Wagyu Beef เสิร์ฟมาพร้อมแตงกวาดองและน้ำพริกบวกแคปหมู / Geang ที่เป็นแกงเนื้อรสชาติจัดจ้าน แต่ที่สำคัญคือ ตุ๋นเนื้อมาได้ดีเยี่ยมและนุ่มมากจริง ๆ ครับ / Pla จากนี้เลือกใช้ปลากระพงแดง นำไปทอดและทานคู่กับน้ำพริกหนุ่มในแบบฉบับของ 80/20 โดยเฉพาะ (จานนี้อร่อยมากครับ แนะนำเลย) / Pad Pak Ruam Mit ตามชื่อเลยครับ แต่เพิ่มเติมด้วยไข่นกกระทาทอดไว้ด้านบน / เครื่องเคียงมีทั้งขนุน และ หัวไชเท้าดอง เสิร์ฟพร้อมข้าวหุงเช็ดน้ำผสมขมิ้นร้อน ๆ
“เมนูเนื้อย่างนั้น เราไม่ได้ใช้วิธีการ Sous Vide เลยนะครับ” เชฟ Andrew กล่าว “แต่ที่เห็นคือการย่างด้วยไฟอ่อนทันทีที่ลูกค้าเดินเข้าร้าน 80/20 เพื่อให้ได้ความสุกและความนุ่มที่เหมาะสม”
นอกจากเนื้อย่างที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมแล้ว MenDetails ยังรู้สึกหลงรัก เมนูปลาทอดที่ทานคู่กับน้ำพริกหนุ่มในแบบฉบับ 80/20 เรียกว่ารสชาติดี กลมกล่อม แถมเนื้อปลายังสดมาก ๆ ครับ ส่วนแกงเนื้อนั้น ตุ๋นเนื้อมาได้นุ่มแบบละลายในปากเลยทีเดียว แต่ตัวแกงอาจรสชาติจัดไปสักหน่อยในความคิดเห็นส่วนตัว หากใครชอบรสแกงจัด ๆ คาดว่าเมนูนี้อาจเป็นจานโปรดได้ไม่ยากเช่นกัน
ของหวานยังคงเดิมครับ อย่าง Suan Maprow ยังคงเป็นเมนูที่ยอดเยี่ยมและหอมหวานมาก ๆ รวมไปถึง Khanom Chocolate Yang และ Sorbet ไข่แดง กับขนมบ้าบิ่น ถือเป็นการปิดจบ Signature Tasting Menu (3,500++) และ Wine Pairing (2,500++) ซึ่งไวน์ที่ทางร้านเลือกเสิร์ฟนั้น เข้ากับอาหารแต่ละจานได้เป็นอย่างดี แต่อยากให้เตรียมใจมาสักนิดนะครับ เพราะ Tasting Menu ของที่นี่ อาหารค่อนข้างมาก และอาจทำให้คุณอิ่มก่อนที่ของหวานจะมาถึง แนะนำงดข้าวกลางวันมาเลยครับ
80/20 Eighty Twenty (เอทตี้ ทเว็นตี้) ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง เขตบางรัก สามารถจอดรถได้ที่ บริษัท ยิบ อินซอย จำกัด ร้านเปิดวันพุธถึงวันอาทิตย์นะครับ ตั้งแต่เวลา 6pm – 11pm สำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ 099-118-2200