Dress Code คือแนวทางการแต่งกายที่เจ้าภาพของงานระบุไว้ล่วงหน้า เพื่อจุดประสงค์ให้แขกภายในงาน แต่งกายให้เหมาะสม และเป็นไปในทางทิศทางเดียวกัน เรื่องของ Dress Code นี้อาจทำให้ผู้ชายไทยหลายคนปวดหัว เพราะพวกเราไม่ได้คุ้นชินกับเรื่องดังกล่าวนี้มาตั้งแต่ต้น เนื่องจากวัฒนธรรมดังกล่าวเป็นวัฒนธรรมที่มาจากโลกตะวันตกซึ่งสำหรับผู้ชายไทยส่วนหนึ่งอาจมองว่า “เราคนไทยไม่จำเป็นต้องตามฝรั่ง”
Tom Ford และ Benedict Cumberbatch กับการแต่งกายให้ตรงตาม Dress code ที่เจ้าภาพได้กำหนดไว้ให้
ต่อเมื่อสถานะทางสังคมของไทยเปลี่ยนไป ชนชั้นกลางระดับสูงที่เพิ่มจำนวนขึ้นหลายเท่าในปัจจุบัน ทำให้ประเด็นเกี่ยวกับ Dress Code ค่อยๆ ทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้จากงานสังคมหลายๆงานที่เริ่มมีการแจ้ง Dress Code อย่างเฉพาะเจาะจง ต่างจากก่อนหน้านี้ที่เป็นอันรู้กันว่าขอแค่แต่งตัวให้สุภาพก็แล้วกัน
และนั่นคือที่มาของ Series “Dress Code 101” ของ MenDetails.com ในการสรุปเรื่องราวและวิธีการแต่งกายให้เหมาะสมกับ Dress Code ประเภทต่างๆที่เจ้าภาพผู้จัดงานระบุว่าในบัตรเชิญ ซึ่งในตอนแรกนี้เราขอเริ่มที่ Dress Code ระดับสูงที่เรียกว่า ‘White Tie’ กันก่อนเป็นอันดับแรกครับ
‘White Tie’ The Highest Dress Code for Gentleman
คำว่า “White Tie” คือชื่อ Dress code ที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา นั่นคือการระบุอย่างเฉพาะเจาะจงว่าผู้ชายจะใช้ โบว์ไทสีขาว (White Bow Tie) เท่านั้นภายในงานนี้ และอย่าได้สับสนกับ เนกไทสีขาว เด็ดขาด เพราะคำว่า “Tie” ใน Dresscode นี้มีความหมายเป็นโบว์ไท หรือหูกระต่าย “เท่านั้น”
“หูกระต่ายหรือโบว์ไทสีขาว” คือสิ่งสำคัญสำหรับงานประเภท ‘White Tie’ และอย่าเข้าใจผิดว่าให้ใส่ “เนกไทสีขาว” เป็นอันขาดนะครับ
หากในบัตรเชิญเข้าร่วมงานของเรามีการระบุ Dress code ว่า “White Tie” หรือ “Cravate Blanche” หรือ “Full Evening Dress” แนวทางการแต่งกายจะตายตัวและชัดเจน เพราะสิ่งที่ผู้ชายเราควรสวมใส่ไปเข้าร่วมงาน จะมีเพียงชุด Tails หรือ Tailcoat ซึ่งเป็นชุดโค้ทสีดำที่มีชายผ้าเป็นหางยาวลงมาด้านหลัง ใส่คู่กับเสื้อกั๊กสีขาว และเสื้อเชิ้ตตัวในสีขาว พร้อมสวมใส่ “โบว์ไทสีขาว” เป็นสำคัญเท่านั้น ส่วนรองเท้าจะใช้เป็นรองเท้าประเภท Opera Pump หนังเงา (Patent Leather) ซึ่งถือได้ว่าเป็นรองเท้าที่มีความเป็นทางการสูงที่สุดสำหรับผู้ชาย อย่างไรก็ตามในปัจจุบันได้มีการอนุโลมและยอมรับให้ผู้ชายสามารถใส่รองเท้าทรง Oxfords ไปงาน ‘White Tie’ ได้เช่นกัน
รูปแสดงชุด Tails สีดำของสุภาพบุรุษ ตัวเสื้อหน้าจะสั้นกว่าชุดสูททั่วไป และมีหางผ้ายาวลงมาด้านหลัง และเนื้อผ้าที่ตรงปกเสื้อแจ็กเก็ตจะแตกต่างจากเนื้อผ้าที่เป็นตัวเสื้อ ใส่คู่กับเสื้อกั๊กเว้าลึกสีขาว พร้อมเสื้อเชิ้ตสีขาว จบด้วยรองเท้าหนัง ‘Opera Pump’ สีดำเงา และที่สำคัญก็คือ “หูกระต่าย” หรือ Bow Tie สีขาว ตามชื่อ Dress code ‘White Tie’ | wikimedia.org
Dress code อย่าง “White Tie” ถือเป็น Dress code ที่อยู่ในระดับที่สูงที่สุดของการแต่งกายสำหรับสุภาพบุรุษในโลกยุคปัจจุบัน อย่างไรก็ตามโอกาสที่ผู้ชายจะได้รับบัตรเชิญไปในงานที่มี Dress code เป็น “White Tie” นั้นช่างหาได้ยากอย่างยิ่ง ตัวอย่างของงานดังกล่าวเช่น งานร่วมรับประทานอาหารอย่างเป็นทางการกับพระมหากษัตริย์ หรือประมุขของประเทศ หรืองานเต้นรำ (Ball) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เช่น The Vienna Opera Ball ในประเทศออสเตรีย เป็นต้น ส่วนงานที่มีความเป็นทางการมากเช่นกัน แต่ไม่ต้องมีพิธีรีตองถึงขั้นใช้ Dress code เป็น “White Tie” นั้น ทางเจ้าภาพจะระบุ Dress Code เป็น “Black Tie” แทน ซึ่ง MenDetails จะมีรายละเอียดมานำเสนอให้ได้อ่านกันใน MDs’ Dress Code 101 ตอนต่อไปนะครับ
งานเต้นรำที่จัดขึ้นที่โรงละครโอเปร่าในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย มี Dress code เป็น ‘White Tie’
หากจะพูดกันตามตรง โอกาสที่ผู้ชายเราจะได้ใส่ชุด Tails เข้าร่วมงานประเภท ‘White Tie’ นั้นมีน้อยมาก เว้นเสียแต่ว่าคุณจะทำงานในแวดวงข้าราชการระดับสูง หรือเป็นนักการเมืองที่มีตำแหน่งสำคัญ หรือเป็นผู้ที่นิยมร่วมงานเต้นรำหรูหราระดับโลกเป็นประจำ อย่างไรก็ตามเราปฏิเสธไม่ได้ว่าเราอาศัยอยู่ในสังคมที่เป็นโลกาภิวัฒน์ และเรื่องของ Dress code ก็ถือเป็นเรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างเป็นสากล ดังนั้นถึงแม้เราคนไทยอาจไม่ค่อยได้ใช้ Dress code ประเภท White Tie แต่การติดความรู้เรื่องนี้เอาไว้ย่อมดีกว่า และอาจเป็นประโยชน์ในอนาคตได้ครับ แล้วพบกันใหม่กับ Dress Code 101 ตอนต่อไปครับ