ถ้าพูดถึงคนที่เป็นหนึ่งใน “ตัวจริง” เรื่องนาฬิกาข้อมือระดับแนวหน้าของประเทศไทย หนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อของ ดร. โอ๋ ปราโมทย์ เหรียญเจริญสุข อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเขาเป็นทั้งผู้ก่อตั้งเพจ iamwatch ที่อัดแน่นด้วยข้อมูลของนาฬิการะดับแนวหน้าของเมืองไทย และเป็นผู้ดูแลทุกเรื่องราวเกี่ยวกับนาฬิกาที่ Gaysorn Village นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งแชมป์แฟนพันธุ์แท้นาฬิกา จากรายการแฟนพันธุ์แท้ในปี 2004 การันตีความเป็น “ตัวจริง” ได้เป็นอย่างดี
ในฐานะที่ MenDetails เองก็มีบทความเกี่ยวกับนาฬิกาพอสมควร บวกกับอยากทำซีรีส์ Watch Reveal ที่เราจะเชิญแขกรับเชิญมาพูดคุยเกี่ยวกับนาฬิกาเรือนโปรด นาฬิกาในความทรงจำ เราจึงถือโอกาสเชิญ “พี่โอ๋” มาพูดคุยเรื่องนาฬิกากับเราเป็นคนแรกในซีรีส์นี้ และพี่โอ๋ก็นำนาฬิกามาคุยกับเราถึง 9 เรือน แต่ละเรือนก็มีความน่าสนใจต่างกันไป แต่ละเรือนมีเรื่องราวอะไรบ้าง และส่งผลต่อพี่โอ๋อย่างไร ขอเชิญทุกท่านมาชม Collection นาฬิกาสุดรักทั้ง 9 เรือนของพี่โอ๋พร้อมกันครับ
Grand Seiko Heritage Collection
เรือนแรกของพี่โอ๋ เป็นเรือนที่เขาได้รับมาจากความสำเร็จ ในการแข่งขันรายการแฟนพันธุ์เรื่องนาฬิกาและเป็นผู้ชนะในหัวข้อนี้
นาฬิกาเรือนนี้เป็นนาฬิกาเรือนแรกที่นำเข้ามาอย่างถูกต้องผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ก่อนที่บริษัทดั้งเดิมจะเริ่มนำมาขายในประเทศไทย ซึ่งในยุคนั้นคนยังไม่ค่อยรู้จัก Grand Seiko จะรู้จักแต่ Seiko พอหลังจากเราเล่าความสามารถของนาฬิกาเรือนนี้ ที่ผมสามารถเล่าได้เยอะมากแล้ว คนก็ยังถามกันอยู่ดีว่า ตกลงรายการเขาให้ Seiko ใช่ไหม ก็เป็นความขำที่อยู่ในความทรงจำของผมมาตลอด แต่ถึงวันนี้ถ้าพูดถึง Grand Seik คนทั่วไปก็จะรู้กันดีว่าไม่ใช่ Seiko แล้ว
นาฬิกาเรือนนี้อยู่ในกลุ่ม Heritage Collection เป็นรุ่นดั้งเดิมที่ปัจจุบันนี้ขยายซีรีส์ไปจนกว้างขวางมาก ๆ แต่ในยุคนั้นมีอยู่น้อย เพราะในยุคแรกของ Grand Seiko ยังทำตลาดยังไม่กว้างมากนัก จะขายแค่ในประเทศญี่ปุ่น จะนำเข้ามาขายในไทยเฉพาะช่วง และกว่าจะเข้ามาขายเป็นเรื่องเป็นราวได้ก็ช่วงปี 2010 เพราะต้องใช้เวลาปูพื้นฐานความเข้าใจของคนทั่วไปอยู่หลายปี ซึ่งความพิเศษของนาฬิกาเรือนนี้ อยู่ที่สัญลักษณ์รายการแฟนพันธุ์แท้ที่สลักอยู่ เป็นเรือนเดียวที่ให้สำหรับผู้ชนะเลิศ และเป็นเรือนที่พี่โอ๋ภูมิใจมาก ไม่คิดแยกจากกันเด็ดขาด ต้องอยู่กับพี่โอ๋ตลอดไป
Zenith Elite
สำหรับนาฬิการุ่น Elite นี้พี่โอ๋บอกเราว่าเป็นรุ่นที่ไม่มีผลิตแล้ว เป็นรุ่นที่มีความพิเศษตรงตัวเรือน Rose Gold และมีมาร์คเกอร์เป็นสีน้ำเงิน พิเศษขึ้นไปอีกเพราะเป็นเรือนที่ผลิตเป็นพิเศษสำหรับร้าน Kirchhofer ในเมือง Interlaken สวิตเซอร์แลนด์ ที่เป็นเมืองเล็กๆ บรรยากาศเยี่ยม และคนไทยรู้จักกันดี โดยด้านหลังจะมีโลโก้ของร้านนี้อยู่
ความทรงจำของนาฬิกาเรือนนี้ คือการได้ไปท่องเที่ยวกับผู้ใหญ่ที่ผมเคารพมาก ได้ติดตามท่านไปด้วย ท่านเป็นคนที่คนในวงการนาฬิการักและเคารพมาก ปัจจุบันท่านเสียชีวิตไปแล้ว ตอนนั้นขออนุญาตซื้อตามท่าน เรือนของท่านจะเป็นหมายเลขหนึ่ง ของผมเลยขอเป็นหมายเลขสอง จากลิมิเต็ดเอดิชั่นจำนวนยี่สิบแปดเรือน เป็นเรื่องที่อยู่ในความทรงจำของผมมาตลอด และเป็นความทรงจำดีๆ ที่มีกับท่านที่ได้เดินทางและท่องเที่ยวไปด้วยกัน
Maurice Lacroix Icon 39 mm.
เรือนนี้เป็นรุ่นที่ยังขายอยู่ในปัจจุบันโดยรุ่น 39 มม. จะได้รับความนิยมน้อยกว่ารุ่น 42 มม. เล็กน้อย แต่สำหรับพี่โอ๋ขนาด 39 มม. เหมาะกับขนาดของมือมากกว่า ความพิเศษของเรือนนี้อยู่ที่ด้านหลังของนาฬิกา ที่มีการแกะสลักไว้ว่า “Founder Pramote” เป็นการแกะสลักที่ปกติจะไม่มีการแกะสลักแบบนี้
เนื่องจากในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา Maurice Lacroix เริ่มมาทำการตลาดอย่างจริงจังในประเทศไทย ผมเป็นหนึ่งใน Founder (ผู้ก่อตั้ง) ของ Maurice Lacroix Club Thailand ที่เป็นคนเริ่มต้นตั้งกลุ่มและสร้างกลุ่มคนรักนาฬิกาแบรนด์นี้ขึ้นมา ซึ่งน่ายินดีมากที่เราสามารถสร้างกลุ่มคน ได้หมื่นกว่าคนในเวลาสองปี ขณะเดียวกันก็สร้างตลาดของแบรนด์ให้ใหญ่โตมากจากเดิมที่เคยเป็น นาฬิกาเรือนนี้จึงเป็นหนึ่งในความทรงจำของ Founder ที่ผมเป็นหนึ่งใน 6 Founder ที่เราเริ่มต้นตั้งกลุ่มมาพร้อมกัน เลยเป็นหนึ่งในความทรงจำที่ดีของผมมาตลอด จับนาฬิกาเรือนนี้ทีไรก็จะรู้สึกได้ว่าพิเศษ แม้มองจากภายนอกไม่เห็นก็ตาม
Alba Gelato
เรือนนี้พี่โอ๋บอกว่าเป็นนาฬิกาง่ายๆ สไตล์ Alba เป็นรุ่นที่ในปีที่ผ่านมาได้รับความนิยมมากทีเดียว นั่นคือรุ่น Gelato จากสีสันบนหน้าปัดหลากหลายสี สำหรับเรือนนี้เป็นหน้าปัดสีฟ้าที่ถือว่าขายดีที่สุด แบรนด์นี้เป็นนาฬิกาที่อยู่ภายใต้กลุ่ม Seiko จึงใช้กลไกชุดเดียวกัน ซึ่งพี่โอ๋เลือกเรือนนี้มาคุยกับเราในวันนี้เพราะคุณแม่ของพี่โอ๋ครับ
ปีที่ผ่านมาคุณแม่อายุครบ 84 ปี มานั่งคุยกันแม่ก็บอกว่า อยากทำอะไรพิเศษให้หลานๆ เลยคิดทำนาฬิกามา ผมเลยขอให้มีการแกะสลักบริเวณขอบฝาหลังเป็นชื่อคุณแม่และคำว่า “84th Anniversary” เพื่อให้กับหลานๆ ทุกคน สำหรับเรือนนี้ผมแอบเอาของผมลูกชายมาใช้ก่อน เป็นความทรงจำที่พิเศษสำหรับครอบครัว
พี่โอ๋เสริมว่าหลายคนน่าจะมีมุมมองเดียวกันคือ ในวาระพิเศษหลายครั้ง นาฬิกาเรือนนั้นๆ ที่จะเป็นความทรงจำที่อยู่กับเราได้ตลอดไป แม้เรื่องของมูลค่าอาจไม่ได้สูงมาก แต่เรื่องทางจิตใจเป็นเรื่องระยะยาว และนาฬิกาเรือนนี้ก็ตอบโจทย์เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
Seiko 5 Sports
เรือนนี้เป็นความทรงจำส่วนตัวของพี่โอ๋ที่ทำเพจ iamwatch ขึ้นมาจากการที่ชอบนาฬิกา แล้วมารวมตัวกันหลายคน หลังจากครบรอบสองปีแรกก็เกิดความคิดอยากทำนาฬิกาสำหรับผู้ก่อตั้งทั้งหมด เป็นที่มาของการไปหานาฬิกา Seiko 5 Sports ที่ตอนนั้นอยู่ในซีรี่ส์จะสุดท้ายและจะไม่ผลิตแล้ว ก่อนจะเปลี่ยนเป็น 5 Sports ใหม่หมดในแบบปัจจุบัน แล้วเอาไปแกะสลักเป็นตราสัญลักษณ์ของเว็บด้านข้างตัวเรือน
Omega Seamaster Chronograph
เรือนนี้พี่โอ๋บอกเราว่าเป็นความต่อเนื่องหลังจากไปแข่งรายการแฟนพันธุ์แท้มา แล้วคุณพ่อของพี่โอ๋ในวันรุ่งขึ้นก็หยิบนาฬิกาเรือนนี้มาให้ ทำให้นาฬิกาเรือนนี้กลายเป็นความพิเศษและความทรงจำที่ดีที่สุดจากคุณพ่อ
จุดเด่นของนาฬิกาเรือนนี้พี่โอ๋บอกว่าแปลกหน่อย มาจากนิสัยของคุณพ่อพี่โอ๋ที่ชอบของที่แปลกไม่เหมือนใคร Omega Seamaster Chronograph เรือนนี้ก็ถือเป็นรุ่นยอดนิยมในยุคนั้น แต่เป็น Seamaster ในราคาที่สูงที่สุด และขายออกยากมากเนื่องจากระดับราคาที่สูง โดยมีวัสดุประกอบไปด้วย ไทเทเนียม แทนทาลัม และพิ๊งค์โกลด์ ทำให้เรือนนี้มีคุณสมบัติที่แปลก ซึ่งตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียมที่น่าจะเบาก็จริง แต่เพราะมีการใช้แทนทาลัมเป็นส่วนผสมทำให้น้ำหนักมากกว่าที่คิด แต่ก็ทำให้นึกถึงคุณพ่อที่สร้างทุกอย่างให้พี่โอ๋มีทุกวันนี้ทุกครั้งที่ใส่
Rolex Oysterquartz
เรือนนี้เป็นเรือนที่คุณพ่อของพี่โอ๋ใช้ตลอดเวลา และพี่โอ๋ก็ได้รับต่อมาจากคุณพ่อหลังจากท่านเสียชีวิตไป เป็นนาฬิกากลไกควอท์ซของทาง Rolex เอง ที่ในยุค 80s ได้ทำการพัฒนาขึ้นมาเป็นทางเลือกในรูปแบบของตัวเอง โดยยังคงความเป็นสไตล์ของตัวเรือนแบบ Oyster อยู่ แต่ลักษณะทั้งหลายมีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด เพิ่มความเหลี่ยม ให้ลุคแข็งแกร่งในสไตล์มินิมอลเพิ่มเข้าไปในแบบที่ Oyster เดิมไม่เคยมีมาก่อน และวางขายอยู่เกือบ 20 ปี ก่อนจะค่อยๆ ได้รับความนิยมน้อยลงจากการที่คนมองว่ากลไกควอท์ซน่าจะไม่ค่อยใช่ Rolex
ช่วงประมาณช่วงปี 2005 – 2010 อะไรที่ผลิตน้อยๆ ตอนนี้ก็กลายเป็นของดีไป วันหนึ่งไม่มีใครเอา วันนี้คนมาหากัน (นาฬิกา) เรือนนี้มีรูปแบบเหมือน Rolex เป๊ะเลยตามของสไตล์แบรนด์ แล้วก็มีมาร์คเกอร์เป็นเพชรแบบยอดนิยม แล้วก็รูปแบบสองกษัตริย์ ที่คุ้นเคยกันมากอย่างในยุคนั้นนี่ต้องสองกษัตริย์หน้าปัดต้องทอง คุณพ่อผมก็คงต้องตามสไตล์นี้ไปด้วย
Rolex Oyster Perpetual Day-Date
เรือนนี้พี่โอ๋บอกว่ายังคงอยู่กับคุณพ่อเหมือนเดิม เป็นเรือนที่คุณพ่อของพี่โอ๋รักมาก เพราะเป็นเรือนทองคำล้วนที่ทำให้มีความพิเศษและมีค่ามากขึ้นทันที เลยทำให้ไม่ค่อยได้ใส่ไปไหน ทำให้สภาพของนาฬิกายังคงดีมาก เป็นขนาด 36 มม.ที่พี่โอ๋บอกว่าเป็นขนาดยอดนิยมของ Rolex และแทบจะเป็นนาฬิกาแบรนด์เดียวที่สามารถทำขนาด 36 มม. ได้เนียนที่สุดและทุกคนทั่วโลกยอมรับ
เรือนนี้เหมือนกันเลยนะครับ Rolex ที่อยู่ในยุคนั้น รูปแบบ สไตล์ หน้าปัด ใช่เลย มาร์คเกอร์เพชรแน่นอน เรือนทองคำทั้งเรือนไม่ต้องพูดถึง ซูเปอร์ยอดนิยม เป็นเรือนที่ผมใช้บ้าง แต่ไม่ได้เยอะมาก เพราะไม่ค่อยใช่สไตล์ผม แต่ก็เป็นความทรงจำที่สำคัญที่สุดที่อยู่กับเรา
Rolex Oyster Perpetual Date
เรือนนี้เป็น Rolex อีกหนึ่งเรือน และเป็นเรือนที่พี่โอ๋ใส่มาพูดคุยกับเราในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ เป็นเรือนนี้เป็นของคุณลุงของพี่โอ๋ที่เสียชีวิตไปแล้ว ที่สนิทกันมากทางคุณป้าของพี่โอ๋จึงมอบนาฬิกาเรือนนี้ให้เก็บไว้ เพราะรู้ว่าพี่โอ๋เป็นคนที่รู้จักกับนาฬิกาต่างๆ เป็นอย่างดี พี่โอ๋จึงเก็บไว้และคอยดูแลอย่างดีมากตลอด เป็นนาฬิกา Rolex รุ่น Date หรือที่คนไทยเรียกว่าแบบจังหวะเดียว ที่เวลาหมุนวันบนหน้าปัดต้องหมุนไปข้างหน้าเรื่อยๆ ครบหนึ่งวัน
…ความทรงจำของคุณลุงอยู่กับผม ผมก็เลยเก็บไว้เป็นอย่างดีและก็คอยดูแลอยู่เสมอเพื่อรำลึกถึงคุณลุง แล้วก็รำลึกอีกอย่างหนึ่งว่า คนที่ใกล้ตัวเราที่เรารักทั้งหลาย ก็ค่อยๆ ไปตามทางเรื่อยๆ ตามทิศทางของตัวเอง ตัวเราเองก็ค่อยๆ มีอายุขยับไปเรื่อยๆ แล้วเหมือนกัน วันหนึ่งคงถึงเวลาของเรา ฉะนั้นอะไรที่เราทำได้ดีที่สุดในวันนี้ เราก็ทำเพื่อส่งมอบให้คนรุ่นต่อไป ก็ค่อยๆ เริ่มเร่งพิจารณาและเตรียมทุกอย่างไว้ให้สำหรับคนรุ่นต่อไปแล้ว
นี่คือนาฬิกาทั้ง 9 เรือนของ ดร. โอ๋ ปราโมทย์ เหรียญเจริญสุข ที่นำมาพูดคุยกับเรา และทำให้เราเห็นอีกแง่มุมหนึ่งของ “ตัวจริง” เรื่องนาฬิกาในประเทศไทยคนนี้มากยิ่งขึ้น ว่าอะไรที่มีอิทธิพลสำคัญในการเดินทางของพี่โอ๋จนทำให้พี่โอ๋เป็นอย่างทุกวันนี้ สำหรับใครที่อยากได้ข้อมูลนาฬิกาต่าง ๆ แบบจัดเต็ม สามารถเข้าไปอ่านเรื่องราวต่าง ๆ ของนาฬิกาได้ที่เว็บ iamwatch.net ของพี่โอ๋ได้ครับ ส่วนแขกรับเชิญคนต่อไปของเราจะไปใคร และจะมีอะไรมาบอกเล่าผ่านนาฬิกาก็ต้องรอติดตามกันครับผม