หากกล่าวถึงนาฬิการะดับ Luxury Watch เราเชื่อว่า แบรนด์ Rolex คือหนึ่งในนั้นแน่นอนครับ ซึ่งเชื่อแน่ว่า 1 ใน 3 เรือนที่เราจะกล่าวถึงต่อไปนี้ ไม่ว่าจะเป็น Rolex GMT / Submariner หรือ Daytona น่าจะเป็นที่ต้องการของใครหลาย ๆ คน ทว่า น้อยคนนักครับที่จะทราบว่า นาฬิกาที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นนั้น ใช้งานอย่างไร กับ Bezel ที่มีติดตัวนาฬิกา Sport Watch เหล่านี้ เราจึงขออนุญาตแนะนำวิธีการใช้งาน ที่ถือเป็นจุดกำเนิดของนาฬิกาเหล่านี้ให้ทุกท่านได้รู้จักกันครับ
Rolex GMT-Master II
ถือเป็นนาฬิกาที่เกิดขึ้นเพื่อบอกเวลาโดยเฉพาะ ตามชื่อรุ่นที่มีชื่อว่า GMT หรือชื่อเต็มว่า Greenwich Mean Time หรือเส้นบอกเวลาโลก ณ Greenwich, London ประเทศอังกฤษนั่นเอง ด้วยเอกลักษณ์ของขอบสีน้ำเงิน / แดง หรือที่รู้จักกันในชื่อ Pepsi หรือ ดำ / แดง หรือในชื่อ Coke ซึ่งถ้าทุกท่านสังเกตให้ดีจะพบว่าขอบของตัวเรือนนั้น มีตัวเลขบอกเวลาเริ่มตั้งแต่ 0-24 ไม่เหมือนรุ่นอื่น ๆ พร้อมเข็มพิเศษ GMT เพิ่มจากเข็มวินาที / นาที และชั่วโมง
ขอบ Bezel ของ Rolex GMT-Master II นั้น สามารถบอกเวลา Timezone ที่ 2 ได้ง่าย ๆ เพียงหมุนขอบ Bezel บวก / ลบตามจำนวนชั่วโมงที่แตกต่างของประเทศที่ต้องการ เทียบกับเวลา Timezone ณ ปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น หากนาฬิกาบอกเวลาประเทศไทยที่ 16:00น. และต้องการให้นาฬิกาบอกเวลาของประเทศญี่ปุ่นซึ่งเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ก็ให้หมุนขอบให้เข็ม GMT ชี้ไปที่ขอบ ณ ตำแหน่งเลข 18 บนขอบ เท่านี้ Rolex GMT-Master II ก็จะสามารถบอกเวลา 2 Timezone ได้ละครับ ด้วยการดูเข็ม GMT เพื่อดูเวลาที่ประเทศญี่ปุ่น และเข็มปกติก็จะได้เวลาประเทศไทย
Rolex Submariner
หนึ่งในนาฬิกาที่โด่งดังที่สุดเรือนหนึ่งในวงการ และถือเป็นนาฬิกาที่ MenDetails เองชื่นชอบมากเป็นพิเศษ เนื่องจากความเรียบ และสัดส่วนของตัวเรือนที่สวยงามลงตัว นี่คือนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำโดยเฉพาะจาก Rolex แต่นอกจากความสวยงามของตัวเรือนแล้ว ขอบของนาฬิกายังถูกออกแบบมาเพื่อนักดำน้ำโดยเฉพาะอีกด้วย
หากสังเกตขอบของนาฬิกา Rolex Submariner ให้ดี จะเห็นตัวเลข 0-60 นาที แต่จะเน้นช่วง 0-15 นาทีให้เห็นเด่นชัดที่สุด สืบเนื่องจากในสมัยก่อนนั้น การดำน้ำแต่ละครั้ง จำเป็นที่จะต้องวางแผนล่วงหน้ากับจำนวนออกซิเจนที่มีติดตัว ซึ่งถ้าเวลาที่สามารถดำน้ำได้ในระดับ 80 Feets อยู่ที่ 40 นาที นักดำน้ำจะหมุนขอบ Bezel ไปเพื่อคำนวนเวลา โดยเผื่อเวลา 15 นาทีไว้สำหรับการขึ้นเหนือน้ำนั่นเอง นี่จึงเป็นคุณสมบัติหลักของขอบ Bezel ที่มีรายละเอียดจาก 0-15 นาทีที่ชัดเจนบนเรือนเวลา Rolex Submariner นั่นเองครับ
Rolex Daytona
อีกหนึ่งรุ่นนาฬิกา ที่เป็นหมุดหมายของนักสะสมที่ชื่นชอบความเร็ว กับ Rolex Daytona เรือนเวลาที่เป็นเหมือนมิตรคู่ใจบนข้อมือ Steve McQueen เรือนเวลาที่พัฒนาขึ้นเพื่อจับความเร็วโดยเฉพาะ กับ Cosmograph ที่มีหน้าปัดเล็กอีก 3 อันอยู่ภายใน โดยจุดประสงค์หลักของ Rolex Daytona นั้นก็เพื่อจับความเร็วรถยนต์ในสนามแข่งเป็นหลักครับ
ตัวขอบของนาฬิกา Rolex Daytona นั้น จะมีตัวเลขอยู่เต็มไปหมด หลาย ๆ ท่านอาจคาดไม่ถึงว่า ตัวเลขต่าง ๆ นั้น คือตัวบ่งบอกอัตราความเร็ว 1/4 Mile หรือ Quarter Mile นั่นเอง ซึ่งตัวนาฬิกาจะมีปุ่มกด 2 ปุ่มนอกเหนือจากเม็ดมะยม โดยปุ่มด้านบนจะเป็นปุ่มเริ่ม / หยุดจับเวลา ปุ่มด้านล่างคือปุ่ม Reset เพียงกดปุ่มด้านบน แล้วให้เข็มวินาทีวิ่งไปเรื่อย ๆ จนถึงระยะทาง Quarter Mile แล้วกดหยุดเวลา คุณก็จะสามารถทราบได้ว่า รถยนต์ของคุณ ทำความเร็วสูงสุดที่เท่าไรในระยะ Quarter Mile นั่นเอง
หลายท่านอาจคิดว่า ขอบ หรือ Bezel รอบ ๆ เรือนนาฬิกา Sport นั้น มีไว้ประดับให้ทรงของตัวเรือนมีความสมดุลและสวยงาม ซึ่งก็ถือว่าใช่ ทว่า ตัวขอบของนาฬิกาเองนั้น ยังสามารถบอกรายละเอียดต่าง ๆ ตามกิจกรรมนั้น ๆ ที่ผู้สวมใส่เลือกซื้อหาใช้งาน และนี่คือหนึ่งในสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้คุณหลงไหลมากกว่าแค่ราคาที่เพิ่มสูงขึ้นตาม Demand และ Supply ในตลาดเท่านั้น และถ้าคุณเป็นคนที่รักนาฬิกาแนว Sport รายละเอียดเหล่านี้คุณไม่ควรมองข้ามก่อนการตัดสินใจซื้อมาประดับข้อมือนะครับ