คาดว่าทุกท่านที่อ่านเว็ปเรา น่าจะพอรู้จัก นาฬิกา Garmin กันอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ทางเราเอง โปรดปราน โดยเฉพาะเรื่องระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานกว่า Smartwatch ตัวอื่นๆ มาก บางรุ่นสามารถใช้งานได้นานถึง 14 วันเลยก็มี แต่สิ่งที่อาจจะขัดใจเราในบางโอกาส น่าจะเป็น 2 อย่างครับ ได้แก่ การตอบสนองที่อาจจะช้าสักหน่อย และหน้าจอที่ความละเอียดค่อนข้างต่ำ แน่นอนครับ แต่ละรุ่นก็มีข้อดีข้อเสียของมัน อย่างในรุ่น Instinct ก็เลือกใช้หน้าจอขาว / ดำ ไปเลย แล้วปรับปรุงเรื่องความเร็วในการตอบสนองแทน ซึ่งสามารถทำได้ดี ส่วนตัวใหม่อย่าง นาฬิกา Garmin Venu ก็ปรับเปลี่ยนหน้าจอจาก MIP ให้กลายเป็น AMOLED ในที่สุด วันนี้เราเลยหยิบมาให้ดูกันครับ
ขนาดหน้าจอเท่าเดิม เพิ่มเติมคือความละเอียดของ AMOLED
สิ่งแรกที่น่าจะเตะตาทุกคนที่ได้สัมผัสเจ้า นาฬิกา Garmin Venu ตัวนี้เลยก็คือ “หน้าจอที่คมชัด” เนื่องจากทาง Garmin ได้ปรับเปลี่ยนหน้าจอแสดงผลจาก MIP (Memory In Pixel) มาเป็น AMOLED (Active Matrix Organic Light Emitting Diode) ซึ่งขึ้นชื่ออย่างมากเรื่องการแสดงผลหน้าจอที่คมชัด (จากเทคโนโลยี Active Matrix) และให้สีดำที่ดำสนิทมากกว่าหน้าจอประเภทอื่นๆ
-ในพื้นที่ Outdoor ก็ยังสามารถมองเห็นได้อย่างดี-
ถึงแม้หน้าจอจะละเอียดขึ้น คมชัดขึ้น แต่การตอบสนองยังมี Delay อยู่บ้างเล็กน้อย และอาจสู้ความละเอียดของ Smartwatch แบรนด์ยักษ์ใหญ่ในตลาดไม่ได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่เราเลือก Garmin ถูกมั้ยครับ?
ใช่ครับ ถ้ามานั่งดูกันแบบละเอียดๆ เลย จะพบว่า หน้าจอของ นาฬิกา Garmin Venu ตัวนี้ ยังไม่ละเอียดเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ รวมถึงความลื่นไหลที่อาจเป็นรอการตอบสนองอยู่บ้าง แต่การได้อะไรที่ Update ขึ้นจากตัวเก่า ก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดีไม่ใช่น้อยในความคิดเห็นของเรา
จุดเด่นยังคงเดิมคือ ชาร์จครั้งเดียว อยู่ได้นานถึง 5 วัน
ในระดับ Smartwatch ด้วยกัน เราเชื่อว่ามีไม่กี่เจ้าเท่านั้นครับที่สามารถทำได้ กับระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานถึง 5 วันบนหน้าจอแบบ AMOLED โดยเฉลี่ยแล้วนั้น Smartwatch โดยทั่วไปมักมีระยะเวลาในการใช้งานเพียง 1-2 วันเท่านั้น ยิ่งเป็นนาฬิกาที่จับการเคลื่อนไหวตลอดเวลาด้วยแล้ว มีโอกาสอยู่ได้เพียง 12-18 ชั่วโมง ซึ่งหลายๆ ท่าน อาจคิดว่า ระยะเวลาเท่านี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว เราขอให้ท่านได้มาลองใช้งานนาฬิกา Garmin ดูครับ รับประกันว่า ท่านจะไม่สามารถกลับไปใช้งานนาฬิกาที่ต้องชาร์จทุกคืนได้แน่ๆ
ใช้งานได้ทั้ง iOS และ Android
ไม่ต้องเลือกค่ายให้วุ่นวายครับ เพราะนาฬิกาเรือนนี้สามารถใช้งานได้ทั้ง 2 ค่าย เพียงแค่ Download App Garmin ลงบนมือถือ เท่านั้น โดย Function บางอย่างอาจไม่รองรับใน iOS เช่น การตอบสนองข้อความผ่านนาฬิกา จะมีรองรับบนระบบปฏิบัติการ Android เท่านั้น
นอกจากการใช้งานได้ทั้ง 2 ระบบแล้ว ตัวนาฬิกายังมีการแสดงผลแบบ Animation สำหรับท่าออกกำลังกายในโหมด Strength / Cardio / Yoga และ Pilates บนข้อมือได้ทันที เรียกว่า ง่ายและไม่ต้องทำความเข้าใจให้ยุ่งยาก
ถ้าที่กล่าวมา ยังไม่หนำใจ นาฬิกา Garmin Venu ตัวนี้ยังสามารถบรรจุเพลงได้สูงสุดถึง 500 เพลง ไว้สำหรับฟังในระหว่างการออกกำลังกายได้อีกด้วย เห็นหลายท่านชอบโหลดเพลง หรือไม่ก็ Podcast มาไว้ฟังระหว่างทำกิจกรรมแบบ Routine เช่น ขับรถ / รอขึ้นเครื่องบิน / วิ่ง เรือนนี้ช่วยได้โดยไม่ต้องกดเปิดมือถือ
-พร้อมสายแบบ Quick Release ที่ช่วยให้การเปลี่ยนสายสามารถทำได้ด้วยตัวเอง-
ด้วยตัวเรือนขนาด 43.2 มิลลิเมตร (รวมขอบของตัวเรือนแล้ว) เรียกได้ว่า เป็นไซส์กลางๆ กำลังดี อาจจะหนักกว่าเพื่อนๆ อย่าง Garmin Forerunner 245 Music และ Vivoactive 3 Music อยู่บ้าง โดยมีนำ้หนักอยู่ที่ 46.3 กรัม ซึ่งถือว่าไม่มากอยู่ดี หากเทียบกับนาฬิกาทั่วๆ ไป แต่กลับได้คุณสมบัติที่มากกว่า ดังนั้น ถ้าคุณกำลังมองหานาฬิกา Smartwatch สักเรือนโดยเน้นเรื่อง ระยะยเวลาในการใช้งาน / หน้าจอที่คมชัด / บรรจุเพลงได้ / ใช้งานสะดวก Garmin Venu อาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ สนนราคาอยู่ที่เรือนละ 14,500.- หรือจะเลือกรุ่นสำหรับ “ขาลุย” อย่าง Instinct ก็น่าสนใจเช่นกัน