ก่อนอื่น ขอเปิดตัวก่อนเลยว่า “ถ้าคุณเริ่มต้นก้าวเข้าสู่สาย Smartwatch แล้ว อาจกลับไปนาฬิกาปกติไม่ได้แล้วนะครับ” ซึ่งนาฬิกาที่เรากำลังจะบอกเล่าเก้าสิบให้คุณอ่านเรือนนี้ มีสไตล์ที่ยอดเยี่ยม ออกแนว Streetwear คล้ายกับแบรนด์ๆ หนึ่งที่โด่งดังมากๆ ในตลาด ณ ปัจจุบันเลยก็ว่าได้ นาฬิกาดังกล่าวก็คือ Garmin ‘Instinct’ แบรนด์นาฬิกาสาย Sport ที่เราโปรดปรานนั่นเอง
ถือเป็นเรือนที่ปรับภาพลักษณ์ Garmin ไปค่อนข้างมากเลยทีเดียว
โดยปกติแล้ว นาฬิกา Garmin มักจะมาในรูปแบบเรียบหรูสักหน่อย ไม่ค่อยมีแนวดุดันๆ ซึ่งเราเชื่อลึกๆ ว่าตัว Garmin เอง อยากจะผลักในนาฬิกาของตนขึ้นไปอยู่ในระดับ Premium Sport Watch บางเรือนถึงกับเลือกใช้ Sapphire Crystal (วัสดุระดับ Premium ที่มีอยู่ในนาฬิการะดับสูงเกือบทุกเรือน) เลยทีเดียว แต่สำหรับรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ‘Instinct’ ถือว่าปรับเปลี่ยนไปมากพอสมควร จากตัวเรือนกลมๆ เรียบๆ ขอบโลหะอย่าง Fenix 5 กลายเป็นขอบพลาสติกที่หุ้มขึ้นมาเล็กน้อยคล้าย G-Shock
ส่วนที่ชอบน่าจะเป็นเรื่องทรงเหลี่ยมด้านขวาที่ยื่นออกมานิดหน่อย เพราะมันทำให้ตัวนาฬิกาไม่ดูเรียบเกินไป ให้กลิ่นไอนาฬิกาจับเวลาเบาๆ
ทรงโดยรวมยังคงเรียบอยู่ครับ แต่ Masculine แบบบึกบึนหน่อยๆ ถือเป็นทรงกำลังดี ไม่เยอะไปไม่น้อยไปครับ หยิบมาแต่งตัวง่ายทีเดียว กล่าวคือตัวนาฬิกาไม่ดูเยอะจนเลอะเทอะ แต่ก็ไม่ได้ดูเรียบจนต้องใส่กับเสื้อเชิ้ตตลอดเวลานั่นเอง แถมได้รับ U.S. military standard 810G ซึ่งถือเป็นมาตราฐานอุปกรณ์ที่ใช้ในหน่วยงานด้านการทหารของสหรัฐฯ มั่นใจได้ว่ากันกระแทกได้ดีแน่นอน
ปุ่มกดง่ายดาย แถมคำสั่งต่างๆ Delay น้อยมากจนแทบมองไม่เห็น
ถ้าคุณเป็นอีกท่านหนึ่งที่ใช้ Garmin อยู่แล้ว จะพอทราบว่า การเลื่อนฟังค์ชั่นต่างๆ บนนาฬิกา จะมีการ Delay เล็กน้อย ก่อนที่ตัวนาฬิกาจะ Responded ด้วยการเปลี่ยนหน้าหรือเริ่มต้นจับเวลาเป็นต้น แต่สำหรับเจ้า Instinct ถือว่าน้อยจนแทบมองไม่เห็นอาการ Delay เลยครับ ตอบสนองการใช้งานได้ดีเยี่ยม ต่อมาคือตัวปุ่มกดด้านข้าง Garmin ได้เปลี่ยนรูปแบบของปุ่มให้มีขนาดใหญ่ขึ้น กดง่ายขึ้น และให้ความรู้สึก Clicky มากขึ้น ซึ่งทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว
หน้าจอย้อนยุคสักหน่อยกับ Dot Matrix จากยุค 90s
-ที่ชาร์จของ Garmin ยังคงใช้ร่วมกันกับรุ่นอื่นๆ ได้ครับ-
เนื่องจากยึดสไตล์ 90s มาอยู่แล้ว การเลือกหน้าจอจึงเลือกใช้ Dot Matrix ให้มันเข้ากับความเป็น 90s ไปเลยครับ ซึ่งถือเป็นไม่กี่เรือนจาก Garmin ที่ยังเลือกใช้ Dot Matrix ในการแสดงผล ซึ่งส่วนตัวคิดว่าลงตัวใช้ได้เลยทีเดียว เพราะนอกจากจะแสดงผลได้ชั้นเจนแล้ว ยังให้ Contrast ที่ดี ถึงแม้ความละเอียดจะมาเพียง 128 x 128 Pixel แบบขาวดำล้วนๆ ก็ตามที ซึ่งเจ้าหน้าจอแบบนี้ ส่งผลดีอย่างหนึ่งที่เป็น Highlight สำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม
Battery อึดสุดๆ ชนิดที่ว่า “เปลี่ยนไปใช้แบรนด์อื่นยาก” เลยทีเดียว
เราไม่ได้ล้อเล่นครับ Garmin Instinct เรือนนี้สามารถอยู่ได้สูงสุดถึง 2 อาทิตย์ในการชาร์จเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่ได้ล้อเล่นนะครับ ซึ่งถ้าคุณจะมองหา Battery ที่อึดพอๆ กัน คุณอาจต้องขยับไปเล่นรุ่น Fenix 5 เลยนะ อาจเป็นเพราะหน้าจอที่ไม่ละเอียด และเป็นแบบ Dot Matrix ทำให้กินพลังงานน้อย และถึงแม้ว่าคุณจะใช้โหมด GPRS Tracking นาฬิกาเรือนนี้ก็สามารถใช้งานได้นานสุดถึง 14 ชั่วโมงเต็ม จนเราแอบมานั่งคิดเล่นๆ ว่า ใครกันจะ Tracking ยาวนานเกิน 14 ชั่วโมงบ้าง ถ้าไม่ใช่ระดับ Explorer จริงมั้ยครับ
ตัวเรือนสามารถทำงานได้ครบเกือบทุกอย่างครับ โดยเฉพาะรายละเอียด Basic ทั่วๆ ไปคือมีครบในเรือนเดียว ตั้งแต่การจับชีพจร / วิ่ง / ปั่นจักรยาน / เดิน / ว่ายน้ำ หรือแม้แต่ Open Water ก็สามารถใช้งานได้ (ตัวเรือนกันน้ำถึง 10 ATM หรือ แรงดันน้ำเทียบเท่าความลึกระดับ 100 เมตร) แต่จุดที่อาจทำให้คุณลังเลเล็กน้อยน่าจะเป็นเรื่องของราคา เพราะนาฬิกาเรือนนี้สนนราคาอยู่ที่เรือนละ 11,500.- (เท่ากับ Vivoactive เลย)
ปัญหาส่วนใหญ่ของผู้ใช้ Smartwatch ที่พบส่วนมากเลยคือ Battery ครับ เพราะส่วนมากจำเป็นต้องชาร์จวันต่อวัน ซึ่งเป็นอะไรที่ค่อนข้างหน้าปวดหัวทีเดียว ยิ่งต้องเดินทางบ่อย ลืมพกสายชาร์จไปด้วยนี่น่าจะลำบากเลยนะครับ แต่สำหรับ Garmin แล้ว คำว่า 2 อาทิตย์คือ 2 อาทิตย์จริงๆ หายห่วงได้เลยกับทริปสั้นๆ แบบ 3 วัน 2 คืน ไม่ต้องพกสายชาร์จไปให้ยุ่งยากครับ
สำหรับ Garmin Instinct น่าจะเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่อยากจะก้าวมาสู่สาย Smartwatch ที่ยังไม่เจอนาฬิกาที่หน้าตาดูดีแนว G-Shock นั่นแหละครับ ตัวนี้น่าจะตอบโจทย์เกือบทุกข้อเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากต้องชาร์จ 2 อาทิตย์ต่อครั้งแล้ว เจ้า Garmin Instinct ก็ดูจะมีข้อดีอยู่เยอะ ชนิดที่ว่า “ลืมนาฬิกาเรือนเก่าไปได้เลย”
ข้อความข้างต้น น่าจะเป็นคำตอบที่ดีสำหรับใครที่อยากก้าวเข้าสู่วงการ Smartwatch แต่ติดที่รูปลักษณ์ยังไม่โดนใจสาย Streetwear เอาเป็นว่า เราขอท้าให้ไปลองจับกันก่อน แล้วลองเปิดใจกันดูครับ แต่ข้อเตือนนะว่า “ถ้าก้าวข้ามมาแล้ว จะกลับไปหานาฬิกาปกติได้ยากมากนะครับ” แล้วอย่าหาว่าเราไม่เตือน