สำหรับผู้ชายที่กำลังจะเลือกซื้อสูทแบบ Made To Measure (MTM) กับร้านสูทชั้นนำที่ใช้ผ้าวูลคุณภาพดีมาตัดเป็นชุดสูทให้กับเรานั้น สิ่งหนึ่งที่มักทำให้เราสับสนและไม่รู้จะเลือกอย่างไรก็คือ ตัวเลข ‘Super s’ ที่กำกับอยู่บนผ้าวูลแต่ละชิ้น แต่ละแบบ ที่มีตั้งแต่ Super 80s – 90s – 100s ไล่ไปเรื่อยๆจนถึง 250s เลยก็มี ซึ่ง MenDetails เองเชื่อว่ายังมีผู้ชายอีกเป็นจำนวนมากที่อยากจะรู้ว่า จริงๆแล้วตัวเลข ‘Super s’ เหล่านี้มีความหมายอย่างไรกันแน่ และถ้ายิ่งตัวเลข S นี้สูง ผ้าก็ยิ่งจะแพง และคุณภาพก็จะดีกว่าเสมอไปจริงๆหรือ?
วันนี้ MenDetails จะมาไขข้อข้องใจนี้ ด้วยการอธิบายคร่าวๆว่า Super S คืออะไร และผู้ชายควรเลือกผ้าเบอร์ไหนมาตัดเป็นสูทของตัวเองนะครับ
เจ้าตัวเลขที่อยู่ Super นั่นมันคืออะไรกันแน่? | kinslager.com
ตัวเลข Super s บนผ้าวูลคืออะไร?
ตัวเลข Super s ที่กำกับอยู่บนผ้าวูล บ่งบอกถึงความบางของเส้นใยผ้าที่นำมาทอเป็นผ้าผืนสำหรับนำไปตัดเป็นสูท ตัวเลขที่ยิ่งเยอะหมายถึงความบางของเส้นใยที่บางลงเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น ผ้าที่มีตัวเลข Super 80s กำกับจะทอผ้าจากเส้นใยผ้าที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 19.5 ไมครอน ส่วนผ้า Super 250s จะเล็กกว่าโดยอยู่ที่ราว 11.25 ไมครอน เมื่อนำผ้าที่มีเส้นใยเล็กมากๆมาทอ จึงจำเป็นต้องอาศัยการทอที่ ‘ถี่และละเอียด’ มากขึ้นกว่าเส้นใยผ้าที่หนากว่า ส่งผลให้เนื้อผ้านั้นเนียนเรียบและนุ่มมากขึ้นเช่นกัน แต่กลับกันผ้าที่มีตัวเลข Super S สูงๆนั้นก็จะมีราคาที่แพงกว่า และมีข้อเสียในเรื่องของความทนทานของเนื้อผ้าที่จะต่ำกว่า ดังนั้นการจะเลือกเนื้อผ้าวูลแบบไหน มีตัวเลข Super S สูงขนาดไหน ย่อมต้องขึ้นอยู่กับสไตล์ และจุดประสงค์ในการใช้งานชุดสูทของเราด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าตัวเลขสูงกว่า จะต้องดีกว่าเสมอไปครับ
ตารางแสดงความแตกต่างของขนาดเส้นใยผ้าสำหรับแต่ละเบอร์ | Linkedin.com
ผู้ชายควรเลือกผ้าวูลเบอร์อะไรมาตัดสูทของตัวเอง
อย่างที่เราบอกไปแล้วว่า ผ้าที่มีตัวเลข Super S สูงๆ ไม่ได้แปลว่าจะต้องดีกว่าเสมอไป เพราะสำหรับผู้ชายที่ใช้งานสูทค่อนข้างหนัก ใส่เป็นปกติแทบทุกวัน และไม่ต้องการที่จะต้องมาคอยดูแลประคบประหงมสูทให้มากเกินไปนัก การเลือกใช้ผ้าวูลที่มีค่า Super S ประมาณ 80s-100s จะมีความเหมาะสมมากกว่า ด้วยความทนทานที่ดีกว่า ยิ่งถ้าชอบเนื้อผ้าที่มีการทอค่อนข้างห่างอย่าง Hopsack Wool การใช้ผ้าที่ตัวเลข 80s-100s จะช่วยให้สูทของคุณใช้งานได้ทนทานมากกว่า และยับยากกว่าเนื้อผ้าที่มีตัวเลข Super S สูงๆครับ
ผ้า Fine Worsted Wool ระดับ Super 100s | terapeak.com
ส่วนผ้าที่มีตัวเลข Super S ราว 110s-130s จะเหมาะกับผู้ชายที่ “เดินทางสายกลาง” คือต้องการความดูดีมีระดับเพิ่มขึ้น และเข้าใจความจำเป็นในการดูแลรักษาสูทมากขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่อยากให้สูทของเราดู ‘Fine’ หรือเรียบลื่นหรูหรามากเกินไปนัก เนื้อผ้าระดับนี้จะเหมาะกับสไตล์ของคุณครับ
ผ้าวูลผสมแคชเมียร์ ระดับ Super 130s | bradfordthread.com
แต่สำหรับผู้ชายคนไหนก็ตามที่ต้องการจะตัดสูทเอาไว้ใช้สำหรับออกงานเท่านั้น ใส่เพียงแค่นานๆครั้ง และทุกครั้งที่ใส่ก็ต้องการให้สูทของเราออกมาดูดีที่สุด MenDetails ขอแนะนำให้ยิงไปที่ผ้าที่มีตัวเลข Super S สูงๆ ตั้งแต่ 140s-180s ได้เลย เพราะจะได้เนื้อผ้าที่เรียบ และลื่นมือกว่า แลดู premium มีระดับ และจะเป็นเนื้อผ้าที่ทิ้งตัวเพื่อให้สูทคงรูปทรงได้ดีกว่าอีกด้วยครับ แต่ก็จะมีข้อเสียคือผ้าจะยับง่ายกว่า และอายุการใช้งานจะน้อยกว่าโดยเปรียบเทียบ อีกกลุ่มหนึ่งที่เหมาะมากสำหรับผ้าระดับนี้ก็คือบรรดา “เจ้าบ่าว” ที่อยากจะตัดสูทหรือทักสิโด้ให้หล่อที่สุดในงานที่ (หวังว่า) จะมีครั้งเดียวในชีวิต ผ้าวูลระดับนี้จะเหมาะกับคุณอย่างยิ่งครับ
ผ้าวูลผสมแคชเมียร์ ระดับ Super 180s | terapeak.com
สุดท้ายสำหรับผ้าวูลที่มีตัวเลขระดับ Super 190s ขึ้นไปจนกระทั่งแตะ 250s โดยส่วนตัว MenDetails มองว่าเกินความจำเป็น และไม่ได้สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนมากกว่าระดับ 180s แล้ว เราจึงแนะนำให้หยุดแค่ที่ประมาณ 180s (ถ้าจำเป็น) ก็พอครับ แต่ถ้าอยากจะลองสัมผัส เราก็อยากจะขอท้าให้ลองดูได้นะครับ
ถือว่าพอสมควรแล้วสำหรับความรู้คร่าวๆในเรื่องของตัวเลข Super S บนผ้าวูลที่เรานำมาตัดเป็นเสื้อสูทกัน หวังว่าน่าจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ชายที่กำลังมองหาสูทระดับคุณภาพ เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกเนื้อผ้าวูลคุณภาพดี ที่จะนำมาตัดเป็นชุดสูทให้เหมาะกับสไตล์และการใช้งานของตัวเองนะครับ MenDetails ขอให้ได้สูทสวยๆถูกใจกันทุกคนครับ