ถ้าพูดถึงร้าน Streetwear ในสยาม คงไม่มีใครไม่รู้จักร้านที่มีชื่อ V.A.C จริงมั้ยครับ วันนี้ MDs ได้มีโอกาสนั่งพูดคุยกับเจ้าของร้าน Streetwear / Sneakers / House Brand และอื่นๆ อีกมาก นั่นก็คือ คุณ บ๊อบ วรากฤช วิวัฒนาเกษม หรือที่รู้จักกันในนาม Bob VAC นั่นเอง ซึ่งในปีนี้ยังเป็นปีที่ครบรอบ 7 ขวบของ V.A.C อีกด้วย งานนี้ต้องไม่ธรรมดา MDs จะลองล้วงความลับมาให้ทุกท่านอ่านกันดูครับ
MDs : เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ในวงการ Streetwear บ้านเรา เลยอยากถามพี่บ๊อบว่า เหตุการณ์ไหนที่เกิดขึ้นกับร้าน V.A.C ที่พี่บ๊อบคิดว่าพีคและน่าจดจำที่สุด
Bob : ส่วนตัวคงชอบตอนที่มี Nike Yeezy เข้ามาขายนะ ซึ่งตอนนั้นน่าจะเข้ามาแค่ 6-8 คู่ด้วยซ้ำ ถ้าจำไม่ผิด แต่ลูกค้าก็เข้ามาจนแน่นร้านเลยแบบเกือบ 200 คน แออัดกันอยู่ข้างล่างแล้วก็จับฉลากกันว่าใครจะเป็นผู้โชคดีได้รองเท้า Nike Yeezy กลับบ้านไป เลยคิดว่าน่าจะเป็นจุดพีคที่สุดในรอบ 7 ปีที่ผ่าน ส่วนที่น่าจดจำก็คงเป็น Rastaclat สำหรับผม จะบอกว่า Air Jordan ก็ได้แต่แค่มันมีหลายครั้งที่เราเอาเข้ามาขายและคนก็ต่อกันเต็มร้าน แต่พอมีการมาเข้าคิวซื้อสินค้าที่ไม่ใช่ “รองเท้า” อย่าง Rastaclat หรือแม้แต่ V.A.C Culture ที่เป็นแบรนด์ของเราเอง มันก็จะเป็นอีกความรู้สึกว่า ลูกค้าชอบสินค้าอย่างอื่นที่เรานำเข้ามา รวมถึงสินค้าที่เราออกแบบเองขนาดนี้เลยหรอ อะไรทำนองนั้น เลยเป็นที่น่าจดจำสำหรับผม
MDs : เนื่องจาก V.A.C กำลังจะมี Collection พิเศษฉลองครบรอบ 7 ปี แต่เราเห็นว่าพี่บ๊อบไม่ได้ร่วมงานเฉพาะกับแบรนด์เสื้อผ้าเท่านั้น ยังร่วมงานกับแบรนด์อย่าง Z1mplex ของพี่ทอมด้วย เลยอยากรู้ที่มาที่ไปของ Collaboration ครบรอบ 7 ปีครั้งนี้ครับ
Bob : เริ่มต้นก่อนก็คือ เราไม่ชอบทำอะไรตามกระแส ถ้าใครรู้จักผมดี หรือตามผมในโลกออนไลน์จะพอทราบ ซึ่งเราก็มองย้อนกลับไปถึงตอนแรกที่เราตั้งร้าน V.A.C ขึ้นมา คือเราไม่ได้ตั้งใจเปิดร้านขึ้นมาเพื่อทำเงินให้ได้มากที่สุด ตอนนั้นเราลงทุนกับร้านที่มีพื้นที่ประมาณ 200 ตารางเมตร กับรองเท้าบาสและ Sneakers ที่เราชอบ ซึ่งเมื่อ 7 ปีที่แล้วไม่มีใครสนใจเสียด้วยซ้ำไป ตอนนี้ครบรอบ 7 ปี เราก็อยากจะตอกย้ำจุดยืนเดิมว่าเราไม่ได้เปลี่ยนไป เรายังอยากทำอะไรที่เราชอบ ไม่น่าเบื่อ อยากพัฒนาจนไปเป็น Culture จึงไม่อยากจำกัดตัวเองแค่เสื้อผ้าและการร่วมงานกับศิลปิน ซึ่งพอมีโอกาสครบรอบ 7 ปี เราก็อยากทำอะไรใหม่ๆ อย่างพี่ทอม Z1mplex ก็ถือเป็นสุดยอดคนหนึ่งของสาย Mixology Shooter หรืออย่าง The Voice Foundation เราก็อยากทำอะไรเพื่อตอบแทนสังคมเหมือนกัน เพราะจริงๆ ลึกๆ ก็อยากทำอะไรเพื่อสังคมนะ อยากเป็นจุดเล็กๆ ที่สร้างความเปลี่ยนแปลง ซึ่งถ้าสิ่งนี้สามารถส่งต่อถึงลูกค้าได้ คงเป็นความสุขมากๆ ของผม
MDs : แล้วทำไมต้องทำตอนครบรอบ 7 ปีด้วยครับ ไม่แบบ 10 ปี อะไรแบบนั้นไปเลย
Bob : เพราะเป็นคนชอบเลข 7 และชีวิตก็ผูกพันธ์กับเลข 7 มาตลอดนะ ด้วยความที่เราเกิดวันที่ 7 และเกิดตอน 7 โมง ชื่อร้านแรกของเราก็ตั้งเป็น VII Athletic Club ซึ่งก็มีเลข 7 แบบโรมันอยู่ในนั้น เป็นคนอินกับเลข 7 มาโดยตลอด ส่วนสาเหตุที่ต้องเป็นปีนี้ก็เพราะว่า ทุกๆ ปีเนี่ย พอครบรอบก็อยากทำอะไรพิเศษออกมาเหมือนกัน แต่เราไม่ได้มีเวลามานั่งดู มันมักมีอะไรเข้ามาติดขัดเสมอๆ เดี๋ยวเปิดสาขาใหม่บ้างหล่ะ แต่พอเข้าปีที่ 7 เราก็เลยตั้งใจลงมือทำมันออกมาจริงๆ จังๆ เพราะร้านเรามีความเกี่ยวข้องกับเลข 7 ค่อนข้างเยอะ ซึ่งเอาเข้าจริงก็วางแผนมาปีกว่าเลยนะ
MDs : ครบรอบ 7 ปี ไม่ว่างาน Collaboration ชิ้นไหนก็น่าสนใจไปเสียหมด แต่อยากถามพี่บ๊อบครับว่า ชิ้นไหนที่พี่บ๊อบแบบตั้งตารอ หรือชื่นชอบเป็นพิเศษบ้าง
Bob : จริงๆ ทุกชิ้น ทุก Collection ก็มีความเจ๋งอยู่ในตัวมันหมดนะ แต่ถ้าถามว่าส่วนตัวตั้งตารออะไรเป็นพิเศษมั้ย คงจะเป็น Collection | Z1mplex อันนี้คือส่วนตัวเลยนะ เพราะลูกค้าอาจจะไม่อิน เนื่องจากอาจจะไม่ได้รู้จัก Z1mplex แต่ด้วยเราเองเนี่ยอยากรู้มากว่า ถ้าเราลองร่วมงานกับร้าน Mixology Shooter แล้วมันจะออกมาเป็นยังไง และก็ Concept ที่เรากับพี่ทอมคิดขึ้นมาเนี่ย เชื่อว่า Streetwear ยังไม่น่ามีใครหยิบมาใช้เป็นตัวขับเคลื่อน สินค้าก็น่าจะแตกต่างแน่นอน อีกอันน่าจะเป็นที่ทำกับ Rastaclat เพราะเหมือนเราเอาความชอบของตัวเองไปใส่ไว้ในนั้นแบบเต็มๆ
MDs : พูดถึงเลข 7 มาเยอะ เลยอยากถามครับว่า “ของจริง 7 ในชีวิตที่ขาดไม่ได้เลยมีอะไรบ้างครับ”
Bob : ตอบง่ายมาก อันดับ 1 เลยคือ ลูก ต่อมาคือแฟน / รองเท้า / กล้อง / มือถือ / ความรัก และ Concept ในการใช้ชีวิต คือทุกคนย่อมต้องมีจุดมุ่งหมายในชีวิตนะ ไม่งั้นคงใช้ชีวิตไปวันๆ ซึ่งถ้าทุกคนมีความฝัน ให้นิยามกับมัน นี่แหละคือ Concept การใช้ชีวิตที่ผมขาดไม่ได้ เพราะมันทำให้ชีวิตเรามีความหมาย
MDs : สุดท้ายอยากให้พี่บ๊อบแนะนำของ 7 อย่างที่อยากให้ทุกคนมาลองที่ร้าน V.A.C ดู
Bob : อย่างแรกเลยคือ Rastaclat แน่ๆ อย่างแรก เนื่องจากใส่ได้เรื่อยๆ แถมใส่ไปไหนก็ได้ ต่อมาคือ หมวก เพราะคิดว่าเราน่าจะเป็นร้านที่นำหมวกมาขายมากที่สุดในร้านประเภท Multi-Brand ด้วยกัน ที่เห็นในร้านคือประมาณครึ่งเดียว จริงๆ มีอีก แต่ไม่มีที่วาง รองเท้า BRANDBLACK ซึ่งคนไทยอาจจะยังไม่รู้จัก แต่ถือเป็นรองเท้าบาสที่หน้าตาไม่ค่อยเหมือนรองเท้าบาส แต่ใส่เล่นได้ดีเลยทีเดียว ต่อมาคงเป็น เสื้อผ้า V.A.C Culture นะ อยากให้ลองมาหยิบจับดู รวมถึงเสื้อผ้าแบรนด์ไทยทั้งหมดที่เรามี เพราะอีกไม่นานเราจะหยิบเอาแบรนด์คนไทยดีๆ มาวางขายด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งต้องเป็นแบรนด์ดีๆ แน่นอน ก็อยากให้เปิดใจมากขึ้น ต่อมาเป็น รองเท้าสีขาว ละกัน คือคนไทยหลายๆ คนไม่ค่อยกล้าใส่รองเท้าสีขาวยกเว้นที่เป็นรุ่นดังๆ แต่จริงๆ รองเท้าสีขาวนี่ใส่ได้หลากหลายมาก เช่น AirForce 1 / Puma หรืออื่นๆ อย่างสุดท้ายคงฝาก V.A.C สาขาอื่น ละกัน คือพอพูดว่า V.A.C เนี่ย หลายๆ คนก็จะถึงแค่สาขาเดียว แต่เรามีอีกหลากหลายสาขาซึ่งครอบคลุมหัวเมืองในกรุงเทพฯ เลยนะ ก็อยากแนะนำให้ไปดูกันได้
อีก 7 ปีข้างหน้า V.A.C อาจจะกลายเป็นแบรนด์ Culture ที่ยิ่งใหญ่ตาม Motto ที่ว่า “More Than Store” พี่บ๊อบอยากให้ร้านนี้เป็นเหมือนชีวิตของคน ของลูกค้าที่เดินเข้ามาที่ร้านเพื่อได้รับสิ่งดีๆ กลับออกไป ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าเสื้อผ้า หรือแม้กระทั้งโซฟาก็อาจจะเป็นไปได้ ยังไงลองติดตามดูนะครับกับ Collection ครบรอบ 7 ปีของร้าน V.A.C ที่เลือกทำกับแบรนด์ทั้งหมด 7 แบรนด์ ที่มีความหลากหลายมากกว่าแค่เสื้อผ้า และกำลังจะถยอยปล่อยวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : VAC Thailand ได้เลย